วันนี้ (25 มี.ค.2567) นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่า

ระดับสถานการณ์สาธารณภัย สำหรับใช้เป็นกรอบแนวคิดในการแจ้งเตือนภัย และเพื่อเป็นแนวทางให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปปรับใช้ตามภารกิจ-หน้าที่ของหน่วยงานในการจัดการสาธารณภัย โดยกำหนดความหมายของสีตามสถานการณ์
วันนี้ (10 ต.ค.2564) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี มอบงาน 4 กรม ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในกำกับเดิมของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ให้ขึ้นตรงก
ส่งออกไทยไปจีนโต 50.1% ยังคงครองความเป็น 1 ของตลาดส่งออกไเลข เสือตกถัง 16 2 64ทย ส่งออกไทยไปจีนโต 50.1% ยังคงครองความเป็น 1 ของตลาดส่งออกไทย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า การส่งออกของไทยไปจีนเดือนสิงหาคมยังคงแข็งแกร่งด้วยอัตราการเติบโตที่สูงถึงร้อยละ 50.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แตะมูลค่า 2,699.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และจีนยังคงเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทยในสัดส่วนร้อยละ 12.5 โดยนอกจากจะได้รับแรงหนุนจากความต้องการภายในประเทศที่รายได้ประชากรมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและนโยบายรัฐบาลซึ่งมุ่งส่งเสริมการกระจายรายได้และการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน ประกอบกับมีการเร่งนำเข้าวัตถุดิบของจีนภายหลังจากสต็อกสินค้าเริ่มถดถอย และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าแล้ว ยังเป็นผลมาจากผู้ส่งออกของไทยหลายรายต่างทยอยหันไปทำการค้ากับจีนเพิ่มมากขึ้นท่ามกลางกระแสความเสี่ยงต่อแนวโน้มการกลับเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯและยูโรโซน ซึ่งเป็นตลาดส่งออกสำคัญที่มีสัดส่วนรวมกันประมาณร้อยละ 20 ของการส่งออกของไทยโดยรวม เพราะหากเศรษฐกิจของทั้งสองภูมิภาคประสบปัญหาย่อมส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ขณะที่ตลาดญี่ปุ่นเองก็ยังต้องอาศัยระยะเวลาพอสมควรในการฟื้นตัว ทำให้ผู้ประกอบการไทยหลายรายที่เดิมเคยพึ่งพิง 3 ตลาดดังกล่าวจำเป็นต้องเร่งปรับตัวด้วยการแสวงหาตลาดใหม่ๆรองรับ ซึ่งตลาดจีนนั้นนอกจากจะมีตลาดขนาดใหญ่ด้วยจำนวนประชากรที่มากที่สุดในโลกแล้ว ภาวะเศรษฐกิจของจีนก็ยังคงส่งสัญญาณที่มีศักยภาพเหนือประเทศคู่ค้าหลักทั้ง 3 แหล่งของไทย อีกทั้งทางการจีนก็ได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินการค้ากับกลุ่มประเทศแถบอาเซียน อันหมายรวมถึงไทยเพิ่มขึ้นด้วยตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับที่ 12 (ปี 2554-2558) ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า การส่งออกของไทยไปจีนเดือนสิงหาคมยังคงแข็งแกร่งด้วยอัตราการเติบโตที่สูงถึงร้อยละ 50.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แตะมูลค่า 2,699.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และจีนยังคงเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทยในสัดส่วนร้อยละ 12.5 โดยนอกจากจะได้รับแรงหนุนจากความต้องการภายในประเทศที่รายได้ประชากรมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและนโยบายรัฐบาลซึ่งมุ่งส่งเสริมการกระจายรายได้และการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน ประกอบกับมีการเร่งนำเข้าวัตถุดิบของจีนภายหลังจากสต็อกสินค้าเริ่มถดถอย และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าแล้ว ยังเป็นผลมาจากผู้ส่งออกของไทยหลายรายต่างทยอยหันไปทำการค้ากับจีนเพิ่มมากขึ้นท่ามกลางกระแสความเสี่ยงต่อแนวโน้มการกลับเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯและยูโรโซน ซึ่งเป็นตลาดส่งออกสำคัญที่มีสัดส่วนรวมกันประมาณร้อยละ 20 ของการส่งออกของไทยโดยรวม เพราะหากเศรษฐกิจของทั้งสองภูมิภาคประสบปัญหาย่อมส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ขณะที่ตลาดญี่ปุ่นเองก็ยังต้องอาศัยระยะเวลาพอสมควรในการฟื้นตัว ทำให้ผู้ประกอบการไทยหลายรายที่เดิมเคยพึ่งพิง 3 ตลาดดังกล่าวจำเป็นต้องเร่งปรับตัวด้วยการแสวงหาตลาดใหม่ๆรองรับ ซึ่งตลาดจีนนั้นนอกจากจะมีตลาดขนาดใหญ่ด้วยจำนวนประชากรที่มากที่สุดในโลกแล้ว ภาวะเศรษฐกิจของจีนก็ยังคงส่งสัญญาณที่มีศักยภาพเหนือประเทศคู่ค้าหลักทั้ง 3 แหล่งของไทย อีกทั้งทางการจีนก็ได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินการค้ากับกลุ่มประเทศแถบอาเซียน อันหมายรวมถึงไทยเพิ่มขึ้นด้วยตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับที่ 12 (ปี 2554-2558)
วันนี้ (11 มี.ค.2565) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ในฐานะแกนนำพรรคเศรษฐกิจไทย เปิดเผยกรณีมีกระแสข่
วันนี้ (11 พ.ค.64) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. รายงานสถานการณ์ COVID-19 ทั่วโลกป่วยสะสม 159 ล้า
วุ่นไม่เลิก ยังเลือกหัวหน้าพรรคไม่ได้ “ค่ายสีฟ้า” ประชาธิปัตย์ (ปชป.) แม้เจ้าของนามปากกา "อู๊ดด้า" จ
ส่งออกไทยไปจีนโต 50.1% ยังคงครองความเป็น 1 ของตลาดส่งออกไเลข เสือตกถัง 16 2 64ทย ส่งออกไทยไปจีนโต 50.1% ยังคงครองความเป็น 1 ของตลาดส่งออกไทย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า การส่งออกของไทยไปจีนเดือนสิงหาคมยังคงแข็งแกร่งด้วยอัตราการเติบโตที่สูงถึงร้อยละ 50.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แตะมูลค่า 2,699.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และจีนยังคงเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทยในสัดส่วนร้อยละ 12.5 โดยนอกจากจะได้รับแรงหนุนจากความต้องการภายในประเทศที่รายได้ประชากรมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและนโยบายรัฐบาลซึ่งมุ่งส่งเสริมการกระจายรายได้และการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน ประกอบกับมีการเร่งนำเข้าวัตถุดิบของจีนภายหลังจากสต็อกสินค้าเริ่มถดถอย และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าแล้ว ยังเป็นผลมาจากผู้ส่งออกของไทยหลายรายต่างทยอยหันไปทำการค้ากับจีนเพิ่มมากขึ้นท่ามกลางกระแสความเสี่ยงต่อแนวโน้มการกลับเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯและยูโรโซน ซึ่งเป็นตลาดส่งออกสำคัญที่มีสัดส่วนรวมกันประมาณร้อยละ 20 ของการส่งออกของไทยโดยรวม เพราะหากเศรษฐกิจของทั้งสองภูมิภาคประสบปัญหาย่อมส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ขณะที่ตลาดญี่ปุ่นเองก็ยังต้องอาศัยระยะเวลาพอสมควรในการฟื้นตัว ทำให้ผู้ประกอบการไทยหลายรายที่เดิมเคยพึ่งพิง 3 ตลาดดังกล่าวจำเป็นต้องเร่งปรับตัวด้วยการแสวงหาตลาดใหม่ๆรองรับ ซึ่งตลาดจีนนั้นนอกจากจะมีตลาดขนาดใหญ่ด้วยจำนวนประชากรที่มากที่สุดในโลกแล้ว ภาวะเศรษฐกิจของจีนก็ยังคงส่งสัญญาณที่มีศักยภาพเหนือประเทศคู่ค้าหลักทั้ง 3 แหล่งของไทย อีกทั้งทางการจีนก็ได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินการค้ากับกลุ่มประเทศแถบอาเซียน อันหมายรวมถึงไทยเพิ่มขึ้นด้วยตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับที่ 12 (ปี 2554-2558) ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า การส่งออกของไทยไปจีนเดือนสิงหาคมยังคงแข็งแกร่งด้วยอัตราการเติบโตที่สูงถึงร้อยละ 50.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แตะมูลค่า 2,699.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และจีนยังคงเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทยในสัดส่วนร้อยละ 12.5 โดยนอกจากจะได้รับแรงหนุนจากความต้องการภายในประเทศที่รายได้ประชากรมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและนโยบายรัฐบาลซึ่งมุ่งส่งเสริมการกระจายรายได้และการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน ประกอบกับมีการเร่งนำเข้าวัตถุดิบของจีนภายหลังจากสต็อกสินค้าเริ่มถดถอย และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าแล้ว ยังเป็นผลมาจากผู้ส่งออกของไทยหลายรายต่างทยอยหันไปทำการค้ากับจีนเพิ่มมากขึ้นท่ามกลางกระแสความเสี่ยงต่อแนวโน้มการกลับเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯและยูโรโซน ซึ่งเป็นตลาดส่งออกสำคัญที่มีสัดส่วนรวมกันประมาณร้อยละ 20 ของการส่งออกของไทยโดยรวม เพราะหากเศรษฐกิจของทั้งสองภูมิภาคประสบปัญหาย่อมส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ขณะที่ตลาดญี่ปุ่นเองก็ยังต้องอาศัยระยะเวลาพอสมควรในการฟื้นตัว ทำให้ผู้ประกอบการไทยหลายรายที่เดิมเคยพึ่งพิง 3 ตลาดดังกล่าวจำเป็นต้องเร่งปรับตัวด้วยการแสวงหาตลาดใหม่ๆรองรับ ซึ่งตลาดจีนนั้นนอกจากจะมีตลาดขนาดใหญ่ด้วยจำนวนประชากรที่มากที่สุดในโลกแล้ว ภาวะเศรษฐกิจของจีนก็ยังคงส่งสัญญาณที่มีศักยภาพเหนือประเทศคู่ค้าหลักทั้ง 3 แหล่งของไทย อีกทั้งทางการจีนก็ได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินการค้ากับกลุ่มประเทศแถบอาเซียน อันหมายรวมถึงไทยเพิ่มขึ้นด้วยตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับที่ 12 (ปี 2554-2558)
ส่งออกไทยไปจีนโต 50.1% ยังคงครองความเป็น 1 ของตลาดส่งออกไเลข เสือตกถัง 16 2 64ทย ส่งออกไทยไปจีนโต 50.1% ยังคงคร