วันนี้ (16 ต.ค.2567) ภายหลังตำรวจออกหมายจับผู้เกี่

วันที่ 11 มี.ค.2564 ที่ผ่านมา ศูนย์ภูมิภาคว่าด้วยสะเต็มศึกษาขององค์การรัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ SEAMEO STEM-ED ร่วมกับ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด และเชฟรอนคอร์ปอเรชั่น
วันนี้ (2 ก.ย.2567) เป็นวันแรกที่กรมวิชาการเกษตรกำหนดให้ผู้ประกอบการส่งออกทุเรียน ต้องนำส่งตัวอย่างทุเรียนให้ห้องปฎิบัติการตรวจสอบเพื่อหาการปนเปื้อนของแคดเมียม หลังจีนตรวจพบทุเรียนไทยมีการปนเปื้อน
วันที่ 11 มี.ค.2564 ที่ผ่านมา ศูนย์ภูมิภาคว่าด้วยสะเต็มศึกษาขององค์การรัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ SEAMEO STEM-ED ร่วมกับ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด และเชฟรอนคอร์ปอเรชั่น จัดการประชุมนักวิจัยระดับนานาชาติ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านสะเต็มศึกษา โดยมีผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา และผู้เชี่ยวชาญด้านวิจัยระดับนานาชาติ ร่วมระดมสมอง เพื่อกระตุ้นให้เกิดงานวิจัย ที่จะนำไปสู่การขับเคลื่อนนโยบายสะเต็มศึกษาในอาเซียน หลังพบปัญหาเยาวชนอาเซียน มีคุณภาพต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานโลก อันเนื่องมาจากขาดการส่งเสริมเรื่องสะเต็มศึกษา ประกอบกับ 3 ปัจจัย ที่ทำให้การศึกษาแบบเดิมไม่ตอบโจทย์ คือ ดิจิทัล ดิสรัปชั่น ความเหลื่อมล้ำของเด็กในเมืองกับชนบท และผลกระทบจากโควิด-19 การประชุมครั้งนี้มี 3 วิทยากรหลัก นำเสนอภาพรวม ได้แก่ ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ดร.พรพรรณ ไวทยางกูร ผู้อำนวยการ และ Ms. Dee Bourbon, Senior Advisor, Global แนะ นํา เว็บ ซื้อ หวยSocial Investment, Chevron Corporation ดร.สุภัทรชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของงานวิจัย ที่จะช่วยยกระดับการศึกษาของอาเซียน ว่า สภาพปัญหาที่ภูมิภาคนี้เผชิญหน้า มีความคล้ายกัน 3 เรื่องคือ เยาวชนอาเซียนมีผลประเมินด้านการศึกษาต่ำ (PISA) การขาดแคลนกำลังคนที่มีทักษะด้านสะเต็มศึกษา (Science Technology Engineering and Mathematics Education : STEM-ED) โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูง ซึ่งเป็นกลไกสำคัญ ที่จะช่วยผลักดันให้ประเทศหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง รวมทั้งการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีจิตสำนึกรักสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ทางแก้ไขคือเร่งส่งเสริมการทำวิจัยด้านการศึกษาที่สามารถตอบโจทย์การศึกษาในอนาคต เพื่อนำผลการวิจัยไปใช้ประกอบการตัดสินใจ ในการวางนโยบายการศึกษาของแต่ละประเทศ โดยคาดหวังว่า เวทีนี้จะช่วยยกระดับความร่วมมือ และสร้างเครือข่ายนักวิจัยด้านการศึกษาระดับภูมิภาค ในการนำองค์ความรู้ของแต่ละชาติมาต่อยอด รวมทั้งร่วมกันกำหนดโจทย์ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนโมเดลงานวิจัยด้านการศึกษา ที่จะนำไปสู่การยกระดับศักยภาพของอาเซียนอย่างยั่งยืน ด้าน ดร.พรพรรณ ไวทยางกูร ผู้อำนวยการศูนย์ SEAMEO STEM-ED กล่าวถึงบทบาทของสถาบันการศึกษากับการพัฒนาอาชีพครู และการสนับสนุนงานวิจัยที่ตอบโจทย์สถานการณ์ปัจจุบัน โดยเน้นว่า ที่ผ่านมา ในอาเซียนยังไม่มีการวางนโยบายด้านสะเต็มศึกษาอย่างจริงจัง ความร่วมมือกับเชฟรอนเป็นจุดเริ่มต้น ทำให้เกิดการทำวิจัย เพื่อนำไปสู่การผลักดันเชิงนโยบาย การจัดเวทีครั้งนี้ ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์ ระหว่างผู้กำหนดนโนบายระดับประเทศกับนักวิจัย เพื่อสร้างมาตรฐานงานวิจัยต้นแบบ และการจัดทำฐานข้อมูลวิจัย เพื่อนำเสนอต่อผู้กำหนดนโยบายด้านการศึกษา ผู้อำนวยการศูนย์ SEAMEO STEM-ED ย้ำว่า การพัฒนางานวิจัย ต้องเดินคู่ไปกับการพัฒนานักวิจัย จึงจะมีการตั้งคณะกรรมการกำหนดเกณฑ์การให้ทุนงานวิจัย ควบคู่กับการกำหนดแนวทางการพัฒนาขีดความสามารถนักวิจัยด้านการศึกษา ในอาเซียนมีประเด็นงานวิจัยที่คล้ายกันคือ ผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจจากโควิด-19 ความเหลื่อมล้ำของเด็กในเมืองและชนบท และดิจิทัล ดิสรัปชั่น การประชุมครั้งนี้เป็นการสกัดสาระสำคัญ นำไปสู่การขับเคลื่อนนโยบายพัฒนาครูในรูปแบบใหม่ และกระตุ้นให้เกิดงานวิจัยเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาในอาเซียน Ms.Dee Bourbon, Senior Advisor, Global Social Investment, Chevron Corporation กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า เชฟรอนร่วมพัฒนาพลังคน ในอาเซียนอย่างต่อเนื่อง เป็นปีที่ 6 แล้วภายใต้โครงการ Chevron Enjoy Science : สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต ซึ่งปัจจุบันเข้าสู่ระยะที่สอง โดยร่วมกับ SEAMEO STEM-ED โครงการดังกล่าวเป็นโมเดลต้นแบบงาน CSR ด้านการศึกษาระดับภูมิภาค โดยนำเสนองานวิจัยที่ถอดบทเรียนในโครงการให้กับนักวิจัยทั้งอาเซียน โดยเฉพาะการพัฒนาทักษะการสอนในห้องเรียน ประโยชน์ของกระบวนการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) รวมถึงการประเมินครูผู้สอน ซึ่งมีความสำคัญต่อเด็กและการยกระดับการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในอาเซียน บทสรุปและแนวทางที่ได้จากงานประชุมครั้งนี้ จะถูกนำไปพัฒนาและบรรจุเป็นวาระนำเสนอต่อที่ประชุมรัฐมนตรีและผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ 11 ชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ SEAMEO Congress 2021 ที่จะเกิดขึ้นในเดือนเมษายน 2564
การเสียชีวิตของยาห์ยา ซินวาร์ สร้างภาวะสุญญากาศทางอำนาจครั้งใหญ่ขึ้นภายในฮามาส ซึ่งอาจจะมากกว่าครั้ง
วันนี้ (29 เม.ย.2565) โรงพยาบาลราชวิถี รายงานความคืบหน้าอาการ "น้องอุ้ม" พยาบาล รพ.อุ้มผาง มารับการร
วันนี้ (26 ม.ค.64) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โพสต์เฟซบุ๊ก
วันที่ 11 มี.ค.2564 ที่ผ่านมา ศูนย์ภูมิภาคว่าด้วยสะเต็มศึกษาขององค์การรัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ SEAMEO STEM-ED ร่วมกับ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด และเชฟรอนคอร์ปอเรชั่น จัดการประชุมนักวิจัยระดับนานาชาติ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านสะเต็มศึกษา โดยมีผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา และผู้เชี่ยวชาญด้านวิจัยระดับนานาชาติ ร่วมระดมสมอง เพื่อกระตุ้นให้เกิดงานวิจัย ที่จะนำไปสู่การขับเคลื่อนนโยบายสะเต็มศึกษาในอาเซียน หลังพบปัญหาเยาวชนอาเซียน มีคุณภาพต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานโลก อันเนื่องมาจากขาดการส่งเสริมเรื่องสะเต็มศึกษา ประกอบกับ 3 ปัจจัย ที่ทำให้การศึกษาแบบเดิมไม่ตอบโจทย์ คือ ดิจิทัล ดิสรัปชั่น ความเหลื่อมล้ำของเด็กในเมืองกับชนบท และผลกระทบจากโควิด-19 การประชุมครั้งนี้มี 3 วิทยากรหลัก นำเสนอภาพรวม ได้แก่ ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ดร.พรพรรณ ไวทยางกูร ผู้อำนวยการ และ Ms. Dee Bourbon, Senior Advisor, Global แนะ นํา เว็บ ซื้อ หวยSocial Investment, Chevron Corporation ดร.สุภัทรชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของงานวิจัย ที่จะช่วยยกระดับการศึกษาของอาเซียน ว่า สภาพปัญหาที่ภูมิภาคนี้เผชิญหน้า มีความคล้ายกัน 3 เรื่องคือ เยาวชนอาเซียนมีผลประเมินด้านการศึกษาต่ำ (PISA) การขาดแคลนกำลังคนที่มีทักษะด้านสะเต็มศึกษา (Science Technology Engineering and Mathematics Education : STEM-ED) โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูง ซึ่งเป็นกลไกสำคัญ ที่จะช่วยผลักดันให้ประเทศหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง รวมทั้งการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีจิตสำนึกรักสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ทางแก้ไขคือเร่งส่งเสริมการทำวิจัยด้านการศึกษาที่สามารถตอบโจทย์การศึกษาในอนาคต เพื่อนำผลการวิจัยไปใช้ประกอบการตัดสินใจ ในการวางนโยบายการศึกษาของแต่ละประเทศ โดยคาดหวังว่า เวทีนี้จะช่วยยกระดับความร่วมมือ และสร้างเครือข่ายนักวิจัยด้านการศึกษาระดับภูมิภาค ในการนำองค์ความรู้ของแต่ละชาติมาต่อยอด รวมทั้งร่วมกันกำหนดโจทย์ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนโมเดลงานวิจัยด้านการศึกษา ที่จะนำไปสู่การยกระดับศักยภาพของอาเซียนอย่างยั่งยืน ด้าน ดร.พรพรรณ ไวทยางกูร ผู้อำนวยการศูนย์ SEAMEO STEM-ED กล่าวถึงบทบาทของสถาบันการศึกษากับการพัฒนาอาชีพครู และการสนับสนุนงานวิจัยที่ตอบโจทย์สถานการณ์ปัจจุบัน โดยเน้นว่า ที่ผ่านมา ในอาเซียนยังไม่มีการวางนโยบายด้านสะเต็มศึกษาอย่างจริงจัง ความร่วมมือกับเชฟรอนเป็นจุดเริ่มต้น ทำให้เกิดการทำวิจัย เพื่อนำไปสู่การผลักดันเชิงนโยบาย การจัดเวทีครั้งนี้ ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์ ระหว่างผู้กำหนดนโนบายระดับประเทศกับนักวิจัย เพื่อสร้างมาตรฐานงานวิจัยต้นแบบ และการจัดทำฐานข้อมูลวิจัย เพื่อนำเสนอต่อผู้กำหนดนโยบายด้านการศึกษา ผู้อำนวยการศูนย์ SEAMEO STEM-ED ย้ำว่า การพัฒนางานวิจัย ต้องเดินคู่ไปกับการพัฒนานักวิจัย จึงจะมีการตั้งคณะกรรมการกำหนดเกณฑ์การให้ทุนงานวิจัย ควบคู่กับการกำหนดแนวทางการพัฒนาขีดความสามารถนักวิจัยด้านการศึกษา ในอาเซียนมีประเด็นงานวิจัยที่คล้ายกันคือ ผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจจากโควิด-19 ความเหลื่อมล้ำของเด็กในเมืองและชนบท และดิจิทัล ดิสรัปชั่น การประชุมครั้งนี้เป็นการสกัดสาระสำคัญ นำไปสู่การขับเคลื่อนนโยบายพัฒนาครูในรูปแบบใหม่ และกระตุ้นให้เกิดงานวิจัยเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาในอาเซียน Ms.Dee Bourbon, Senior Advisor, Global Social Investment, Chevron Corporation กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า เชฟรอนร่วมพัฒนาพลังคน ในอาเซียนอย่างต่อเนื่อง เป็นปีที่ 6 แล้วภายใต้โครงการ Chevron Enjoy Science : สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต ซึ่งปัจจุบันเข้าสู่ระยะที่สอง โดยร่วมกับ SEAMEO STEM-ED โครงการดังกล่าวเป็นโมเดลต้นแบบงาน CSR ด้านการศึกษาระดับภูมิภาค โดยนำเสนองานวิจัยที่ถอดบทเรียนในโครงการให้กับนักวิจัยทั้งอาเซียน โดยเฉพาะการพัฒนาทักษะการสอนในห้องเรียน ประโยชน์ของกระบวนการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) รวมถึงการประเมินครูผู้สอน ซึ่งมีความสำคัญต่อเด็กและการยกระดับการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในอาเซียน บทสรุปและแนวทางที่ได้จากงานประชุมครั้งนี้ จะถูกนำไปพัฒนาและบรรจุเป็นวาระนำเสนอต่อที่ประชุมรัฐมนตรีและผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ 11 ชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ SEAMEO Congress 2021 ที่จะเกิดขึ้นในเดือนเมษายน 2564
วันนี้ (3 ส.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากศบค.ไฟเขียว ให้ประชาชนซื้อชุดตรวจหาเชื้อ หรือ ATK มา