วันนี้ (3 เม.ย.2564) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย

วันนี้ (9 ก.ย.2564) นายมนตรี เกตุจรัส ผู้ประกอบรถยนต์จดประกอบ พร้อมด้วยนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำหลักฐานเข้าร้องพนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจร
ความคืบหน้ากรณีโรงงานแวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ซึ่งเกิดไฟไหม้เมื่อช่วงกลางเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ถูกตรวจสอบปัญหาการลักลอบทิ้งกากของเสียอุตสาหกรรม วันนี้ (18 ก.ค.2565) นายอรรถพล
วันนี้ (9 ก.ย.2564) นายมนตรี เกตุจรัส ผู้ประกอบรถยนต์จดประกอบ พร้อมด้วยนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำหลักฐานเข้าร้องพนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. เพื่อให้สืบสวนขยายผล กรณีที่นายมนตรีถูกเจ้าหน้าที่กรมสสมัครสมาชิกรับ 68 บาท ทดลองใช้ฟรี แจกเครดิตทดลองเล่นฟรีอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ บุกค้น และอายัดรถหรูไป 37 คัน เมื่อ 9 ปีที่แล้ว ก่อนจะคืนรถยนต์ของกลางบางส่วนกลับมาเพียง 9 คัน และจนถึงขณะนี้ ดีเอสไอยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาได้ นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า กรณีของดีเอสไอมีลักษณะคล้ายเครือข่ายของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ โดยมีจุดเริ่มต้น มาจากคดีที่ดีเอสไอรับผิดชอบสอบสวนเรื่องรถยนต์หรู และพบว่ามีไฟไหม้รถยนต์หรู จำนวน 6 คัน ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา จากนั้น ดีเอสไอตั้งเรื่องเป็นคดีพิเศษเพื่อขยายผลตรวจสอบรถยนต์หรูทั่วประเทศ โดยใช้งบประมาณทำคดีมากถึง 1,400 ล้านบาท หรือตกคดีละ 2 แสนบาท นายอัจฉริยะ ยังอ้างว่าพฤติการณ์ของดีเอสไอ คล้ายกับกรณีของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ คือมีการดำเนินการเพื่อหวังเงินรางวัลนำจับที่สูงถึงร้อยละ 55 โดยแอบอ้างปั้นสายลับ เป็นผู้ให้ข้อมูลนำจับ เพื่อให้เข้าเงื่อนไข ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร มาตรา 27 ที่ระบุว่า ต้องเป็นการนำเข้ารถมาทั้งคัน ไม่ใช่การแยกชิ้นมาประกอบ แต่กรณีของดีเอสไอไม่เข้าเงื่อนไข เพราะคดีของดีเอสไอจับผู้นำเข้าชิ้นส่วนที่มีการเสียภาษีเรียบร้อยแล้ว และมาจดประกอบรถยนต์ โดยเฉพาะนายมนตรีเสียภาษีถูกต้องตามขั้นตอนทั้งหมด จึงไม่เข้าเงื่อนไข ดังนั้น จึงมีความพยายามตั้งงบการดำเนินคดีคันละ 2 แสนบาท รวมทั้ง 7,000 คัน เป็นเงินกว่า 1,400 ล้านบาท และมีการขยายผลตรวจค้นโรงงานจดประกอบรถหรูทั่วประเทศ จำนวน 6 จุด ซึ่งรวมถึงโรงงานของนายมนตรีด้วย ซึ่งจนถึงขณะนี้ผู้เสียหายทั้งหมดที่โดนยึดรถยนต์หรูไว้ ยังไม่ได้รถคืน และดีเอสไอไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ ขณะที่นายมนตรี กล่าวว่า ตนเองเสียภาษีชิ้นส่วนอย่างถูกต้อง ส่วนเรื่องการนำเข้าขิ้นส่วนอะไหล่ ก็มีการเสียภาษีถูกต้องเช่นกัน แต่เมื่อดีเอสไอเข้ามาอายัดและอ้างว่าไม่มีการเสียภาษีชิ้นส่วนถูกต้อง จึงไม่เป็นความจริง และมีหลักฐานเอกสารการจ่ายภาษีครบทุกขั้นตอน โดยที่ผ่านมา เคยชี้แจงไปที่ดีเอสไอ แต่ไม่คืบหน้า แต่ดีเอสไอคืนรถยนต์กลับมาให้จำนวน 9 คัน และดีเอสไออายัดไว้อีก 28 คัน เบื้องต้น พนักงานสอบสวน ปปป. รับเรื่องราวไว้สอบสวน โดยเตรียมเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมในภายหลัง
วันนี้ (8 ก.ย.2565) เพจเฟซบุ๊ก Fresh Air Festival เผยแพร่รูปภาพถ้วยรางวัล THE MATCH Bangkok Century
วันนี้ (7 ส.ค.2567) ศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล ในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กก
ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เรียกร้องพรรคประชาธิปัตย์ แสดงหลักฐานที่ชัดเจนกรณีการโจมตีวาระซ
วันนี้ (9 ก.ย.2564) นายมนตรี เกตุจรัส ผู้ประกอบรถยนต์จดประกอบ พร้อมด้วยนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำหลักฐานเข้าร้องพนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. เพื่อให้สืบสวนขยายผล กรณีที่นายมนตรีถูกเจ้าหน้าที่กรมสสมัครสมาชิกรับ 68 บาท ทดลองใช้ฟรี แจกเครดิตทดลองเล่นฟรีอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ บุกค้น และอายัดรถหรูไป 37 คัน เมื่อ 9 ปีที่แล้ว ก่อนจะคืนรถยนต์ของกลางบางส่วนกลับมาเพียง 9 คัน และจนถึงขณะนี้ ดีเอสไอยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาได้ นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า กรณีของดีเอสไอมีลักษณะคล้ายเครือข่ายของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ โดยมีจุดเริ่มต้น มาจากคดีที่ดีเอสไอรับผิดชอบสอบสวนเรื่องรถยนต์หรู และพบว่ามีไฟไหม้รถยนต์หรู จำนวน 6 คัน ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา จากนั้น ดีเอสไอตั้งเรื่องเป็นคดีพิเศษเพื่อขยายผลตรวจสอบรถยนต์หรูทั่วประเทศ โดยใช้งบประมาณทำคดีมากถึง 1,400 ล้านบาท หรือตกคดีละ 2 แสนบาท นายอัจฉริยะ ยังอ้างว่าพฤติการณ์ของดีเอสไอ คล้ายกับกรณีของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ คือมีการดำเนินการเพื่อหวังเงินรางวัลนำจับที่สูงถึงร้อยละ 55 โดยแอบอ้างปั้นสายลับ เป็นผู้ให้ข้อมูลนำจับ เพื่อให้เข้าเงื่อนไข ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร มาตรา 27 ที่ระบุว่า ต้องเป็นการนำเข้ารถมาทั้งคัน ไม่ใช่การแยกชิ้นมาประกอบ แต่กรณีของดีเอสไอไม่เข้าเงื่อนไข เพราะคดีของดีเอสไอจับผู้นำเข้าชิ้นส่วนที่มีการเสียภาษีเรียบร้อยแล้ว และมาจดประกอบรถยนต์ โดยเฉพาะนายมนตรีเสียภาษีถูกต้องตามขั้นตอนทั้งหมด จึงไม่เข้าเงื่อนไข ดังนั้น จึงมีความพยายามตั้งงบการดำเนินคดีคันละ 2 แสนบาท รวมทั้ง 7,000 คัน เป็นเงินกว่า 1,400 ล้านบาท และมีการขยายผลตรวจค้นโรงงานจดประกอบรถหรูทั่วประเทศ จำนวน 6 จุด ซึ่งรวมถึงโรงงานของนายมนตรีด้วย ซึ่งจนถึงขณะนี้ผู้เสียหายทั้งหมดที่โดนยึดรถยนต์หรูไว้ ยังไม่ได้รถคืน และดีเอสไอไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ ขณะที่นายมนตรี กล่าวว่า ตนเองเสียภาษีชิ้นส่วนอย่างถูกต้อง ส่วนเรื่องการนำเข้าขิ้นส่วนอะไหล่ ก็มีการเสียภาษีถูกต้องเช่นกัน แต่เมื่อดีเอสไอเข้ามาอายัดและอ้างว่าไม่มีการเสียภาษีชิ้นส่วนถูกต้อง จึงไม่เป็นความจริง และมีหลักฐานเอกสารการจ่ายภาษีครบทุกขั้นตอน โดยที่ผ่านมา เคยชี้แจงไปที่ดีเอสไอ แต่ไม่คืบหน้า แต่ดีเอสไอคืนรถยนต์กลับมาให้จำนวน 9 คัน และดีเอสไออายัดไว้อีก 28 คัน เบื้องต้น พนักงานสอบสวน ปปป. รับเรื่องราวไว้สอบสวน โดยเตรียมเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมในภายหลัง
รายงานข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ แจ้งว่า ในการประชุมคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งที่มีนายสันติ พร