วันนี้ (20 ก.ย.65) พล.ต.วิระ โรจนวาศ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และหัวหน้าทีมกฎหมายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เปิดเผยว่า ในวันที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำร้องของฝ่ายค้าน ที่ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นน

วันนี้ (29 ส.ค.2567) นายสาธิต ปิตุเตชะ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ กำลังจะร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยว่า ตนเห็นภาพนี้มาตั้งแต่ 8-9 เดือนก่อนแล้ว และตั้งแต่ผู้บริหารชุดใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาบริหาร เกิดความผิดสังเกตในแง่ของการปฎิบัติหน้าที่ในเชิงการเมือง ซึ่งมองว่าเป็นการบริหารแบบกลุ่มและพรรคพวก โดยเห็นได้จากการโหวตและแก้ไขข้อบังคับพรรคที่ผ่านมา ไม่มีการกระจายให้น้ำหนักผู้ที่มีส่วนในพรรคการเมืองเข้าไปมีส่วนร่วมในการเลือกผู้บริหาร เพราะการเป็นพรรคการเมืองต้องรับฟังเสียงจากทุกฝ่ายแต่พอเป็นแบบนี้ก็จะทำให้เห็นภาพของวันนี้ว่าจะเกิดขึ้น นายสาธิต ยังมองว่า การเป็นพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีอะไรผิด แต่ควรยึดโยงกับผู้สนับสนุนพรรค ซึ่งประชาธิปัตย์ต้องต่อสู้กับการใช้อำนาจและธุรกิจการเมืองที่ไม่มีหลักการอื่นใด มุ่งแต่เรื่องได้ประโยชน์และเข้าหาเป็นหลักโดยไม่สนวิธีการ จึงเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้น พอจะมองได้ว่า อนาคตทางการเมืองหลังจากนี้จะหาคนสนับสนุนได้ยากเพราะจุดยืนไม่ชัดเจน กลายเป็นคนกลุ่มเดียว ไม่ใช่ผู้สนับสนุนเชิงอุดมการณ์และการเมืองที่ยึดโยงประชาชน นายสาธิต ปิตุเตชะ อดีต สส.และอดีตผู้บริหาร พรรคประชาธิปัตย์ นายสาธิต ปิตุเตชะ อดีต สส.และอดีตผู้บริหาร พรรคประชาธิปัตย์ นายสาธิต ยอมรับว่า ดีเอ็นเอของพรรคประชาธิปัตย์วันนี้ หากคิดโยงกับผู้บริหาร พรรคไม่มีชีวิต พรรคจะมีจุดยืนตามผู้บริหาร พร้อมกับมองว่า ผู้บริหารชุดนี้และองค์ประกอบใหญ่ของพรรค ไม่มีดีเอ็นเอของการต่อสู้โดยอุดมการณ์และจุดยืนทางการเมืองเพื่อประชาชนแล้ว แต่ที่ยังคงเหลืออยู่ คือ ปูชนียบุคคลบางส่วน และอาจจะมีคนรุ่นใหม่ที่สืบทอดเจตนารมณ์แต่กลายเป็นเสียงข้างน้อยไป จึงไม่สามารถยืนหลักที่แท้จริงของพรรคได้ นายสาธิต กล่าวอีกว่า ตนตัดสินใจถูกเพราะเห็นภาพนี้มานาน เมื่อถามว่า มองอนาคตทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์จะสูญพันธุ์หรือไม่ นายสาธิต ระบุว่า คงสรุปถึงขนาดนั้นไม่ได้ เพราะในยุคการเมืองคอนเทนต์กับยุคธุรกิจการเมือง อาจจะเกิดอะไรขึ้นก็ได้ แต่อย่างน้อยความเป็นสถาบันของพรรคยังอยู่บ้าง แต่ถูกบดบังไปด้วยผู้นำทางจิตวิญญาณที่โกหกประชาชน บอกป่วยแต่ไม่ป่วย บอกเลิกแต่เล่นต่อ มันก็ยากที่จะฟื้นคืน ส่วนที่อธิบายว่า การร่วมรัฐบาลครั้งนี้เพื่อเดินหน้าประเทศและก้าวข้ามความขัดแย้งนั้น นายสาธิต กล่าวว่า คำอธิบายมีน้ำหนักเบาเพราะเสียงที่พรรคเพื่อไทยมีนั้นพออยู่แล้วที่จะตั้งรัฐบาล และไม่มีความขัดแย้งใด ๆ ทั้งสิ้น การทำงานของพรรคการเมือง เป็นการทำงานที่ไม่ใช่ตัวบุคคล แต่ต้องเป็นการตรวจสอบที่ต้องให้ประชาชนได้เห็นการทำงาน เพราะฉะนั้นข้ออ้างที่บอกให้ประเทศเดินหน้าหากประชาธิปัตย์ไม่เข้าไป เขาก็เดินหน้าได้อยู่แล้ว และไม่มีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เขาก็เดินหน้าตั้งรัฐบาลกันได้อยู่แล้ว ส่วนการตัดสินใจของพรรคเพื่อไทย ที่ดึงประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล นายสาธิต มองว่า ผู้นำทางจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย เป็นคนเก่งทางการเมืองอยู่แล้ว ยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัวคือ 1.ทำลายพรรคประชาธิปัตย์ไปด้วยโดยผู้บริหารชุดนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยทำได้ 2.เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับรัฐบาลเพิ่มมากขึ้น นายสาธิต ยังฝากไปถึงผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ ชุดปัจจุบันว่า ดีเอ็นเอประชาธิปัตย์อยู่กับตน 100 % แต่ผู้บริหารชุดนี้เป็นเพียงคนมาแสวงหาผลประโยชน์ในพรรค ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้ของเขาจะทำให้ประชาธิปัตย์ไม่สามารถกลับมาได้ด้วยน้ำมือของเขาอย่างแท้จริง ขณะที่ น.ส.​วทัยา​ บุนนาค​ โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว​ "เดียร์​ วทันยา​ บุนนาค" ถึงกรณีดังกล่าวว่า "ก้าวข้ามความขัดแย้ง หรือ ก้าวข้ามหัวประชาชน ? " การร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ที่อ้างว่า คนรุ่นนี้ไม่รับมรดกความขัดแย้งของรุ่นก่อนหน้า ฟังดูเป็นการตัดตอนอย่างง่าย เพื่อให้ได้มาซึ่งความชอบธรรมในการขึ้นสู่อำนาจ ? แท้จริงแล้ว ภาพความขัดแย้งที่ผู้บริหารชุดนี้เหมารวม มันคือ การทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลของพรรคประชาธิปัตย์อย่างเต็มกำลังมาทุกยุคทุกสมัย ไม่อ่อนข้อหรือล้มมวยเพื่อเห็นแก่อำนาจและผลประโยชน์ต่างตอบแทน "ผู้แทนประชาชน" คือ ตัวแทนประชาชนที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ให้เข้ามาทำหน้าที่เพื่อรักษาประโยชน์ของประชาชน น.ส.​วทันยา​ บุนนาค สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ น.ส.​วทันยา​ บุนนาค สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ "ผู้แทนประชาชนที่ดี" จึงต้อง "กล้า…ยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง และกล้า…ต่อสู้กับความไม่ชอบธรรมเมื่อขัดแย้งกับประโยชน์ส่วนรวม" ให้สมกับที่ได้รับความไว้วางใจ ไม่ใช่การเข้ามาทำหน้าที่เพื่อสู้รบ หรือรักกับใครเพราะการแบ่งผลประโยชน์ส่วนตนนั้นลงตัว แม้ในตลอดกว่าช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์จะไม่ชนะการเลือกตั้ง การเมืองเผชิญความวุ่นวาย จนพรรคได้รับบทเรียนเหลือ ส.ส.จำนวน 25 คน แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยสูญเสียเกียรติ และความภาคภูมิใจเพราะสมาชิกพรรคต่างตระหนักรู้ดีว่า การตัดสินใจของสมาชิกไม่ได้เกิดขึ้นจากการทำประโยชน์เพียงเพื่อคนไม่กี่คน หรือใครคนใดคนหนึ่ง ดังนั้น การกอบกู้วิกฤตพรรคที่วันนี้พ่ายแพ้การเลือกตั้ง คือการทำหน้าที่เพื่อประชาชนในฐานะฝ่ายค้าน ตรวจสอบถ่วงดุลอย่างสุดกำลังความสามารถ ไม่ใช่การสบช่องหาโอกาส เพื่อเข้าสู้อำนาจโดยก้าวข้ามความรู้สึกประชาชนที่ยังคงให้ความไว้วางใจใคา สิ โน ออนไลน์ ลาวนพรรคประชาธิปัตย์ การตัดสินใจของผู้บริหารพรรคชุดนี้ไม่เพียงซ้ำเติม ทำลายวิกฤตศรัทธาของพรรคที่ชาวประชาธิปัตย์ในอดีตเพียรสร้างมาอย่างสิ้นเชิง หากแต่คือการทำลายวิกฤตศรัทธาของการเมืองไทย ที่สุดท้ายนักการเมืองไม่อาจเป็นความหวัง การเลือกตั้งเป็นเพียงพิธีกรรม ให้นักการเมืองเข้ามาร่วมกันแสวงหาประโยชน์ของตนเอง อ่านข่าว : พท.เทียบเชิญ ปชป.ร่วมรัฐบาล "เดชอิศม์" รอมติพรรคบอกได้ 2 รมต. จากอดีตที่ยิ่งใหญ่ของ ปชป. ถึงวันอยู่ใต้อาณัติ “ชินวัตร” 8 ทศวรรษ "ประชาธิปัตย์" ศัตรูเพื่อไทย กลายเป็น "มิตร" การเมือง “ชวน” มั่นใจไม่ร่วม “เพื่อไทย” อยู่คนเดียวได้ ไม่มีปัญหา

วันนี้ (3 ส.ค.2567) นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ได้ส่งหนังสือไปยังประเทศกานา เพื่อขอชิ้นเนื้อหรือตัวอย่างสารพันธุกรรม (DNA) ของปลาหมอคางดำ ซึ่งเป็นต้นทางที่ภาคเอกชนขออนุญาตนำเข้ามาวิจัย

วันนี้ (10 ก.ย.2567) หลังร่วมทำบุญของพรรคพลังประชารัฐ นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ

นิยายชีวิต โดย : Ilham Tirta
เรื่องและภาพโดย : Ilham Tirta
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..