วันนี้ (20 มี.ค.2564) บรรยากาศสนามสอบที่โรงเรียนสา

วันนี้ (24 ม.ค.2568) นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด กล่าวถึงความคืบหน้าของร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ที่พิจารณามาครบรอบ 1 ปี ว่า พิจารณาครบทุกมาตราแล้ว โดยได
วันนี้ (30 ธ.ค.2564) ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รับหนังสือร้องเรียนจาก นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กรณีคัดค้านการส่งตัว
แม้ตลอดช่วงเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และรัสเซียจะเคยพบปะกันบนเวทีประชุมในหลายประเทศ แต่แทบไม่เคยหันหน้าพูดคุยกัน ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ตกต่ำถึงขีดสุดนับตั้งแต่สงครามเย็น ดังนั้นการประชุมที่ซาอุดีอาระเบียเมื่อวันที่ 18 ก.พ. จึงถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด การประชุมครั้งนี้อนุญาตให้สื่อเข้าไปบันทึกภาพได้เพียง 1 นาที ซึ่งในระหว่างนั้นทีมเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ฝั่งไม่เปิดปากพูดคุยกันเหมือนการประชุมตามปกติ ขณะที่มีรายงานว่าทีมซาอุดีอาวิเคราะห์บอล ไบรท์ ตัน พบ เอ ฟ เวอร์ ตันระเบียออกจากห้องประชุมหลังกล่าวต้อนรับพอเป็นพิธี ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่สหรัฐฯ กับรัสเซียนั่งร่วมโต๊ะหารือเพื่อยุติสงครามในยูเครน โดยใช้เวลาคุยกันนานกว่า 4 ชั่วโมง ทีมรัสเซีย ระบุว่า การประชุมครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่นและแม้ว่าจะไม่ได้ถึงกับทำให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น แต่ทั้ง 2 ฝ่ายก็ได้พูดคุยในประเด็นสำคัญอย่างจริงจัง โดยสหรัฐฯ รับฟังและเข้าใจจุดยืนของรัสเซีย รวมทั้งพูดคุยกันในเรื่องที่ตกลงกันได้ ซึ่งรัสเซียระบุว่าท่าทีเช่นนี้แตกต่างไปจากรัฐบาลโจ ไบเดน การพูดคุยระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซียครั้งนี้ ถูกมองว่าจะเป็นการปูทางไปสู่การฟื้นฟูความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศหรือไม่ เพราะตัวแทนที่แต่ละประเทศส่งมาล้วนแล้วแต่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ทำงานใกล้ชิดกับผู้นำประเทศ อย่างทีมรัสเซียมีทั้ง เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศที่อยู่ในตำแหน่งนี้มานานกว่า 20 ปี และยูริ อูชาคอฟ ที่ปรึกษานโยบายต่างประเทศของปูติน และเป็นอดีตเอกอัครราชทูตประจำสหรัฐฯ ด้วย (เรียงจากซ้าย) เจ้าชาย Faisal bin Farhan al-Saud รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย / Mosaad bin Mohammad al-Aiban ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ / Yuri Ushakov ที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีรัสเซีย / Sergei Lavrov รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย (เรียงจากซ้าย) เจ้าชาย Faisal bin Farhan al-Saud รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย / Mosaad bin Mohammad al-Aiban ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ / Yuri Ushakov ที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีรัสเซีย / Sergei Lavrov รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ขณะที่ทีมสหรัฐฯ นอกจากรัฐมนตรีต่างประเทศและที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติแล้ว ที่น่าสนใจคือ สตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนด้านตะวันออกกลาง ซึ่งทำให้หลายคนสงสัยว่าเวทีนี้น่าจะคุยกันเรื่องยูเครน แต่เหตุใดวิตคอฟฟ์ถึงเข้าร่วมการหารือด้วย วิตคอฟฟ์ เป็นเพื่อนกับทรัมป์และเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาเพิ่งบินไปกรุงมอสโก เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการปล่อยตัวครูชาวอเมริกันที่ถูกจำคุกในรัสเซียจากข้อหาครอบครองกัญชา ซึ่งในครั้งนั้นวิตคอฟฟ์ได้พบผู้นำรัสเซียและคุยกันนานร่วม 3 ชั่วโมง ดังนั้นเวทีแรกที่ 2 ประเทศจะคุยกันอย่างจริงจังจึงขาดวิตคอฟฟ์ไปไม่ได้ ทีมสหรัฐฯ ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ระบุว่า ทั้ง 2 ประเทศเห็นชอบร่วมกันใน 4 หลักการ คือ การเพิ่มเจ้าหน้าที่สถานทูตของแต่ละประเทศเพื่อให้งานทางการทูตกลับมาเป็นปกติ แต่ละฝ่ายจะแต่งตั้งทีมเจ้าหน้าที่ระดับสูงเพื่อเจรจายุติความขัดแย้งในยูเครน รวมทั้งเริ่มหารือเกี่ยวกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์หลังสงครามสิ้นสุดลง และสุดท้ายคือ ทั้ง 5 คนที่ร่วมประชุมจะพูดคุยและผลักดันให้กระบวนการเหล่านี้คืบหน้าไปให้ได้ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ กล่าวว่า การหารือครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเพื่อสร้างช่องทางการสื่อสารระหว่าง 2 ฝ่ายเท่านั้น ซึ่งหนทางในการยุติสงครามยังคงอยู่อีกยาวไกลและจะไม่มีใครถูกลดบทบาท หลังจากหลายคนตั้งคำถามว่า เหตุใดยูเครนและยุโรปจึงไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วย (เรียงจากซ้าย) Steve Witkoff ผู้แทนด้านตะวันออกกลาง / Marco Rubio รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ / Mike Waltz ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ (เรียงจากซ้าย) Steve Witkoff ผู้แทนด้านตะวันออกกลาง / Marco Rubio รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ / Mike Waltz ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ขณะที่ ไมค์ วอลท์ซ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ เปิดเผยว่า การเจรจาเพื่อยุติสงครามในยูเครนจะพุ่งเป้าไปที่การพูดคุยเรื่องดินแดนและการรับประกันความมั่นคง ซึ่งรัสเซียสะท้อนจุดยืนไปยังสหรัฐฯ ว่าคัดค้านการส่งทหารของชาติสมาชิก NATO เข้าไปในยูเครน หนึ่งในคำถามที่สื่อสนใจในการประชุมเมื่อวันที่ 18 ก.พ. คือ ทรัมป์กับปูตินจะเจอกันที่ซาอุดีอาระเบียในสัปดาห์หน้าใช่หรือไม่ โดยทีมรัสเซียระบุว่าน่าจะยาก เพราะหากจะจัดการประชุมจริงอาจต้องใช้เวลาเตรียมการ ซึ่งเมื่อพูดมาถึงตรงนี้หลายคนมองไปถึงบทบาทของซาอุดีอาระเบียในฐานะโซ่ข้อกลางระหว่าง 2 มหาอำนาจโลก คนที่สำคัญที่สุดในสมการความสัมพันธ์นี้ หนีไม่พ้น โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย หรือที่เรียกกันติดปากว่า MBS โดยพระองค์ทรงมีส่วนช่วยในการเจรจาแลกเปลี่ยนตัวนักโทษระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซียครั้งใหญ่ที่สุดเมื่อปี 2024 และล่าสุดคือการปล่อยตัวครูชาวอเมริกันจากเรือนจำรัสเซีย สงครามรัสเซีย-ยูเครน ผลักให้หลายประเทศต้องยอมเลือกข้าง แต่ไม่ใช่กับซาอุดีอาระเบียที่ยังคงรักษาความสัมพันธ์อันดีได้กับทั้งสหรัฐฯ และรัสเซีย โดยซาอุดีอาระเบียถือเป็นประเทศแรกที่ทรัมป์เลือกเดินทางเยือนขณะก้าวขึ้นเป็นผู้นำสหรัฐฯ สมัยแรกในปี 2017 และตระกูลอัล ซาอุด ก็รักษาความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับตระกูลทรัมป์อย่างแน่นแฟ้นเรื่อยมา ขณะที่ซาอุดีอาระเบียร่วมมือด้านพลังงานกับรัสเซียตลอดช่วง 3 ปีของสงคราม ซึ่งช่วยให้รัสเซียลดผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกไปได้บ้าง นอกจากนี้ผู้นำรัสเซียยังเคยเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียเมื่อปี 2023 รวมทั้งช่วยให้ซาอุดีอาระเบียได้เป็นสมาชิกกลุ่ม BRICS ซาอุดีอาระเบียภายใต้การนำของ MBS ก้าวขึ้นมาเฉิดฉายบนเวทีระหว่างประเทศในฐานะผู้เล่นคนสำคัญในการยุติความขัดแย้งทั่วโลก ซึ่งสงครามในยูเครนเป็นหนึ่งในนั้น อ่านข่าว ฮามาสเตรียมปล่อยตัวประกันเพิ่ม 6 คน 22 ก.พ.นี้ ถูกทอดทิ้ง ? สหรัฐฯ เร่งเจรจากับรัสเซีย ไม่รอยุโรป-ยูเครน ทรัมป์ป่วน โลกป่วย "American first" ประเทศอื่นไม่ต้องสนใจ
วันนี้ (5 พ.ย.2564) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า เนื่องจากขณะนี้กำลังเข้
วันนี้ (1 ก.พ.2564) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง กำหนดให้มีการ
วันนี้ (21 ก.พ.2567) นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางได้ร่วมกับสมาคม
แม้ตลอดช่วงเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และรัสเซียจะเคยพบปะกันบนเวทีประชุมในหลายประเทศ แต่แทบไม่เคยหันหน้าพูดคุยกัน ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ตกต่ำถึงขีดสุดนับตั้งแต่สงครามเย็น ดังนั้นการประชุมที่ซาอุดีอาระเบียเมื่อวันที่ 18 ก.พ. จึงถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด การประชุมครั้งนี้อนุญาตให้สื่อเข้าไปบันทึกภาพได้เพียง 1 นาที ซึ่งในระหว่างนั้นทีมเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ฝั่งไม่เปิดปากพูดคุยกันเหมือนการประชุมตามปกติ ขณะที่มีรายงานว่าทีมซาอุดีอาวิเคราะห์บอล ไบรท์ ตัน พบ เอ ฟ เวอร์ ตันระเบียออกจากห้องประชุมหลังกล่าวต้อนรับพอเป็นพิธี ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่สหรัฐฯ กับรัสเซียนั่งร่วมโต๊ะหารือเพื่อยุติสงครามในยูเครน โดยใช้เวลาคุยกันนานกว่า 4 ชั่วโมง ทีมรัสเซีย ระบุว่า การประชุมครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่นและแม้ว่าจะไม่ได้ถึงกับทำให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น แต่ทั้ง 2 ฝ่ายก็ได้พูดคุยในประเด็นสำคัญอย่างจริงจัง โดยสหรัฐฯ รับฟังและเข้าใจจุดยืนของรัสเซีย รวมทั้งพูดคุยกันในเรื่องที่ตกลงกันได้ ซึ่งรัสเซียระบุว่าท่าทีเช่นนี้แตกต่างไปจากรัฐบาลโจ ไบเดน การพูดคุยระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซียครั้งนี้ ถูกมองว่าจะเป็นการปูทางไปสู่การฟื้นฟูความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศหรือไม่ เพราะตัวแทนที่แต่ละประเทศส่งมาล้วนแล้วแต่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ทำงานใกล้ชิดกับผู้นำประเทศ อย่างทีมรัสเซียมีทั้ง เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศที่อยู่ในตำแหน่งนี้มานานกว่า 20 ปี และยูริ อูชาคอฟ ที่ปรึกษานโยบายต่างประเทศของปูติน และเป็นอดีตเอกอัครราชทูตประจำสหรัฐฯ ด้วย (เรียงจากซ้าย) เจ้าชาย Faisal bin Farhan al-Saud รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย / Mosaad bin Mohammad al-Aiban ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ / Yuri Ushakov ที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีรัสเซีย / Sergei Lavrov รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย (เรียงจากซ้าย) เจ้าชาย Faisal bin Farhan al-Saud รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย / Mosaad bin Mohammad al-Aiban ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ / Yuri Ushakov ที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีรัสเซีย / Sergei Lavrov รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ขณะที่ทีมสหรัฐฯ นอกจากรัฐมนตรีต่างประเทศและที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติแล้ว ที่น่าสนใจคือ สตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนด้านตะวันออกกลาง ซึ่งทำให้หลายคนสงสัยว่าเวทีนี้น่าจะคุยกันเรื่องยูเครน แต่เหตุใดวิตคอฟฟ์ถึงเข้าร่วมการหารือด้วย วิตคอฟฟ์ เป็นเพื่อนกับทรัมป์และเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาเพิ่งบินไปกรุงมอสโก เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการปล่อยตัวครูชาวอเมริกันที่ถูกจำคุกในรัสเซียจากข้อหาครอบครองกัญชา ซึ่งในครั้งนั้นวิตคอฟฟ์ได้พบผู้นำรัสเซียและคุยกันนานร่วม 3 ชั่วโมง ดังนั้นเวทีแรกที่ 2 ประเทศจะคุยกันอย่างจริงจังจึงขาดวิตคอฟฟ์ไปไม่ได้ ทีมสหรัฐฯ ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ระบุว่า ทั้ง 2 ประเทศเห็นชอบร่วมกันใน 4 หลักการ คือ การเพิ่มเจ้าหน้าที่สถานทูตของแต่ละประเทศเพื่อให้งานทางการทูตกลับมาเป็นปกติ แต่ละฝ่ายจะแต่งตั้งทีมเจ้าหน้าที่ระดับสูงเพื่อเจรจายุติความขัดแย้งในยูเครน รวมทั้งเริ่มหารือเกี่ยวกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์หลังสงครามสิ้นสุดลง และสุดท้ายคือ ทั้ง 5 คนที่ร่วมประชุมจะพูดคุยและผลักดันให้กระบวนการเหล่านี้คืบหน้าไปให้ได้ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ กล่าวว่า การหารือครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเพื่อสร้างช่องทางการสื่อสารระหว่าง 2 ฝ่ายเท่านั้น ซึ่งหนทางในการยุติสงครามยังคงอยู่อีกยาวไกลและจะไม่มีใครถูกลดบทบาท หลังจากหลายคนตั้งคำถามว่า เหตุใดยูเครนและยุโรปจึงไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วย (เรียงจากซ้าย) Steve Witkoff ผู้แทนด้านตะวันออกกลาง / Marco Rubio รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ / Mike Waltz ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ (เรียงจากซ้าย) Steve Witkoff ผู้แทนด้านตะวันออกกลาง / Marco Rubio รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ / Mike Waltz ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ขณะที่ ไมค์ วอลท์ซ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ เปิดเผยว่า การเจรจาเพื่อยุติสงครามในยูเครนจะพุ่งเป้าไปที่การพูดคุยเรื่องดินแดนและการรับประกันความมั่นคง ซึ่งรัสเซียสะท้อนจุดยืนไปยังสหรัฐฯ ว่าคัดค้านการส่งทหารของชาติสมาชิก NATO เข้าไปในยูเครน หนึ่งในคำถามที่สื่อสนใจในการประชุมเมื่อวันที่ 18 ก.พ. คือ ทรัมป์กับปูตินจะเจอกันที่ซาอุดีอาระเบียในสัปดาห์หน้าใช่หรือไม่ โดยทีมรัสเซียระบุว่าน่าจะยาก เพราะหากจะจัดการประชุมจริงอาจต้องใช้เวลาเตรียมการ ซึ่งเมื่อพูดมาถึงตรงนี้หลายคนมองไปถึงบทบาทของซาอุดีอาระเบียในฐานะโซ่ข้อกลางระหว่าง 2 มหาอำนาจโลก คนที่สำคัญที่สุดในสมการความสัมพันธ์นี้ หนีไม่พ้น โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย หรือที่เรียกกันติดปากว่า MBS โดยพระองค์ทรงมีส่วนช่วยในการเจรจาแลกเปลี่ยนตัวนักโทษระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซียครั้งใหญ่ที่สุดเมื่อปี 2024 และล่าสุดคือการปล่อยตัวครูชาวอเมริกันจากเรือนจำรัสเซีย สงครามรัสเซีย-ยูเครน ผลักให้หลายประเทศต้องยอมเลือกข้าง แต่ไม่ใช่กับซาอุดีอาระเบียที่ยังคงรักษาความสัมพันธ์อันดีได้กับทั้งสหรัฐฯ และรัสเซีย โดยซาอุดีอาระเบียถือเป็นประเทศแรกที่ทรัมป์เลือกเดินทางเยือนขณะก้าวขึ้นเป็นผู้นำสหรัฐฯ สมัยแรกในปี 2017 และตระกูลอัล ซาอุด ก็รักษาความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับตระกูลทรัมป์อย่างแน่นแฟ้นเรื่อยมา ขณะที่ซาอุดีอาระเบียร่วมมือด้านพลังงานกับรัสเซียตลอดช่วง 3 ปีของสงคราม ซึ่งช่วยให้รัสเซียลดผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกไปได้บ้าง นอกจากนี้ผู้นำรัสเซียยังเคยเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียเมื่อปี 2023 รวมทั้งช่วยให้ซาอุดีอาระเบียได้เป็นสมาชิกกลุ่ม BRICS ซาอุดีอาระเบียภายใต้การนำของ MBS ก้าวขึ้นมาเฉิดฉายบนเวทีระหว่างประเทศในฐานะผู้เล่นคนสำคัญในการยุติความขัดแย้งทั่วโลก ซึ่งสงครามในยูเครนเป็นหนึ่งในนั้น อ่านข่าว ฮามาสเตรียมปล่อยตัวประกันเพิ่ม 6 คน 22 ก.พ.นี้ ถูกทอดทิ้ง ? สหรัฐฯ เร่งเจรจากับรัสเซีย ไม่รอยุโรป-ยูเครน ทรัมป์ป่วน โลกป่วย "American first" ประเทศอื่นไม่ต้องสนใจ
แม้ตลอดช่วงเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และรัสเซียจะเคยพบปะกันบนเวทีประชุมในหลายประเ