ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 9 กทม.แทบทุกพรรค จับจังหวะช่วงเช้า เดินเท้าลงตลาด หรือไม่ก็ขึ้นรถแห่ แ

วันนี้ (13 ส.ค.2564) ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 23,418 คน แบ่งเป็นการติดเชื้อใหม่ 23,030 คน ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 388 คน ผู้ป่วยตั้งแต่ 1

ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 9 กทม.แทบทุกพรรค จับจังหวะช่วงเช้า เดินเท้าลงตลาด หรือไม่ก็ขึ้นรถแห่ แนะนำตัว ก่อนจะเดินสายอีกรอบในช่วงเย็น เพื่อเจอกับลูกบ้านตัวจริง เข้าชุมชน-เดินเคาะประตูขอคะแนนไป เดิม "หลักสี่-จตุจักร" อาจเป็นพื้นที่ชุมชนริมคลอง แต่เวลานี้ ส่วนหนึ่งแปรผันเป็นบ้านล้อมรั้วในหมู่บ้าน และเป็นห้องหรู บนอาคารสูง หรือคอนโดมิเนียม ถ้าประเมินสนามเลือกตั้งซ่อม ผ่านคะแนนที่เรียกว่า "ฐานเสียงเดิม" จะของพรรคหรือตัวผู้สมัคร ปฏิเสธไม่ได้ว่า "คู่แข่ง-คู่ชิง" คือ เพื่อไทย "สุรชาติ เทียนทอง" ซึ่งมีคะแนนล่าสุดจากการเลือกตั้ง ปี 2562 จำนวน 32,115 คะแนน ย่อมต้องตีคู่มากับผู้สมัครจาก พลังประชารัฐ "สรัลรัศมิ์ เจนจาคะ" ที่ส่งผ่านคะแนนมาจาก "สิระ เจนจาคะ" จำนวน 34,907 คะแนน แต่ก็เชื่อกันว่า สถานการณ์ภายในพรรค กรณีมติขับ 21 ส.ส. คือตัวตัดคะแนน กลายเป็นช่องให้ ทางเลือกใหม่อย่างพรรคกล้า เข้ามาแทรก "อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี" กำลังเป็นอีกคู่แข่งคนสำคัญของ "สุรชาติ" ก็เป็นไปได้ ปี 2554 "อรรถวิชช์" เคยเป็น ส.ส.เขต 9 จตุจักร ด้วยคะแนนมากกว่า 4 หมื่น แต่ปี 2562 กลับแพ้เลือกตั้งเกมส์ที่มีชื่อเสียงline แต่คะแนนกว่า 15,000 ครั้งนั้น น่าจะเป็นทุนเดิมที่พร้อมบวกกับคะแนนเติมเต็ม จากเหตุที่ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ จากพรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่ลงแข่งในสนามนี้ด้วย แต่ก็เป็นไปได้ ที่กระแสโซเชียลฯ จะผลักดันให้ผู้สมัครจาก "ก้าวไกล-กรุณพล เทียนสุวรรณ" ขึ้นมาเป็นคู่ชิงด้วย แต่จากอดีต พฤติการณ์และหลักคิดของคนในโลกออนไลน์ ปฏิเสธกระแสหลัก ในโลกแห่งความเป็นจริง คนกลุ่มนี้ อาจไม่ใช่ผู้สิทธิ์เลือกตั้งในเขต 9 กทม. จึงเป็นที่สังเกตว่า การแข่งขัน-ช่วงชิง ในสนามนี้ยากที่จะฟันธง กลุ่มคนในพื้นที่และการตัดสินใจเลือก อาจแบ่งเป็น 4 กลุ่มหลัก 1 คะแนนจะมากจากธรรมชาติของพื้นที่ 2 ฐานคะแนนจากพรรคต้นสังกัด 3 มาจากวัยวุฒิและคุณวุฒิ และ 4 อิงตามสถานการณ์การเมือง ฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้าน และเลือกทางใหม่ เว้นแต่สุดท้าย นอนหลับทับสิทธิ์ ไม่ไปเลือกใครเลย

จากกรณีกระทรวงสาธารณสุข มีแผนการกระจายวัคซีนโควิด-19 จำนวน 16.8 ล้านโดส ไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตว่า เป็นวัคซีนใกล้หมดอายุและรอวันทิ้ง แม้ว่ากระทรวงสาธารณสุข จะยืน