วันนี้ (5 ต.ค.2567) สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เนื่องจากน้ำปิงล้นตลิ่งยังวิกฤต ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น.อัปเดตระดับน้ำปิงระยะวิกฤตสีแดง วัดได้ 5.30 เมตร เพิ่มขึ้น 1 ซม.แนวโน้มเพิ่มขึ้น นายพิ
เมื่อวันที่ 26 พ.ค.2564 นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า หัวใจของคนทำหน้าที่สูบฉีดเล
วันนี้ (20 ส.ค.2566) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ลงนามคำสั่งกองบัญชาการตำรวจนครบาลที่ 361/2566 เรื่อง ประกาศห้ามชุมนุมสาธารณะในรัศมีไม่เกิน 50 เมตร รอบรัฐสภา ตามมาตรา 7 วรรคท้ายแห่ง พ.ร.บ.การชุมนุมสาธ
เมื่อวันที่ 26 พ.ค.2564 นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า หัวใจของคนทำหน้าที่สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกาย มีการเต้นเป็นจังหวะต่อเนื่องตลอดเวลา เฉลี่ยปีละประมาณ 36-42 ล้านครั้งต่อปี การที่หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน (Sudden Cardiac Arrest) เป็นการสูญเสียการทำงานของหัวใจอย่างกระทันหัน จากระบบไฟฟ้าในหัวใจผิดปกติ ทำให้หัวใจห้องล่างมีการเต้นผิดจังหวะชนิดร้ายแรง หรือเต้นพริ้ว (Ventricular fibrillation หรือ VF) ซึ่งเกิดขึ้นทันที โดยไม่มีสัญญาณเตือน ทำให้หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้ตามปกติ ผู้ป่วยจะเกิดอาการวูบหมดสติ เนื่องจากสมองขาดเลือดไปเลี้ยง อาจมีอาการชักเกร็งกระตุกร่วมด้วย ผู้ป่วยไม่หายใจและคลำชีพจรไม่ได้ ซึ่งถือว่าเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องมีการกู้ชีพทันที เพื่อให้มีออกซิเจนจากปอดไปเลี้ยงสมองอย่างเพียงพอ จนกว่าการทำงานของหัวใจจะกลับมาเต้นปกติ โดยใช้เครื่องกระตุกหัวใจอัตโนมัติ การปล่อยให้ล่าช้านานเท่าไหร่โอกาสรอดชีวิตจะลดลง และหากสมองขาดเลือดนานเกินไปผู้ป่วยอาจจะฟื้น แต่มีความพิการทางสมองตามมา ขณะที่ นพ.เอนก กนกศิลป์ ผอ.สถาบันโรคทรวงอก กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน พบได้ทุกช่วงอายุ แต่พบบ่อยในผู้ใหญ่วัยกลางคนที่มีอายุระหว่าง 30-40 ปี โดยพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง 2 เท่า สามารถเกิดขึ้นได้ทุกสถานที่และทุกเวลา มักจะพบได้บ่อยในขณะออกกำลังกาย โดยไม่มีสัญญานเตือน แตกต่างจากภาวะหัวใจกำเริบเฉียบพลัน (Heart attack) ซึวิเคราะห์บอล ป๋ายาว่งมักจะหมายถึงกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน โดยทั่วไปจะมีสัญญานเตือนนำมาก่อน เช่น เจ็บแน่นหน้าอก เหงื่อแตก ใจสั่น หายใจไม่อิ่ม แต่อย่างไรก็ตามการเกิดภาวะหัวใจกำเริบเฉียบพลัน อาจนำไปสู่การเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันได้ ในประเทศไทยยังไม่มีการเก็บสถิติการเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันว่ามีความชุกเท่าใด แต่ในสหรัฐอเมริกาพบได้ 325,000 คนต่อปี ซึ่งภาวะนี้พบได้ในผู้ป่วยที่มีโรคที่เกี่ยวเนื่องกับหัวใจ เช่น หลอดเลือดหัวใจตีบ ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด และโรคอื่นๆ เช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจหนา โรคกล้ามเนื้อหัวใจบีบตัวอ่อนแรง ผู้ที่มีประวัติของการเสียชีวิตกระทันหันในครอบครัว ความผิดปกติในทางเดินกระแสไฟฟ้าของหัวใจ ความผิดปกติแต่กำเนิดของหลอดเลือดโคโรนารีที่เลี้ยงหัวใจ ซึ่งเป็นโรคหัวใจแฝงในบางครั้งไม่แสดงอาการ และดูภายนอกเหมือนปกติคนทั่วไป ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน เป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องรักษาทันที โดยผู้ที่เห็นเหตุการณ์ซึ่งหน้าจะต้องมีความรู้เรื่องการกู้ชีพขั้นพื้นฐาน (CPR) เพื่อทำให้เลือดนำออกซิเจนไปเลี้ยงสมองอย่างเพียงพอ และรู้จักการใช้เครื่องกระตุกหัวใจอัตโนมัติ (AED) เพื่อให้หัวใจกลับมาเต้นปกติ ซึ่งหากมีการใช้อย่างถูกต้องภายใน 3 นาที จะเพิ่มโอกาสรอดชีวิตได้ 70% และผู้ป่วยมีโอกาสฟื้นโดยไม่มีความพิการทางสมองหลงเหลืออยู่ แต่หากปล่อยให้เวลาเนิ่นนานออกไปโอกาสรอดชีวิตจะลดลง 10% ทุกๆ 1 นาที เนื่องจากอวัยวะต่างๆ ขาดเลือดไปเลี้ยงนานเกินไป การรักษาต้องรักษาที่สาเหตุ เช่น ผู้ป่วยที่เป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันจากหลอดเลือดหัวใจอุดตันที่มีคลื่นไฟฟ้าหัวใจผิดปกติชนิด ST elevation จะต้องได้รับการรักษาทันที ด้วยการให้ยาละลายลิ่มเลือด หรือการสวนหัวใจ เพื่อเปิดหลอดเลือด ซึ่งมีระยะเวลาที่เป็นนาทีทอง 120 นาทีในการเปิดหลอดเลือดหัวใจ ผู้ป่วยที่รอดชีวิตจากหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันบางคนที่มีข้อบ่งชี้ แพทย์อาจพิจารณาฝังเครื่องกระตุกหัวใจอัตโนมัติไว้ในร่างกาย เพื่อกระตุกหัวใจเมื่อมีการทำงานผิดปกติของระบบไฟฟ้าหัวใจ ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตกระทันหันจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันได้ ทั้งนี้ ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขมีระบบการแพทย์ฉุกเฉิน โดยติดต่อหมายเลข 1669 เพื่อนำส่งตัวผู้ป่วยเข้ารับการรักษาเบื้องต้น และส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่มีศักยภาพ
วันนี้ (22 มี.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสัญญา เกิดเงิน ยังคงตามหาเต่าอัลลิเกเตอร์ ในคลองสาขาแม่น้ำปราณบุรี หลังมีผู้ยืนยันว่า เคยจับได้แต่ต้องปล่อยไปเพราะกลัว โดยเต่าที่กำลังตามหา มีขนาดใหญ่กว่า
- วิเคราะห์บอล ป๋ายาว
- สล็อต 48jk
- เว็บ บอล m8bet
- ตาราง บอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ คืน นี้SLOT
- slot super 777joker123 เกม
- คลับ ลี ออ น. วิเคราะห์