วันนี้ ( 3 ก.พ.2568) กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร วิเคราะห์ เศรษฐกิจไทยหลังวิกฤติการระบาดของโควิด -19 พบว่า เศรษฐกิจไทยยังคงเติบโตได้ช้าและต่ำกว่าระดับศักยภาพ การเติบโตที่แตกต่างกันมากในแต่ละภาค

วันนี้ ( 3 ก.พ.2568) กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร วิเคราะห์ เศรษฐกิจไทยหลังวิกฤติการระบาดของโควิด -19 พบว่า เศรษฐกิจไทยยังคงเติบโตได้ช้าและต่ำกว่าระดับศักยภาพ การเติบโตที่แตกต่างกันมากในแต่ละภาคส่วนของเศรษฐกิจ เป็นเหตุผลที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยจำกัดอยู่เพียงกลุ่ม ในขณะที่หลายกลุ่มโดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมอาจเรียกว่าอยู่ในภาวะถดถอย ในช่วงปี 2024 ที่ผ่านมา หลายฝ่ายหวังว่า แรงส่งทางบวกจะเอาชนะผลด้านลบโดย 3 ปัจจัยบวกที่สำคัญ คือ การแจกเงินจากภาครัฐ การส่งออกที่เติบโตได้ดี และจำนวนนักท่องเที่ยวที่เติบโตได้ตามที่ประเมินไว้ ศูนย์วิจัยเกียรตินาคินภัทร วิเคราะห์อีกว่า ในช่วงปลายเดือนก.ย.ปี 2024 รัฐบาลมีการดำเนินมาตรการ Digital Wallet โดยแจกเงินจำนวน 1 หมื่นบาทให้กับกลุ่มปราะบาง คิดเป็นเงินมูลค่ากว่า 1.4 แสนล้านบาท หรือประมาณ 0.7% ของ GDP แต่พบว่าการเพิ่มขึ้นของการบริโภคในไตรมาส4ของปีมีอัตราการเติบโตใกล้เคียงกับการบริโภคในช่วงสามไตรมาสแรก ทั้งนี้มี 3 สาเหตุสำคัญที่ทำให้การแจกเงินในรอบแรกแรกไม่ปัง คือ เงินที่ได้รับไปไม่ได้กระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายใหม่ในระบบเศรษฐกิจ เพราะ12.8% นำเงินที่ได้รับไปใช้เพื่อชำระหนี้และการแจกเงินกระจุกตัวอยู่ใน กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม เครื่องใช้ในครัวเรือน และการชำระค่าสาธารณูปโภค นอกจากนี้บางส่วนอาจเก็บเงินที่ได้รับเป็นเงินออม นอกจากนี้ การใช้จ่ายส่วนหนึ่งอาจเป็นการใช้จ่ายในเศรษฐกิจนอกระบบ (Informal Sectors) ช่องทางที่มีการนำไปใช้จ่ายมากที่สุด คือ ร้านค้าในชุมชน และหาบเร่แผงลอยเป็นหลัก ทำให้การวัดผลของนโยบายต่อเศรษฐกิจทำได้ยาก ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจอื่น ๆ ยังอยู่ในทิศทางขาลงไม่สนับสนุนการฟื้นตัวของการบริโภคโดยเฉพาะการบริโภคสินค้าคงทน ประเมินว่าทิศทางการบริโภคภาคเอกชนในภาพรวมยังอยู่ในภาวะชะลอตัวจาก สินเชื่อภาคธนาคารหดตัว รายได้ของครัวเรือนยังคงอ่อนแอ และ หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงยัง ทั้งนี้ศูนย์วิจัยเกียรตินาคินภัทร คาดการณ์ว่า การบริโภคภาคเอกชนของไทยยังมีแนวโน้มชะลอตัวลงในปี 2025 โดยจะขยายตัวได้ที่ 2.3% ชะลอลงจาก 4.2% ในปี 2024 โดยเฉพาะกลุ่มการบริโภคสินค้าคงทนที่จะยังหดตัวลงต่อไป ส่วนการส่งออกไทยอยู่ในช่วงขาลง จากปัญหาความสามารถในการแข่งขันที่แย่ลงเรื่อย ๆ แม้ในปี 2024 การส่งออกสินค้าของไทยกลับเติบโตได้ 5.4% สูงกว่าที่หลายฝ่ายประเมินไว้ในช่วงต้นปีที่ประมาณ 2% - 3% ขณะที่ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของไทยกลับพบว่า หดตัวต่อเนื่อง สาเหตุเกิดจากการนำเข้าจากจีนเพื่อส่งออกไปยังสหรัฐ ฯ (Rerouting) ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐ ฯ และจีน ทำให้จีนจำเป็นต้องส่งสินค้าผ่านประเทศอื่นเพื่อส่งออกไปยังสหรัฐ ฯ ทำให้ไม่มีกิจกรรมการผลิตเกิดขึ้นในไทย ตัวอย่างสินค้าในกลุ่มนี้ คือ Solar Panel และ Wifi Router อย่างไรก็ตามการส่งออกของไทยจะเผชิญความท้าทายมากขึ้นจากทิศทางนโยบายการค้าของสหรัฐ ฯ ซึ่งอาจแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มหลัก คือ สินค้าที่ช่วยพยุงการส่งออกไทยในกลุ่ม Rerouting มีความเสี่ยงมากขึ้นเนื่องจากสหรัฐ ฯ มีแนวโน้มกีดกันสินค้าที่มีต้นกำเนิดจากจีน อย่างไรก็ตามผลกระทบต่อดุลการค้าจะไม่รุนแรง สินค้าที่ส่งออกไปสหรัฐ ฯ อาจเผชิญความท้าทายมากขึ้นจากการกีดกันทางการค้า ขณะที่ สินครับ เงิน ฟรี 2020้าจากจีนที่จะยังคงเข้ามาแข่งขันในไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะหากสหรัฐ ฯ มีการปรับขึ้นภาษีกับจีนรุนแรง และสินค้ากลุ่มที่ไทยมีการตั้งกำแพงภาษีกับสหรัฐ ฯ ในระดับสูงอาจถูกต่อรองให้ไทยนำเข้าสินค้าเพิ่มเติมได้ นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เผยว่า ภาพรวมดัชนีราคาผู้ผลิตของไทย เดือนม.ค. 2568 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2567 กลับมาขยายตัวเล็กน้อย จากราคาสินค้า หมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ที่มีทิศทางเคลื่อนไหวตามราคาตลาดโลกและความต้องการของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง และราคาสินค้าหมวดผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) แม้ว่าปัจจุบันจะได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในตลาดผู้ส่งออก แต่ก็กำลังเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาดโลก สภาพเศรษฐกิจของตลาดปลายทาง และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนส่งผลให้ภาพรวมของราคาผู้ผลิต ยังคงมีความผันผวนในระดับที่ทรงตัวหรืออาจจะมีความเคลื่อนไหวไม่มาก ส่วนแนวโน้มดัชนีราคาผู้ผลิต เดือนกุมภาพันธ์ 2568 คาดว่าจะสูงขึ้นเพียงเล็กน้อย โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก ความต้องการบริโภคในภาพรวมของประเทศที่เพิ่มขึ้นจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัว ภาคการส่งออกที่มีแนวโน้มจะขยายตัวจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า โดยปัจจัยกดดันที่สำคัญยังคงเป็น ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูงส่งผลต่อการบริโภคภาคเอกชน การแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาดผู้ส่งออกสินค้าเกษตร ประกอบกับฐานราคาสินค้าเกษตรในปีก่อนที่อยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ปัจจัยด้านราคาพลังงาน อัตราแลกเปลี่ยน และผลกระทบจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ยังคงมีความไม่แน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตในทิศทางใด ทั้งนี้ จะต้องมีการติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ สนค. เห็นว่าควรมีมาตรการหรือแนวทางในการสนับสนุนผู้ประกอบการผลิตภายในประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มเกษตรกร และกลุ่มอุตสาหกรรมการเกษตรให้มีความมั่นคง เช่น จัดให้มีตลาดรับรองสินค้าเกษตรที่ครอบคลุมชนิดสินค้าที่หลากหลาย เพื่อจูงใจให้เกษตรกรเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจทางเลือกที่มีศักยภาพมากขึ้น ลดอุปทานส่วนเกินของตลาดสินค้าเกษตรหลัก ส่งเสริมการกระจายตลาดของผลผลิตทางการเกษตรแปรรูป เพื่อเพิ่มอุปสงค์ของสินค้าเกษตรและช่วยเพิ่มมูลค่าผลผลิต และ รักษาระดับมาตรฐานสินค้าให้มีคุณภาพตลอดกระบวนการเพื่อสร้างการยอมรับของตลาด และช่วยยกระดับราคาของสินค้า ในขณะที่ภาคการท่องเที่ยว แม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวกลับมาแล้ว แต่เศรษฐกิจกลับไม่ดีเหมือนที่คิด โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามายังไทยในปี 2024 มีจำนวน 35.5 ล้านคน โตขึ้นประมาณ 26.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน สอดคล้องกับที่หลายฝ่ายประเมินไว้ อย่างไรก็ตาม ผลต่อเศรษฐกิจในภาพรวมกลับยังมีค่อนข้างจำกัดโดยประเมินว่า แม้จำนวนนักท่องเที่ยวกลับมาตามคาดแต่เมื่อพิจารณารายได้จากการท่องเที่ยวต่อหัวจะพบว่ารายได้ต่อหัวของนักท่องเที่ยวมีการปรับตัวลดลงและต่ำกว่าช่วงก่อนโควิดมาก ทั้งนี้ ภาคการท่องเที่ยวไทยมีลักษณะของรายได้ที่ค่อนข้างกระจุกตัวอยู่ใน 5 จังหวัดท่องเที่ยวหลักคือ กรุงเทพ ภูเก็ต ชลบุรี สุราษธานี และกระบี่ ทำให้ผลต่อเศรษฐกิจเกิดขึ้นไม่ทั่วถึง ปัจจุบันการท่องเที่ยวกลับมาขยายตัวได้ค่อนข้างดีแต่ภาคอุตสาหกรรมอยู่ในทิศทางขาลงพอดี ส่งผลให้เศรษฐกิจในภาพรวมโตได้ในระดับต่ำ ศูนย์วิจัยเกียรตินาคินภัทร ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2025 จะชะลอตัวลงเล็กน้อยมาที่ระดับ 2.6% โดยตั้งอยู่บนสมมติฐานว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมอาจสามารถฟื้นตัวได้บ้างแต่ยังต้องติดตามสถานการณ์ จากนโยบายด้านการค้าของสหรัฐฯ ที่อาจกระทบต่อการการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง หากภาคอุตสาหกรรมไทยยังไม่ฟื้นตัวและติดลบในอัตราใกล้เคียงกับในปี 2024 จะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ช้าลงโดยจะเติบโตได้เพียง 2.0% หรือต่ำกว่านั้น อ่านข่าว: ผวาสงครามการค้ารอบใหม่ กรุงศรีฯคาดเงินบาทซื้อขายกรอบ 33.80-34.40 ฝุ่นข้ามแดน"เผาพื้นที่เกษตร" รัฐฉาน สะเทือนการค้า-การลงทุน ศูนย์วิเคราะห์ทิสโก้ ชี้เฟดคงดอกเบี้ยถึงกลางปี ดันบอนด์ยิลด์ทรงตัวสูงสุดรอบ 17 ปี

วันนี้ (11 พ.ย.2567) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย พร้อมด้วย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เดินทางลงพื้นที่เกาะกูด จ.ตราด จุดแรกไปย

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่ากรมฯ ได้เตรียมพร้อมยกทัพวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ

นิยายชีวิต โดย : Nashih Nashrullah
เรื่องและภาพโดย : Nashih Nashrullah
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..