วันนี้ (15 ก.พ.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรุงจาการ
วันนี้ (26 ก.ย.2565) กลุ่มตัวแทนผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลที่อ้างว่าได้รับผลกระทบจากการค้าสลากออนไลน์ พร้อมด้วยนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ และ น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ เข้าพบนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่
วันนี้ (16 ต.ค.66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ และเข้าร่วมการประชุมข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road
วันที่ 29 ธ.ค.2567 กลายเป็นวันแห่งความสูญเสียที่ไม่อาจลืมเลือนในประวัติศาสตร์เกาหลีใต้ เมื่อเที่ยวบิน JC2216 ของสายการบิน Jeju Air ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงที่สนามบินนานาชาติมูอัน หลังจากเครื่องบินไถลออกนอกรันเวย์และพุ่งชนกำแพง ทำให้ผู้โดยสารเสียชีวิต 175 คนและลูกเรือ 4 ที่ต้องจบชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงบาดเจ็บสาหัสอีก 2 คน เหตุการณ์นี้สร้างความสะเทือนใจให้กับทั้งประเทศและทั่วโลก โดยเฉพาะครอบครัวผู้สูญเสียที่ยังคงรอคำตอบและร่างของคนที่พวกเขารัก สนามบินนานาชาติมูอัน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเต็มไปด้วยความคึกคัก กลับกลายเป็นจุดศูนย์รวมความเศร้าสลด ครอบครัวผู้เสียชีวิตหลายสิบครอบครัวปักหลักอยู่บริเวณสนามบินท่ามกลางอากาศหนาวเย็น หลายคนตั้งเต็นท์พักแรม โดยหวังว่าจะได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับคนที่พวกเขารัก ขณะที่เจ้าหน้าที่สนามบินและอาสาสมัครพยายามให้ความช่วยเหลือเท่าที่ทำได้ "ชิน กยู-โฮ" วัย 64 ปี ซึ่งสูญเสียหลานชาย 2 คนและลูกเขย เล่าอย่างปวดร้าวว่า ลูกเขยของผมยังพอสามารถระบุอัตลักษณ์ได้ แต่หลานชายทั้ง 2 ของผม พวกเขายังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย พวกเขายังมีอนาคตที่สดใสรออยู่ แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรเหลือเลย ชิน กยู-โฮ ยังคงนั่งรอที่จุดบรรยายสรุปของเจ้าหน้าที่ โดยกล่าวว่าเขาไม่อาจจากไปได้จนกว่าจะได้รับข่าวของหลานชาย ในอีกมุมหนึ่ง "ยู" เล่าถึงพี่ชายของเธอที่เป็น 1 ในผู้เสียชีวิตว่า เขาไปงานเลี้ยงกับเพื่อนร่วมงานเก่า แต่กลับเกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด พี่ชายของฉันเป็นลูกชายที่ดีมากสำหรับแม่วัย 97 ปี ตอนนี้แม่ยังไม่สามารถหยุดร้องไห้ได้เลย ครอบครัวคิดถึงเขาตลอดเวลา และพูดเสมอว่าอยากเจอเขาอีกครั้ง เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เพียงคร่าชีวิต แต่ยังแยกครอบครัวจำนวนมากจากกันอย่างไม่มีวันกลับ "เมียง กี-ซู" วัย 78 ปี เล่าว่าหลานชายของเขาและลูก 2 คนของหลาน เสียชีวิตทั้งหมดบนเที่ยวบินนี้ ส่วนชายวัย 60 ปีรายหนึ่งเปิดเผยกับ BBC ว่าเขาสูญเสียครอบครัวถึง 5 คนในเหตุการณ์นี้ มีทั้งพี่สะใภ้ ลูกสาว ลูกเขย และหลานเล็ก ๆ อีก 2 คน อีกหนึ่งในเรื่องราวที่สะเทือนใจที่สุดจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้คือเรื่องของ "พุดดิง" สุนัขตัวเล็กวัย 5 ปี ที่สูญเสียครอบครัวทั้งหมดในเหตุการณ์นี้ "ครอบครัวแพ" ผู้เป็นชาวย็องกวัง-กุน ใน จ.ช็อลลาใต้ ได้เดินทางไปเที่ยวที่กรุงเทพฯ ร่วมกันเพื่อฉลองวันเกิดครบรอบ 80 ปีของแพ ซึ่งเป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกในชีวิตของเขา ครอบครัวนี้มีทั้งหมด 9 คน ทั้งหมดร่วมกันเดินทางในทริปแห่งความสุขนี้ Source : IG care_korea_official แต่แล้วพวกเขาก็ไม่ได้กลับมาหา "พุดดิง" บ้านที่เคยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของคนในบ้าน กลับเงียบงัน เหลือเพียงพุดดิง ที่เป็นสัตว์เลี้ยงของหลานสาว นั่งจ้องมองรถทุกคันที่ขับผ่านเข้ามาในหมู่บ้าน ราวกับกำลังรอคอยการกลับมาของครอบครัวที่ไม่มีวันหวนคืน Source : IG care_korea_official ชาวบ้านที่รู้ถึงเรื่องราวอันเศร้าสลดนี้ต่างช่วยกันให้อาหารพุดดิง ด้วยความสงสารและเห็นใจต่อความสูญเสียของเธอ หลังเหตุการณ์ พุดดิงถูกพบเดินวนเวียนในหมู่บ้าน จนองค์กรสิทธิสัตว์ "Care" ได้เข้ามาช่วยเหลือพุดดิงและพาไปยังโรงพยาบาลสัตว์ในกรุงโซล ขณะนี้พุดดิงกำลังได้รับการตรวจสุขภาพและดูแลอย่างใกล้ชิด องค์กรกำลังเตรียมหฝาก 50 รับ 50 ถอน ไม่ อั้นรวม ค่าย สล็อต ใน เว็บ เดียวาบ้านใหม่ให้พุดดิงเพื่อให้เขาได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง แม้ว่าจะไม่มีอะไรแทนที่ความรักจากครอบครัวเดิมได้ Source : IG care_korea_official "ปาร์ก ฮัน-ชิน" ตัวแทนครอบครัวผู้เสียชีวิตกล่าวว่า พวกเราต้องการให้รัฐบาลเร่งนำผู้เชี่ยวชาญเข้ามาเพิ่มเติมเพื่อช่วยระบุตัวผู้เสียชีวิต ครอบครัวหลายคนเสียคนสำคัญในชีวิตไป เด็ก ๆ ที่เหลืออยู่จะใช้ชีวิตอย่างไร ? เราอยากเห็นความช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรมจากสายการบิน Jeju Air โดยเฉพาะการชดเชยอย่างเร่งด่วน ด้านรักษาการประธานาธิบดี ชเว ซัง-มก ได้ประกาศให้มูอันเป็นเขตภัยพิบัติพิเศษ พร้อมจัดสรรงบประมาณเพื่อช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบภัย นอกจากนี้ เขายังสั่งการตรวจสอบความปลอดภัยของสายการบินทั้งหมดในประเทศอย่างเร่งด่วน ขณะที่ Jeju Air ซึ่งเป็นสายการบินที่เกิดเหตุการณ์ ได้แถลงขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยผู้บริหารระดับสูงกล่าวว่า นี่เป็นอุบัติเหตุครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสายการบินตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2548 นักวิเคราะห์กำลังตรวจสอบกล่องดำของเครื่องบินเพื่อค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุครั้งนี้ แต่การถอดรหัสอาจล่าช้าเนื่องจากกล่องดำได้รับความเสียหายอย่างหนัก ในกระบวนการกู้ภัย ทีมเจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้สิ่งของกว่า 1,000 ชิ้นจากจุดเกิดเหตุ รวมถึงกระเป๋าเดินทางและโทรศัพท์มือถือบางส่วนที่ยังคงใช้งานได้ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบและคืนสิ่งของเหล่านี้ให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต การระบุเจ้าของสิ่งของบางชิ้นต้องอาศัยการตรวจสอบ DNA ซึ่งอาจใช้เวลานาน เหตุการณ์เครื่องบิน Jeju Air ไถลงออกนอกรันเวย์จนไปชนกำแพง ถือเป็นสิ่งที่พบได้ไม่บ่อยนักในเกาหลีใต้ ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เกาหลีใต้มีประวัติความปลอดภัยทางการบินที่ดี โดยเฉพาะสายการบิน Jeju Air เหตุการณ์นี้อาจเป็นอุบัติเหตุทางการบินที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลีใต้ และเป็นอุบัติเหตุครั้งแรกที่มีผู้เสียชีวิตในประวัติการดำเนินงานเกือบ 20 ปีของสายการบิน โศกนาฏกรรมครั้งนี้ถือเป็นเครื่องเตือนใจถึงความสำคัญของมาตรการความปลอดภัยในอุตสาหกรรมการบิน ผู้เชี่ยวชาญได้เรียกร้องให้รัฐบาลและสายการบินตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก ครอบครัวของผู้เสียชีวิตยังคงตั้งคำถามถึงสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุและความรับผิดชอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะที่ประชาชนทั้งประเทศ ต่างเฝ้ารอการสรุปผลการสอบสวนด้วยความหวังว่าบทเรียนจากเหตุการณ์นี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในอนาคต ที่มา : South China Morning Post, CNN, The Korea Times อ่านข่าวอื่น : พิสูจน์อัตลักษณ์ครบแล้ว 179 ผู้เสียชีวิต "Jeju Air" ไถลรันเวย์ รับผิดชอบเต็มที่! Jeju Air เร่งเยียวยาทุกครอบครัวผู้เสียชีวิต
วันที่ 29 ธ.ค.2567 กลายเป็นวันแห่งความสูญเสียที่ไม่อาจลืมเลือนในประวัติศาสตร์เกาหลีใต้ เมื่อเที่ยวบิ
วันนี้ (12 เม.ย.2568) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานพิธีอัญเชิญพ
วันนี้ (26 ก.ย.2565) รัฐบาลเปิดศูนย์อำนวยการติดตามสถานการณ์พายุไต้ฝุ่น “โนรู” เพื่อติดตามและประเมินส
วันที่ 29 ธ.ค.2567 กลายเป็นวันแห่งความสูญเสียที่ไม่อาจลืมเลือนในประวัติศาสตร์เกาหลีใต้ เมื่อเที่ยวบิน JC2216 ของสายการบิน Jeju Air ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงที่สนามบินนานาชาติมูอัน หลังจากเครื่องบินไถลออกนอกรันเวย์และพุ่งชนกำแพง ทำให้ผู้โดยสารเสียชีวิต 175 คนและลูกเรือ 4 ที่ต้องจบชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงบาดเจ็บสาหัสอีก 2 คน เหตุการณ์นี้สร้างความสะเทือนใจให้กับทั้งประเทศและทั่วโลก โดยเฉพาะครอบครัวผู้สูญเสียที่ยังคงรอคำตอบและร่างของคนที่พวกเขารัก สนามบินนานาชาติมูอัน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเต็มไปด้วยความคึกคัก กลับกลายเป็นจุดศูนย์รวมความเศร้าสลด ครอบครัวผู้เสียชีวิตหลายสิบครอบครัวปักหลักอยู่บริเวณสนามบินท่ามกลางอากาศหนาวเย็น หลายคนตั้งเต็นท์พักแรม โดยหวังว่าจะได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับคนที่พวกเขารัก ขณะที่เจ้าหน้าที่สนามบินและอาสาสมัครพยายามให้ความช่วยเหลือเท่าที่ทำได้ "ชิน กยู-โฮ" วัย 64 ปี ซึ่งสูญเสียหลานชาย 2 คนและลูกเขย เล่าอย่างปวดร้าวว่า ลูกเขยของผมยังพอสามารถระบุอัตลักษณ์ได้ แต่หลานชายทั้ง 2 ของผม พวกเขายังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย พวกเขายังมีอนาคตที่สดใสรออยู่ แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรเหลือเลย ชิน กยู-โฮ ยังคงนั่งรอที่จุดบรรยายสรุปของเจ้าหน้าที่ โดยกล่าวว่าเขาไม่อาจจากไปได้จนกว่าจะได้รับข่าวของหลานชาย ในอีกมุมหนึ่ง "ยู" เล่าถึงพี่ชายของเธอที่เป็น 1 ในผู้เสียชีวิตว่า เขาไปงานเลี้ยงกับเพื่อนร่วมงานเก่า แต่กลับเกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด พี่ชายของฉันเป็นลูกชายที่ดีมากสำหรับแม่วัย 97 ปี ตอนนี้แม่ยังไม่สามารถหยุดร้องไห้ได้เลย ครอบครัวคิดถึงเขาตลอดเวลา และพูดเสมอว่าอยากเจอเขาอีกครั้ง เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เพียงคร่าชีวิต แต่ยังแยกครอบครัวจำนวนมากจากกันอย่างไม่มีวันกลับ "เมียง กี-ซู" วัย 78 ปี เล่าว่าหลานชายของเขาและลูก 2 คนของหลาน เสียชีวิตทั้งหมดบนเที่ยวบินนี้ ส่วนชายวัย 60 ปีรายหนึ่งเปิดเผยกับ BBC ว่าเขาสูญเสียครอบครัวถึง 5 คนในเหตุการณ์นี้ มีทั้งพี่สะใภ้ ลูกสาว ลูกเขย และหลานเล็ก ๆ อีก 2 คน อีกหนึ่งในเรื่องราวที่สะเทือนใจที่สุดจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้คือเรื่องของ "พุดดิง" สุนัขตัวเล็กวัย 5 ปี ที่สูญเสียครอบครัวทั้งหมดในเหตุการณ์นี้ "ครอบครัวแพ" ผู้เป็นชาวย็องกวัง-กุน ใน จ.ช็อลลาใต้ ได้เดินทางไปเที่ยวที่กรุงเทพฯ ร่วมกันเพื่อฉลองวันเกิดครบรอบ 80 ปีของแพ ซึ่งเป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกในชีวิตของเขา ครอบครัวนี้มีทั้งหมด 9 คน ทั้งหมดร่วมกันเดินทางในทริปแห่งความสุขนี้ Source : IG care_korea_official แต่แล้วพวกเขาก็ไม่ได้กลับมาหา "พุดดิง" บ้านที่เคยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของคนในบ้าน กลับเงียบงัน เหลือเพียงพุดดิง ที่เป็นสัตว์เลี้ยงของหลานสาว นั่งจ้องมองรถทุกคันที่ขับผ่านเข้ามาในหมู่บ้าน ราวกับกำลังรอคอยการกลับมาของครอบครัวที่ไม่มีวันหวนคืน Source : IG care_korea_official ชาวบ้านที่รู้ถึงเรื่องราวอันเศร้าสลดนี้ต่างช่วยกันให้อาหารพุดดิง ด้วยความสงสารและเห็นใจต่อความสูญเสียของเธอ หลังเหตุการณ์ พุดดิงถูกพบเดินวนเวียนในหมู่บ้าน จนองค์กรสิทธิสัตว์ "Care" ได้เข้ามาช่วยเหลือพุดดิงและพาไปยังโรงพยาบาลสัตว์ในกรุงโซล ขณะนี้พุดดิงกำลังได้รับการตรวจสุขภาพและดูแลอย่างใกล้ชิด องค์กรกำลังเตรียมหฝาก 50 รับ 50 ถอน ไม่ อั้นรวม ค่าย สล็อต ใน เว็บ เดียวาบ้านใหม่ให้พุดดิงเพื่อให้เขาได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง แม้ว่าจะไม่มีอะไรแทนที่ความรักจากครอบครัวเดิมได้ Source : IG care_korea_official "ปาร์ก ฮัน-ชิน" ตัวแทนครอบครัวผู้เสียชีวิตกล่าวว่า พวกเราต้องการให้รัฐบาลเร่งนำผู้เชี่ยวชาญเข้ามาเพิ่มเติมเพื่อช่วยระบุตัวผู้เสียชีวิต ครอบครัวหลายคนเสียคนสำคัญในชีวิตไป เด็ก ๆ ที่เหลืออยู่จะใช้ชีวิตอย่างไร ? เราอยากเห็นความช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรมจากสายการบิน Jeju Air โดยเฉพาะการชดเชยอย่างเร่งด่วน ด้านรักษาการประธานาธิบดี ชเว ซัง-มก ได้ประกาศให้มูอันเป็นเขตภัยพิบัติพิเศษ พร้อมจัดสรรงบประมาณเพื่อช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบภัย นอกจากนี้ เขายังสั่งการตรวจสอบความปลอดภัยของสายการบินทั้งหมดในประเทศอย่างเร่งด่วน ขณะที่ Jeju Air ซึ่งเป็นสายการบินที่เกิดเหตุการณ์ ได้แถลงขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยผู้บริหารระดับสูงกล่าวว่า นี่เป็นอุบัติเหตุครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสายการบินตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2548 นักวิเคราะห์กำลังตรวจสอบกล่องดำของเครื่องบินเพื่อค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุครั้งนี้ แต่การถอดรหัสอาจล่าช้าเนื่องจากกล่องดำได้รับความเสียหายอย่างหนัก ในกระบวนการกู้ภัย ทีมเจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้สิ่งของกว่า 1,000 ชิ้นจากจุดเกิดเหตุ รวมถึงกระเป๋าเดินทางและโทรศัพท์มือถือบางส่วนที่ยังคงใช้งานได้ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบและคืนสิ่งของเหล่านี้ให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต การระบุเจ้าของสิ่งของบางชิ้นต้องอาศัยการตรวจสอบ DNA ซึ่งอาจใช้เวลานาน เหตุการณ์เครื่องบิน Jeju Air ไถลงออกนอกรันเวย์จนไปชนกำแพง ถือเป็นสิ่งที่พบได้ไม่บ่อยนักในเกาหลีใต้ ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เกาหลีใต้มีประวัติความปลอดภัยทางการบินที่ดี โดยเฉพาะสายการบิน Jeju Air เหตุการณ์นี้อาจเป็นอุบัติเหตุทางการบินที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลีใต้ และเป็นอุบัติเหตุครั้งแรกที่มีผู้เสียชีวิตในประวัติการดำเนินงานเกือบ 20 ปีของสายการบิน โศกนาฏกรรมครั้งนี้ถือเป็นเครื่องเตือนใจถึงความสำคัญของมาตรการความปลอดภัยในอุตสาหกรรมการบิน ผู้เชี่ยวชาญได้เรียกร้องให้รัฐบาลและสายการบินตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก ครอบครัวของผู้เสียชีวิตยังคงตั้งคำถามถึงสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุและความรับผิดชอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะที่ประชาชนทั้งประเทศ ต่างเฝ้ารอการสรุปผลการสอบสวนด้วยความหวังว่าบทเรียนจากเหตุการณ์นี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในอนาคต ที่มา : South China Morning Post, CNN, The Korea Times อ่านข่าวอื่น : พิสูจน์อัตลักษณ์ครบแล้ว 179 ผู้เสียชีวิต "Jeju Air" ไถลรันเวย์ รับผิดชอบเต็มที่! Jeju Air เร่งเยียวยาทุกครอบครัวผู้เสียชีวิต
วันนี้ (21 พ.ย. 2565) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ยื่นหนังสือถึงกระทรวงยุติธรรม ตรวจสอบนายตู้ห่าว นายท