กรณีเหตุไฟไหม้โรงแรมแห่งหนึ่ง บนถนนตานี ย่านข้าวสา

วันนี้ (15 ต.ค.2564) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า มีคำสั่งนายทะเบียนปิดบริษัท เอเชียประกันภัย 1950 จำกัด (มหาชน) เนื่องจาก
วันนี้ (10 มี.ค.2564) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.เปิดเผยถึงผลสรุปการปฎิบัติงานจากสถานการณ์การชุมนุม เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา ว่า การชุมนุมมี 2 จุด คือ ที่หน้าศาลอาญารัชดาภิเษก และที่หน้าเรือน
วันนี้ (19 ธ.ควิเคราะห์ บอล วัน นี้ 1000.2565) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เมื่อประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาว ประชาชนอาจป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หลอดลมอักเสบและปอดบวม ซึ่งนอกจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ สวมเสื้อผ้าให้อบอุ่นแล้ว การเตรียมความพร้อมของร่างกายด้วยการออกกำลังกายก็เป็นสิ่งสำคัญ กรมอนามัยจึงแนะนำให้ประชาชนออกกำลังกายตามความเหมาะสม เพื่อเพิ่มความอบอุ่น และสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย 1.เด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 6 ปี ควรเน้นการออกกำลังกายที่สนุกสนาน เพื่อให้เด็กใช้เวลาได้นาน ไม่เบื่อหน่าย เช่น วิ่งเก็บของ วิ่งเปี้ยว การละเล่นไทยต่าง ๆ หรือกายบริหารประกอบเพลง ซึ่งเด็กวัยนี้ควรเน้นความสนุกมากกว่าการเอาชนะ 2.ช่วงอายุ 6-17 ปี เป็นช่วงอายุที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้มีพัฒนาการที่สมวัย สูงสมส่วน และมีร่างกายแข็งแรง ควรออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 60 นาที (สะสมต่อเนื่อง 10 นาทีขึ้นไป) สามารถออกกำลังกายได้หลากหลายรูปแบบ เน้นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกเป็นหลัก เช่น วิ่ง ปั่นจักรยาน กระโดดตบ กระโดดเชือก เต้นแอโรบิก ว่ายน้ำ บาสเกตบอล ฟุตบอล เป็นต้น ร่วมกับ การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความอดทนของกล้ามเนื้อ เช่น ซิตอัป ดันพื้น แพลงก์ สควอช โหนบาร์ ยกดัมเบล เป็นต้น และการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความอ่อนตัว เช่น จิงโจ้ยืดตัว กายบริหาร ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ โยคะ เป็นต้น 3.วัยทำงานช่วงอายุ 18-59 ปี ควรออกกำลังกายให้หลากหลายเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง เช่น วิ่ง ปั่นจักรยาน แบดมินตัน วัยนี้กล้ามเนื้อ กระดูก ข้อต่อ และเส้นเอ็นต่าง ๆ เริ่มเสื่อมสภาพลง จึงควรออกกำลังกายเพื่อฟื้นฟูร่างกายให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที โดยการเดินเร็ว วิ่งเหยาะ ๆ เต้นแอโรบิก 4.ช่วงอายุ 60 ปีขึ้นไป ความคิด การตัดสินใจช้าลง กล้ามเนื้อ กระดูกและข้อต่อ การรับรู้ช้าลง มีภาวะสมองเสื่อม จึงควรออกกำลังกายแบบเบา ๆ เช่น การเดิน เต้นรำ บริหารกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ให้แข็งแรง ควบคู่กับการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ 2 วันต่อสัปดาห์ มีการออกกำลังกายฝึกการทรงตัว อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที เช่น เต้นบาสโลบ ฟ้อนรำ รำวง รำไท่จี้ชี่กง กิจกรรมเหล่านี้ จะช่วยพัฒนาการเคลื่อนไหวร่างกายของผู้สูงอายุให้มีประสิทธิภาพ เป็นการฝึกการทรงตัว เพื่อป้องกันการหกล้ม ทั้งนี้ ทุกกลุ่มวัยควรพักผ่อนให้เพียงพอ และกินอาหารประเภทผักและผลไม้สด ที่มีวิตามินซีสูงเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย และเนื่องจากช่วงอากาศเย็นจะทำให้อาหารจับตัวเป็นไข ก่อนการบริโภค จึงควรนำไปอุ่นให้ร้อน เพื่อเพิ่มรสชาติของอาหาร และเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายด้วย อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง "เหนือ-อีสาน" อุณหภูมิลดอีก 2-4 องศาฯ - ใต้ฝนหนัก คลื่นลมแรง กทม.หนาวแน่! อุณหภูมิต่ำสุด 14 องศาฯ
วันนี้ (19 ธ.ควิเคราะห์ บอล วัน นี้ 1000.2565) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เปิดเ
ก่อนที่จะเข้าไปอ่านข่าวจริง ผู้ประกาศหลายๆ คน มักจะซักซ้อมอ่านบทข่าวกัน 1-2 รอบ เหมือนที่ผู้ประกาศชา
วันนี้ (25 เม.ย.2567) ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในการประชุม FOMC วันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค. 2567 คาด
วันนี้ (19 ธ.ควิเคราะห์ บอล วัน นี้ 1000.2565) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เมื่อประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาว ประชาชนอาจป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หลอดลมอักเสบและปอดบวม ซึ่งนอกจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ สวมเสื้อผ้าให้อบอุ่นแล้ว การเตรียมความพร้อมของร่างกายด้วยการออกกำลังกายก็เป็นสิ่งสำคัญ กรมอนามัยจึงแนะนำให้ประชาชนออกกำลังกายตามความเหมาะสม เพื่อเพิ่มความอบอุ่น และสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย 1.เด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 6 ปี ควรเน้นการออกกำลังกายที่สนุกสนาน เพื่อให้เด็กใช้เวลาได้นาน ไม่เบื่อหน่าย เช่น วิ่งเก็บของ วิ่งเปี้ยว การละเล่นไทยต่าง ๆ หรือกายบริหารประกอบเพลง ซึ่งเด็กวัยนี้ควรเน้นความสนุกมากกว่าการเอาชนะ 2.ช่วงอายุ 6-17 ปี เป็นช่วงอายุที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้มีพัฒนาการที่สมวัย สูงสมส่วน และมีร่างกายแข็งแรง ควรออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 60 นาที (สะสมต่อเนื่อง 10 นาทีขึ้นไป) สามารถออกกำลังกายได้หลากหลายรูปแบบ เน้นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกเป็นหลัก เช่น วิ่ง ปั่นจักรยาน กระโดดตบ กระโดดเชือก เต้นแอโรบิก ว่ายน้ำ บาสเกตบอล ฟุตบอล เป็นต้น ร่วมกับ การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความอดทนของกล้ามเนื้อ เช่น ซิตอัป ดันพื้น แพลงก์ สควอช โหนบาร์ ยกดัมเบล เป็นต้น และการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความอ่อนตัว เช่น จิงโจ้ยืดตัว กายบริหาร ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ โยคะ เป็นต้น 3.วัยทำงานช่วงอายุ 18-59 ปี ควรออกกำลังกายให้หลากหลายเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง เช่น วิ่ง ปั่นจักรยาน แบดมินตัน วัยนี้กล้ามเนื้อ กระดูก ข้อต่อ และเส้นเอ็นต่าง ๆ เริ่มเสื่อมสภาพลง จึงควรออกกำลังกายเพื่อฟื้นฟูร่างกายให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที โดยการเดินเร็ว วิ่งเหยาะ ๆ เต้นแอโรบิก 4.ช่วงอายุ 60 ปีขึ้นไป ความคิด การตัดสินใจช้าลง กล้ามเนื้อ กระดูกและข้อต่อ การรับรู้ช้าลง มีภาวะสมองเสื่อม จึงควรออกกำลังกายแบบเบา ๆ เช่น การเดิน เต้นรำ บริหารกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ให้แข็งแรง ควบคู่กับการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ 2 วันต่อสัปดาห์ มีการออกกำลังกายฝึกการทรงตัว อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที เช่น เต้นบาสโลบ ฟ้อนรำ รำวง รำไท่จี้ชี่กง กิจกรรมเหล่านี้ จะช่วยพัฒนาการเคลื่อนไหวร่างกายของผู้สูงอายุให้มีประสิทธิภาพ เป็นการฝึกการทรงตัว เพื่อป้องกันการหกล้ม ทั้งนี้ ทุกกลุ่มวัยควรพักผ่อนให้เพียงพอ และกินอาหารประเภทผักและผลไม้สด ที่มีวิตามินซีสูงเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย และเนื่องจากช่วงอากาศเย็นจะทำให้อาหารจับตัวเป็นไข ก่อนการบริโภค จึงควรนำไปอุ่นให้ร้อน เพื่อเพิ่มรสชาติของอาหาร และเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายด้วย อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง "เหนือ-อีสาน" อุณหภูมิลดอีก 2-4 องศาฯ - ใต้ฝนหนัก คลื่นลมแรง กทม.หนาวแน่! อุณหภูมิต่ำสุด 14 องศาฯ
วันนี้ (8 ธ.ค.2564) คณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา หรือ ก.พ.อ.ส่งเอกสารคำสั่งถึงกรรมการ