Home
|
เคดิตฟรี jdb

วันนี้ (23 มี.ค.2566) ความคืบหน้าจากกรณีเหตุการณ์ช

เคดิตฟรี jdb

วันนี้ (12 ธ.ค.2567) ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุยิงภายในบ้านพักของนายสุนทร วิลาวัลย์ และนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีต รมช.ศึกษาธิการ ในพื้นที่ อ.เมืองปราจีนบุรี จนเป็นเหตุให้นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ สจ.โต้ง

วันนี้ (3 ส.ค.2565) ในการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ที่มีนายวราเทพ รัตนากร รองประธาน กมธ.ฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้พิจารณาลงมติตามความเห็นที่อนุ

อาเซียนตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 8 ส.ค.2510 หลังการลงนามในปฏิญญาสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Declaration of ASEAN Concord) หรือที่รู้จักอีกชื่อหนึ่งว่า ปฏิญญากรุงเทพฯ (Bangkok Declaration) โดยรัฐมนตรีจาก 5 ประเทศ ได้แก่ โดยที่ประเทศผู้ร่วมก่อตั้ง เห็นว่าการตั้งองค์กรความร่วมมือระดับภูมิภาค จะมีส่วนช่วยป้องกันการเกิดความขัดแย้ง และ ส่งเสริมการระงับข้อพิทาทโดยสันติวิธี ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ทั้งนี้ ปฏิญญากรุงเทพฯ กำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์สำหรับอาเซียน 7 ประการ ได้แก่ หลังการจัดตั้งอาเซียนแล้ว ต่อมาอาเซียนได้เปิดรับสมาชิกใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ นับแต่ก่อตั้ง ประเทศสมาชิกอาเซียนพยายามส่งเสริมการยึดมั่นในบรรทัดฐานร่วมกัน และสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างผู้กำหนดนโยบาย ความร่วมมือที่เกิดขึ้นระหว่างกันมีส่วนช่วยป้องกันความขัดแย้งไม่ให้เกิดขึ้นระหว่างกัน มีส่วนช่วยป้องกันความขัดแย้งไม่ให้เกิดขึ้นในภูมิภาค ทำให้ไม่มีสงครามระหว่างกันและยังประสบความสำเร็จในการส่งเสริมให้อาเซียนเป็นเวทีที่ประเทสมหาอำนาจหลายประเทศเข้าร่วมหรือหารือในฐานะประเทศคู่เจรจา (Dialogue Partnership) รวมทั้งมีความร่วมมืในกรอบความร่วมมืออาเซียน+3 (ASEAN+3) ด้วย อาเซียนได้วางรากฐานของการบูรณาการทางเศรษฐกิจในภูมิภาคโดยการจัดตั้ง เขตการค้าเสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area หรือ AFTA) และยังมีความตกลงอื่เคดิตฟรี jdbนๆ ทั้งในอาเซียนเองและกับประเทศคู่เจรจา เพื่อส่งเสริมให้อาเซียนเป็นระบบเศรษฐกิจที่เปิดต่อประชาคมโลก ส่งเสริมความร่วมมือในระดับภูมิภาคในการอนุรักษ์สภาพแวดล้อม การต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อร้ายแรง และ ความร่วมมือสาขาอื่นอีกมากมาย ตลอดจนส่งเสริมความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวให้เกิดขึ้นในภูมิภาค ในยุคโลกาภิวัตน์ที่สถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ประเทศต่างๆ ให้ความสำคัญกับการรวมตัวกันในภูมิภาค เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองและเพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขันในเวทีระหว่างประเทศ อาเซียนจึงต้องปรับตัวให้เท่าทันสถานการณ์ เพื่อให้สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที การผนึกกำลังของประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ย่อมทำให้ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง และ ปัญหาท้าทายได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และช่วยให้เสียงของอาเซียนมีน้ำหนัก สร้างความเชื่อถือในอาเซียน และ ทำให้อาเชียนมีอำนาจต่อรองในเวทีระหว่างประเทศมากขึ้น ในปี 2546 ผู้นำอาเซียนต่างเป็นพ้องกันว่า ถึงเวลาแล้วที่อาเซียนควรจะร่วมมือกันให้เหนียวแน่น เข้มแข็ง และมั่นคงยิ่งขึ้น จึงกำหนดให้มีการสร้าง ประชาคมอาเซียน ที่ประกอบด้วย 3 เสาหลัก ได้แก่ ไม่แทรกแซงกิจการภายใน (Principle of Non-interference) หลักการนี้ทำให้อาเซียนมีความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน เนื่องจากแต่ละประเทศสมาชิกต่างเห็นตรงกันว่า ไม่ต้องการให้ผู้อื่นเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของตน รวมทั้งแนวคิดที่ว่าปัญหาภายในประเทศไม่สามารถแก้ไขโดยมาตรการลงโทษจากภายนอก เร่งรัดกระบวนการปรองดองในเมียนมา อาเซียนช่วยผลักดัน เร่งรัด และ เจรจา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเมียนมา เพื่อนำประชาธิปไตยกลับสู่ประเทศ พร้อมกับเรียกร้องให้เมียนมาปล่อยนักโกษการเมือง รวมถึงนางออง ซาน ซูจี อย่างไรก็ดี อาเซียนไม่เห็นด้วยต่อการคว่ำบาตรและใช้มาตรการตอบโต้ทางเศรษฐกิจเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองภายในพม่า เพราะเห็นว่าเป็นมาตรการที่ไม่ได้ผลและไร้ประโยชน์ ทั้งจะส่งผลกระทบต่อประชาชนชาวพม่า ใช้เวทีเจรจาสร้างสัมพันธ์ อาเซียนยังมีกลไกเพื่อปฏิสัมพันธ์กับประเทศนอกภูมิภาคเพื่อสร้างความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงระหว่างกันที่สมดุลและสร้างสรรค์ โดยผ่านเวทีการหารือระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ผ่านการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก (East Asia Summit - EAS) ทำให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปราศจากการสู้รบทางการทหารมาเป็นเวลามากกว่า 20 ปีแล้ว เขตปลอดนิวเคลียร์ ประเทศสมาชิกอาเซียนร่วมลงนามกันใน สนธิสัญญาว่าด้วยเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia Nuclear-Weapon-Free Zone Treaty) ซึ่งได้ลงนามเมื่อเดือน ธ.ค.2538 มุ่งให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ ไม่พัฒนา ไม่ผลิต ไม่จัดซื้อ ไม่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ ไม่เป็นฐานการผลิต ไม่ขนส่งอาวุธนิวเคลียร์ ไม่ทดสอบ และ ไม่ใช้อาวุธ นิวเคลียร์ในภูมิภาค นอกจากนี้ ยังห้ามไม่ให้รัฐใดปล่อยหรือทิ้งวัสดุอุปกรณ์ที่เป็นกัมมันตภาพรังสีลงบนพื้นดิน ทะเล และอากาศ ส่งเสริมท่องเที่ยว ประเทศสมาชิกอาเซียนจัดการประชุมร่วมกันด้านการท่องเที่ยวเป็นประจำทุกปีในเดือน ม.ค. โดยหมุนเวียนกันจัดในประเทศสมาชิกกันไป นอกจากนั้นยังให้ความร่วมมือส่งเสริมการท่องเที่ยว จัดทำรายการโทรทัศน์ ริเริ่มการทำ Single Visa ให้ใช้เดินทางเข้าได้หลายประเทศเหมือนกับ Schengen Visa ของยุโรป ธงอาเซียนมีความหมาย แสดงถึงความมั่นคง สันติภาพ ความเป็นเอกภาพ และ พลวัตของอาเซียน เป็นที่มาของสี 4 สี ที่รวบรวมจากสีของธงประเทศสมาชิกอาเชียนทั้งหมด สัญลักษณ์ของอาเซียน คือ รวงข้าวสีเหลือง 10 ต้น เป็นตัวแทนของประเทศสมาชิกทั้ง 10 ประเทศขณะที่วงกลมที่อยู่รอบรวงข้าว แสดงถึงความเป็นเอกภาพ ความเป็นหนึ่งเดียว และ ความสมานฉันท์ของอาเซียน คำขวัญอาเซียน "One Vision, One Identity, One Community" ซึ่งแปลได้ว่า หนึ่งวิสัยทัศน์ หนึ่งอัตลักษณ์ หนึ่งประชาคม ที่มา : กรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ

วันนี้ (5 ส.ค.2566) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทวิตข้อความแจ้งเลื่อนการเดินทางกลับประเทศไทย

วันนี้ (14 ก.ย.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรุ่งนี้ (15 ก.ย.) จะมีการเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก เขต 1

วันนี้ (8 ก.พ.2567) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปก

อาเซียนตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 8 ส.ค.2510 หลังการลงนามในปฏิญญาสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Declaration of ASEAN Concord) หรือที่รู้จักอีกชื่อหนึ่งว่า ปฏิญญากรุงเทพฯ (Bangkok Declaration) โดยรัฐมนตรีจาก 5 ประเทศ ได้แก่ โดยที่ประเทศผู้ร่วมก่อตั้ง เห็นว่าการตั้งองค์กรความร่วมมือระดับภูมิภาค จะมีส่วนช่วยป้องกันการเกิดความขัดแย้ง และ ส่งเสริมการระงับข้อพิทาทโดยสันติวิธี ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ทั้งนี้ ปฏิญญากรุงเทพฯ กำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์สำหรับอาเซียน 7 ประการ ได้แก่ หลังการจัดตั้งอาเซียนแล้ว ต่อมาอาเซียนได้เปิดรับสมาชิกใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ นับแต่ก่อตั้ง ประเทศสมาชิกอาเซียนพยายามส่งเสริมการยึดมั่นในบรรทัดฐานร่วมกัน และสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างผู้กำหนดนโยบาย ความร่วมมือที่เกิดขึ้นระหว่างกันมีส่วนช่วยป้องกันความขัดแย้งไม่ให้เกิดขึ้นระหว่างกัน มีส่วนช่วยป้องกันความขัดแย้งไม่ให้เกิดขึ้นในภูมิภาค ทำให้ไม่มีสงครามระหว่างกันและยังประสบความสำเร็จในการส่งเสริมให้อาเซียนเป็นเวทีที่ประเทสมหาอำนาจหลายประเทศเข้าร่วมหรือหารือในฐานะประเทศคู่เจรจา (Dialogue Partnership) รวมทั้งมีความร่วมมืในกรอบความร่วมมืออาเซียน+3 (ASEAN+3) ด้วย อาเซียนได้วางรากฐานของการบูรณาการทางเศรษฐกิจในภูมิภาคโดยการจัดตั้ง เขตการค้าเสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area หรือ AFTA) และยังมีความตกลงอื่เคดิตฟรี jdbนๆ ทั้งในอาเซียนเองและกับประเทศคู่เจรจา เพื่อส่งเสริมให้อาเซียนเป็นระบบเศรษฐกิจที่เปิดต่อประชาคมโลก ส่งเสริมความร่วมมือในระดับภูมิภาคในการอนุรักษ์สภาพแวดล้อม การต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อร้ายแรง และ ความร่วมมือสาขาอื่นอีกมากมาย ตลอดจนส่งเสริมความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวให้เกิดขึ้นในภูมิภาค ในยุคโลกาภิวัตน์ที่สถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ประเทศต่างๆ ให้ความสำคัญกับการรวมตัวกันในภูมิภาค เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองและเพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขันในเวทีระหว่างประเทศ อาเซียนจึงต้องปรับตัวให้เท่าทันสถานการณ์ เพื่อให้สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที การผนึกกำลังของประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ย่อมทำให้ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง และ ปัญหาท้าทายได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และช่วยให้เสียงของอาเซียนมีน้ำหนัก สร้างความเชื่อถือในอาเซียน และ ทำให้อาเชียนมีอำนาจต่อรองในเวทีระหว่างประเทศมากขึ้น ในปี 2546 ผู้นำอาเซียนต่างเป็นพ้องกันว่า ถึงเวลาแล้วที่อาเซียนควรจะร่วมมือกันให้เหนียวแน่น เข้มแข็ง และมั่นคงยิ่งขึ้น จึงกำหนดให้มีการสร้าง ประชาคมอาเซียน ที่ประกอบด้วย 3 เสาหลัก ได้แก่ ไม่แทรกแซงกิจการภายใน (Principle of Non-interference) หลักการนี้ทำให้อาเซียนมีความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน เนื่องจากแต่ละประเทศสมาชิกต่างเห็นตรงกันว่า ไม่ต้องการให้ผู้อื่นเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของตน รวมทั้งแนวคิดที่ว่าปัญหาภายในประเทศไม่สามารถแก้ไขโดยมาตรการลงโทษจากภายนอก เร่งรัดกระบวนการปรองดองในเมียนมา อาเซียนช่วยผลักดัน เร่งรัด และ เจรจา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเมียนมา เพื่อนำประชาธิปไตยกลับสู่ประเทศ พร้อมกับเรียกร้องให้เมียนมาปล่อยนักโกษการเมือง รวมถึงนางออง ซาน ซูจี อย่างไรก็ดี อาเซียนไม่เห็นด้วยต่อการคว่ำบาตรและใช้มาตรการตอบโต้ทางเศรษฐกิจเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองภายในพม่า เพราะเห็นว่าเป็นมาตรการที่ไม่ได้ผลและไร้ประโยชน์ ทั้งจะส่งผลกระทบต่อประชาชนชาวพม่า ใช้เวทีเจรจาสร้างสัมพันธ์ อาเซียนยังมีกลไกเพื่อปฏิสัมพันธ์กับประเทศนอกภูมิภาคเพื่อสร้างความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงระหว่างกันที่สมดุลและสร้างสรรค์ โดยผ่านเวทีการหารือระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ผ่านการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก (East Asia Summit - EAS) ทำให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปราศจากการสู้รบทางการทหารมาเป็นเวลามากกว่า 20 ปีแล้ว เขตปลอดนิวเคลียร์ ประเทศสมาชิกอาเซียนร่วมลงนามกันใน สนธิสัญญาว่าด้วยเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia Nuclear-Weapon-Free Zone Treaty) ซึ่งได้ลงนามเมื่อเดือน ธ.ค.2538 มุ่งให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ ไม่พัฒนา ไม่ผลิต ไม่จัดซื้อ ไม่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ ไม่เป็นฐานการผลิต ไม่ขนส่งอาวุธนิวเคลียร์ ไม่ทดสอบ และ ไม่ใช้อาวุธ นิวเคลียร์ในภูมิภาค นอกจากนี้ ยังห้ามไม่ให้รัฐใดปล่อยหรือทิ้งวัสดุอุปกรณ์ที่เป็นกัมมันตภาพรังสีลงบนพื้นดิน ทะเล และอากาศ ส่งเสริมท่องเที่ยว ประเทศสมาชิกอาเซียนจัดการประชุมร่วมกันด้านการท่องเที่ยวเป็นประจำทุกปีในเดือน ม.ค. โดยหมุนเวียนกันจัดในประเทศสมาชิกกันไป นอกจากนั้นยังให้ความร่วมมือส่งเสริมการท่องเที่ยว จัดทำรายการโทรทัศน์ ริเริ่มการทำ Single Visa ให้ใช้เดินทางเข้าได้หลายประเทศเหมือนกับ Schengen Visa ของยุโรป ธงอาเซียนมีความหมาย แสดงถึงความมั่นคง สันติภาพ ความเป็นเอกภาพ และ พลวัตของอาเซียน เป็นที่มาของสี 4 สี ที่รวบรวมจากสีของธงประเทศสมาชิกอาเชียนทั้งหมด สัญลักษณ์ของอาเซียน คือ รวงข้าวสีเหลือง 10 ต้น เป็นตัวแทนของประเทศสมาชิกทั้ง 10 ประเทศขณะที่วงกลมที่อยู่รอบรวงข้าว แสดงถึงความเป็นเอกภาพ ความเป็นหนึ่งเดียว และ ความสมานฉันท์ของอาเซียน คำขวัญอาเซียน "One Vision, One Identity, One Community" ซึ่งแปลได้ว่า หนึ่งวิสัยทัศน์ หนึ่งอัตลักษณ์ หนึ่งประชาคม ที่มา : กรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ

อาเซียนตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 8 ส.ค.2510 หลังการลงนามในปฏิญญาสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (