"อนุทิน" มองคำติติง "ทักษิณ" เป็นคำสอน

วันนี้ (7 มิ.ย.2568) กรมทรัพยากรธรณี รายงานว่า เมื่อเวลา 00.15 น. (ตามเวลาในประเทศไทย) เกิดแผ่นดินไหวบนบกขนาด 6.4 ความลึก 76.6 กิโลเมตร จัดเป็นแผ่นดินไหวขนาดค่อนข้างใหญ่ (Strong) จุดเหนือศูนย์เกิดแผ่น

วันแรกที่ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เข้ากระทรวง เมื่อวันที่ 14 ก.ย.2566 ได้มอบนโยบายให้ก

วันนี้ (21 พ.ค.2565) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการ กกต. กล่าวถึงการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. และการเลือกตั้งเมืองพัทยา ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ว่า ตามกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นแล้ว ตั้งแต่เวลา 18.00 น.

วันแรกที่ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เข้ากระทรวง เมื่อวันที่ 14 ก.ย.2566 ได้มอบนโยบายให้กับผู้บริหาร โดยในนั้นมีนโยบายเร่งด่วนสำหรับนักเรียน คือเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา (Anywhere Anytime) มีระบบหรือแพลตฟอร์มการเรียนรู้ โดยผู้เรียนไม่ต้องเสียหวย ufapg jackpotค่าใช้จ่าย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ด้วยนโยบาย 1 นักเรียน 1 แท็บเล็ต นั่นหมายความว่า รัฐบาลมีโครงการจะซื้อแท็บเล็ตแจกนักเรียนอีกครั้ง หลังจากที่เคยซื้อแจกไปแล้ว สมัย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และใช้ได้ไม่นาน ทุกอย่างก็ล้มเหลว ด้วยเหตุผลต่างๆ นานา เช่น - เครื่องที่ซื้อมาคุณภาพต่ำ- ในโรงเรียนไม่มีครูที่รู้เรื่องเทคโนโลยีคอยแนะนำการใช้- โรงเรียนไม่มีครูที่รู้วิธีการดูแลรักษาเครื่อง- สภาพอากาศของโรงเรียน ร้อนบ้าง ชื้นบ้าง ฝนตกบ้าง ทำให้เครื่องชำรุดเร็ว- โรงเรียนไม่มีไฟฟ้าใช้ หรือมี แต่ไม่เสถียรทำให้เครื่องชำรุดเร็ว- โรงเรียนไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต- โรงเรียนไม่มีที่จัดเก็บให้ปลอดภัย- ซอฟแวร์ที่ใช้ในแต่ละวิชายังไม่เสร็จสิ้น รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แถลงนโยบายครั้งแรก 23 ส.ค.2554 บอกว่า จะจัดหาเครื่องแท็บเล็ตพีซี (Tablet PC) ให้แก่โรงเรียน เริ่มทดลองดำเนินการในโรงเรียนนำร่องสำหรับระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2555 ควบคู่กับการเร่งพัฒนาเนื้อหาที่เหมาะสม โดยบรรจุหลักสูตรลงในแท็บเล็ตพีซี เพื่อสร้างโอกาส สร้างความเท่าเทียมทางการศึกษา ยกระดับการศึกษาให้ทัดเทียมกับนานาชาติ ยกระดับคุณภาพการศึกษาให้เด็กอ่านออก เขียนได้ คิดเลขเป็น และสนุกกับการเรียนรู้ไม่จำกัดเวลาและสถานที่ พร้อมจัดทำระบบอินเทอร์เน็ตไร้สายให้บริการในสถานศึกษาที่กำหนด โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งนโยบายนี้จะดำเนินการภายในช่วงระยะ 4 ปี โดยแบ่งการแจกจ่ายแท็บเล็ตไปยังโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 564,723 เครื่อง, สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน 183,360 เครื่อง, โรงเรียนสาธิตในกำกับมหาวิทยาลัยสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา 3,845 เครื่อง โรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร 46,575 เครื่อง, โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนในสังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน 1,881 เครื่อง, เมืองพัทยา 1,557 เครื่อง และโรงเรียนสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 54,945 เครื่อง ต่อมาในปี 2556 เป็นปีที่ 2 ที่มีการประกวดราคาจัดซื้อแท็บเล็ตจาก บริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก เดเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นจำนวนเงิน 4,611 ล้านบาท เมื่อรวมกับงบประมาณปีแรก เท่ากับใช้งบประมาณรวมแล้วกว่า 6,000 ล้านบาท โดยแท็บเล็ตนั้นมีมูลค่าเครื่องละประมาณ 2,770 บาท ซึ่งการแจกจ่ายนั้นแบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่ โซนที่ 1 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 (ภาคกลางและภาคใต้) 431,105 เครื่อง โซนที่ 2 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 (ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) 373,637 เครื่องโซนที่ 3 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 (ภาคกลางและภาคใต้) 426,683 เครื่องโซนที่ 4 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) 402,889 เครื่อง แต่หลังจากนั้นเกิดปัญหาการผลิตที่ล่าช้า บริษัทผลิตแท็บเล็ตที่ไม่สามารถจัดส่งเครื่องได้ตามสัญญา ส่งผลให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ต้องยกเลิกสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งส่อเกิดปัญหาฮั้วประมูลจนต้องมีการตรวจสอบกระบวนการผลิต ทำให้กระบวนการต่าง ๆ หยุดชะงัก กว่าจะสามารถกระจายแท็บเล็ตสู่นักเรียนและโรงเรียนได้ก็ล่าช้าไปหลายเดือน จากการสำรวจพบข้อเสียของนโยบายการแจกเครื่อง Tablet เช่น เกิดปัญหาเรื่องสายตาและปัญหาด้านสุขภาพ เด็ก ๆ ใช้เวลากับการจ้องแท็บเล็ตมากขึ้น ทำให้ออกกำลังกายน้อยลง และมองว่า แท็บเล็ตไม่เหมาะกับวุฒิภาวะของเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เพราะจะทำให้ทักษะการใช้มือเขียนไม่เป็น และมีโอกาสอยู่ในโลก Cyber มากขึ้น ทำให้ลดการเล่นกับเพื่อน ๆ ในชีวิตจริง อาจส่งผลทำให้เด็กขาดมนุษย์สัมพันธ์ได้ https://dl.parliament.go.th/backoffice/viewer2300/web/viewer.php

วันนี้ (7 ธ.ค.2564) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์เฟซบุ๊ก "ผู้ว่าฯอัศวิน" ระบุว่า กทม.มีโอกาสที่จะเกิดวิกฤตหมอกควันและฝุ่นละอองในอากาศ หรือ PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน โดยหลายปีที่ผ