การปาดหน้าเอาชนะได้ 2 ครั้งซ้อนของ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล

ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มั่นใจรัฐบาลเพื่อไทย 2 อยู่ครบเทอม หรือ 3 ปี และยืนยันที่จะตั้งรับทุกปัญหาและอุปสรรคอย่างดีที่สุด เพราะนอกจากความตั้งใจที่จะทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติแล้ว
วันนี้ (14 ก.ย.2566) พล.ต.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เข้าทำงานที่ทส.อย่างเป็นทางการวันแรก โดยทีมงานของพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รมว.ทส.นำพระพุทธรูป 4
วันนี้ (10 เม.ย.2566) ทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์แถลงข่าวคิกออฟ “ประชาธิปัตย์ อัดฉีดเศรษฐกิจ 1 ล้านล้านบาท ใครได้อะไร” เพื่อนำเสนอแนวทางในการใช้เงินอัดฉีด 1 ล้านล้านบาท เข้าไปกระตุ้นระบบเศรษฐกิจให้กับประเทศและสร้างรายได้ให้กับคนไทย นำโดย นายพิสิฐ ลี้อาธรรม อดีต รมช.คลัง และประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ นายเกียรติ สิทธีอมร อดีตประธานผู้แทนการค้าไทย ประธานคณะกรรมการต่างประเทศ พรรคประชาธิปัตย์ นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ผู้เชี่ยวชาญด้านคมนาคมขนส่งโครงสร้างพื้นฐาน และโครงการขนาดใหญ่ และ ม.ร.ว.ศศิพฤนท์ จันทรทัต อดีตผู้บริหารธนาคารเอกชน พร้อมด้วยนางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ นายพิสิฐ ลี้อาธรรม ประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มีนโยบายเศรษฐกิจมหภาคและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยเงิน 1 ล้านล้านบาท โดยมีเป้าหมายสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงกว่า 5 % ต่อปี พร้อมลดช่องว่างระหว่างประชากร โดยไม่สร้างหนี้สาธารณะหรือบั่นทอนการทำงานของระบบการเงินและลดหนี้ครัวเรือน เพื่อให้เศรษฐกิจเข้มแข็งมีเสถียรภาพและยั่งยืน ผ่าน 16 นโยบาย ในระยะสั้นจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเพิ่มสภาพคล่องแก้ข้อจำกัดเงินทุนหมุนเวียน โดยแบ่งเป็นระดับฐานราก ด้วยการจัดโปร โม ชั่ น เว็บ พนัน บอลตั้งธนาคารหมู่บ้านและชุมชน แห่งละ 2 ล้านบาท ตาม พ.ร.บ.สถาบันการเงินประชาชน พ.ศ.2562 วงเงิน 1.8 แสนล้านบาท ส่วนระดับกลาง จะปลดล็อกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ให้ข้าราชการในวงเงิน 1 แสนล้านบาท และปลดล็อกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้พนักงานบริษัทในวงเงิน 2 แสนล้านบาท สามารถนำเงินกองทุนทั้ง 2 รวม 300,000 ล้านบาท ไปซื้อบ้านหรือลดหนี้ที่อยู่อาศัย ระดับ SMEs โดยการเพิ่มทุน SMEs และ START UP วงเงิน 3 แสนล้านบาท ให้ธุรกิจมีเงินใหม่เพื่อการลงทุน ซึ่งหากพรรคประชาธิปัตย์ได้เข้ามาเป็นแกนนำรัฐบาล จะเริ่มทำทันทีภายใน 3 เดือน นอกจากนี้ ยังมีมาตรการระยะยาวที่จะปรับโครงสร้างและปลดล็อกข้อจำกัดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการผลิต โดยแบ่งเป็นเรื่องของที่ดิน ออกโฉนด 1 ล้านแปลง ให้สิทธิทำกินในที่ดินรัฐ อุดหนุนเงิน 3 ล้านบาทสำหรับการรวมแปลงที่ดินใหญ่ เรื่องประมง ผ่อนคลายมาตรการา IUU เรื่องแรงงานให้เรียนฟรีถึงปริญญาตรี สาขาที่ตลาดต้องการ เรื่องเทคโนโลยี อินเตอร์เน็ต 1 ล้านจุด ในส่วนมาตรการที่เหลืออีก 6 เรื่องจะมีผลในการลดความเหลื่อมล้ำและกระจายรายได้ คือ 1.ประกันรายได้สินค้าเกษตรหลัก 5 ตัว 2.ชาวนารับ 30,000 บาท จากที่ดิน ไร่ละ 2,000 บาท ไม่เกิน 15 ไร่ 3.ประมงพื้นบ้านกลุ่มละ 100,000 บาท 4.ด้านปศุสัตว์ผู้เลี้ยงโคนมจะได้ประโยชน์จากเรื่องนมโรงเรียน 365 วัน 5.ชมรมผู้สูงอายุ 30,000 บาทต่อปี และ 6. บัตรประชาชนใบเดียวรักษาพยาลและการตรวจโรคฟรี ซึ่งรวมแล้วคาดว่าจะใช้เงิน 2.2 แสนล้านบาท นายพิสิฐ กล่าวต่อว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงหลายปีมา ถือว่าล้มลุกคลุกคลาน จีดีพีโตช้าที่สุดในอาเซียน จากผลกระทบวิกฤตซ้อนวิกฤต ทั้งจากเงินเฟ้อ การขาดดุลกับต่างประเทศ การขาดดุลการคลังโดยเฉพาะรายได้ที่ขาดหายไปจากผลกระทบโควิด-19 ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมากว่า 3 ล้านล้านบาท รัฐได้มีมาตรการช่วยเหลือที่ได้ดำเนินการไปแล้ว คือ เงินกู้ตาม พ.ร.ก.โควิด-19 จำนวน 2 ฉบับ (2563-2565) รวมประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท รวมถึงรายได้ที่เก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ (2563-2565) ประมาณ 5 แสนล้านบาท เพราะฉะนั้นยังมีหลุมรายได้ที่ขาดไปอีก 1 ล้านล้านบาท พรรคประชาธิปัตย์จะอุดหลุมรายได้ตรงนี้เพื่อให้เศรษฐกิจไทยมีการขับเคลื่อนอย่างแข็งแรง ทั้งนี้ มีเงื่อนไขสำคัญคือ ลดหนี้ครัวเรือนจากที่แตะ 90 % ของจีดีพี และไม่สร้างหนี้สาธารณะจากที่ทะลุ 60 % ของจีดีพี จะทำให้ระบบการเงินไทยแข็งแรง และมีเงินใหม่เข้ามา เศรษฐกิจหมุนเวียน โดยต้องทำภายใน 3-4 เดือน ซึ่งไทยมีเงิน 8 แสนล้านบาทรออยู่แล้วในระบบการเงินการคลัง ส่วนอีก 2 แสนล้านบาทจากการปรับโครงสร้างระบบงบประมาณและการบริหารการจัดเก็บรายได้และเงินนอกงบประมาณ อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง "วันนอร์" นั่งรถไฟลุยหาเสียงคนไทยในมาเลย์ฯ กกต.ยันไม่เกิน 4 ทุ่ม รู้ผลไม่เป็นทางการ "เลือกตั้ง 66" "อลงกรณ์" บลัฟนโยบายธนาคารหมู่บ้านฯ ยั่งยืนกว่าเงินดิจิทัล 1 หมื่น
วันนี้ (10 เม.ย.2566) ทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์แถลงข่าวคิกออฟ “ประชาธิปัตย์ อัดฉีดเศรษฐกิจ 1 ล้านล
วันนี้ (1 ธ.ค.2564) ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับกรณีร้องเรียนการจัดซื้อจัดจ้างโครงการจัดซื้อเสาไฟฟ
วันนี้ (16 มิ.ย.2566) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (
วันนี้ (10 เม.ย.2566) ทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์แถลงข่าวคิกออฟ “ประชาธิปัตย์ อัดฉีดเศรษฐกิจ 1 ล้านล้านบาท ใครได้อะไร” เพื่อนำเสนอแนวทางในการใช้เงินอัดฉีด 1 ล้านล้านบาท เข้าไปกระตุ้นระบบเศรษฐกิจให้กับประเทศและสร้างรายได้ให้กับคนไทย นำโดย นายพิสิฐ ลี้อาธรรม อดีต รมช.คลัง และประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ นายเกียรติ สิทธีอมร อดีตประธานผู้แทนการค้าไทย ประธานคณะกรรมการต่างประเทศ พรรคประชาธิปัตย์ นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ผู้เชี่ยวชาญด้านคมนาคมขนส่งโครงสร้างพื้นฐาน และโครงการขนาดใหญ่ และ ม.ร.ว.ศศิพฤนท์ จันทรทัต อดีตผู้บริหารธนาคารเอกชน พร้อมด้วยนางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ นายพิสิฐ ลี้อาธรรม ประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มีนโยบายเศรษฐกิจมหภาคและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยเงิน 1 ล้านล้านบาท โดยมีเป้าหมายสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงกว่า 5 % ต่อปี พร้อมลดช่องว่างระหว่างประชากร โดยไม่สร้างหนี้สาธารณะหรือบั่นทอนการทำงานของระบบการเงินและลดหนี้ครัวเรือน เพื่อให้เศรษฐกิจเข้มแข็งมีเสถียรภาพและยั่งยืน ผ่าน 16 นโยบาย ในระยะสั้นจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเพิ่มสภาพคล่องแก้ข้อจำกัดเงินทุนหมุนเวียน โดยแบ่งเป็นระดับฐานราก ด้วยการจัดโปร โม ชั่ น เว็บ พนัน บอลตั้งธนาคารหมู่บ้านและชุมชน แห่งละ 2 ล้านบาท ตาม พ.ร.บ.สถาบันการเงินประชาชน พ.ศ.2562 วงเงิน 1.8 แสนล้านบาท ส่วนระดับกลาง จะปลดล็อกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ให้ข้าราชการในวงเงิน 1 แสนล้านบาท และปลดล็อกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้พนักงานบริษัทในวงเงิน 2 แสนล้านบาท สามารถนำเงินกองทุนทั้ง 2 รวม 300,000 ล้านบาท ไปซื้อบ้านหรือลดหนี้ที่อยู่อาศัย ระดับ SMEs โดยการเพิ่มทุน SMEs และ START UP วงเงิน 3 แสนล้านบาท ให้ธุรกิจมีเงินใหม่เพื่อการลงทุน ซึ่งหากพรรคประชาธิปัตย์ได้เข้ามาเป็นแกนนำรัฐบาล จะเริ่มทำทันทีภายใน 3 เดือน นอกจากนี้ ยังมีมาตรการระยะยาวที่จะปรับโครงสร้างและปลดล็อกข้อจำกัดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการผลิต โดยแบ่งเป็นเรื่องของที่ดิน ออกโฉนด 1 ล้านแปลง ให้สิทธิทำกินในที่ดินรัฐ อุดหนุนเงิน 3 ล้านบาทสำหรับการรวมแปลงที่ดินใหญ่ เรื่องประมง ผ่อนคลายมาตรการา IUU เรื่องแรงงานให้เรียนฟรีถึงปริญญาตรี สาขาที่ตลาดต้องการ เรื่องเทคโนโลยี อินเตอร์เน็ต 1 ล้านจุด ในส่วนมาตรการที่เหลืออีก 6 เรื่องจะมีผลในการลดความเหลื่อมล้ำและกระจายรายได้ คือ 1.ประกันรายได้สินค้าเกษตรหลัก 5 ตัว 2.ชาวนารับ 30,000 บาท จากที่ดิน ไร่ละ 2,000 บาท ไม่เกิน 15 ไร่ 3.ประมงพื้นบ้านกลุ่มละ 100,000 บาท 4.ด้านปศุสัตว์ผู้เลี้ยงโคนมจะได้ประโยชน์จากเรื่องนมโรงเรียน 365 วัน 5.ชมรมผู้สูงอายุ 30,000 บาทต่อปี และ 6. บัตรประชาชนใบเดียวรักษาพยาลและการตรวจโรคฟรี ซึ่งรวมแล้วคาดว่าจะใช้เงิน 2.2 แสนล้านบาท นายพิสิฐ กล่าวต่อว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงหลายปีมา ถือว่าล้มลุกคลุกคลาน จีดีพีโตช้าที่สุดในอาเซียน จากผลกระทบวิกฤตซ้อนวิกฤต ทั้งจากเงินเฟ้อ การขาดดุลกับต่างประเทศ การขาดดุลการคลังโดยเฉพาะรายได้ที่ขาดหายไปจากผลกระทบโควิด-19 ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมากว่า 3 ล้านล้านบาท รัฐได้มีมาตรการช่วยเหลือที่ได้ดำเนินการไปแล้ว คือ เงินกู้ตาม พ.ร.ก.โควิด-19 จำนวน 2 ฉบับ (2563-2565) รวมประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท รวมถึงรายได้ที่เก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ (2563-2565) ประมาณ 5 แสนล้านบาท เพราะฉะนั้นยังมีหลุมรายได้ที่ขาดไปอีก 1 ล้านล้านบาท พรรคประชาธิปัตย์จะอุดหลุมรายได้ตรงนี้เพื่อให้เศรษฐกิจไทยมีการขับเคลื่อนอย่างแข็งแรง ทั้งนี้ มีเงื่อนไขสำคัญคือ ลดหนี้ครัวเรือนจากที่แตะ 90 % ของจีดีพี และไม่สร้างหนี้สาธารณะจากที่ทะลุ 60 % ของจีดีพี จะทำให้ระบบการเงินไทยแข็งแรง และมีเงินใหม่เข้ามา เศรษฐกิจหมุนเวียน โดยต้องทำภายใน 3-4 เดือน ซึ่งไทยมีเงิน 8 แสนล้านบาทรออยู่แล้วในระบบการเงินการคลัง ส่วนอีก 2 แสนล้านบาทจากการปรับโครงสร้างระบบงบประมาณและการบริหารการจัดเก็บรายได้และเงินนอกงบประมาณ อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง "วันนอร์" นั่งรถไฟลุยหาเสียงคนไทยในมาเลย์ฯ กกต.ยันไม่เกิน 4 ทุ่ม รู้ผลไม่เป็นทางการ "เลือกตั้ง 66" "อลงกรณ์" บลัฟนโยบายธนาคารหมู่บ้านฯ ยั่งยืนกว่าเงินดิจิทัล 1 หมื่น
วันนี้ (18 พ.ย.2564) บรรยากาศท่องเที่ยวสวนดอกไม้บ้านห้วยสำราญ ต.หนองไฮ อ.เมืองอุดรธานี จะเห็นว่าแม้จ