เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2565 ผู้ปกครองเด็กอายุตั้งแต่ 6-

ทลายแหล่งค้าประเวณี 60 แห่งในเปรู ช่วยหญิงถูกบังคับขายบริการได้กว่า 200 คน ทางการเปรูบุกทลายแหล่งค้าประเวณีในย่านเหมืองทองคำ สามารถช่วยผู้หญิงมากกว่า 200 คน ที่ถูกบังคับให้ขายบริการทางเพศ ทลายแหล่งค้า
วันนี้ (15 พ.ค.2566) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ น.ส.แอม ผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยภายในสัปดาห์นี้จะนำหลักฐานที่มีขอศาลอาญาออกหมายจับบุคคลใ
ตำรวจภูธรภาค 3 สั่งย้าย ผกก.สภ.น้ำยืนกรณีส่วยไม้พะยูง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือเตรียมเสนอให้อธิบดีดีเอสไอรับคดีลักลอบตัดไม้พะยูงในเขตอุทยานแห่งชาติภูพานเป็นคดีพิเศษ ส่วนคดีตรวจยึดไม้พะยูงที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งผู้ต้องหาซัดทอดว่ามีตำรวจรับส่วย ทำให้ตำรวจภูธรภาค 3 มีคำสั่งย้ายผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรน้ำยืน และผู้ใต้บังคับบัญชาอีก 7 คน มาช่วยราชการอย่างไม่มีกำหนด ตำรวจภูธรภาค 3 สั่งย้าย ผกก.สภ.น้ำยืนกรณีส่วยไม้พะยูง การตรวจยึดไม้พะยูง 133 ท่อน มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท พร้อมผู้ต้องหา 6 คนของตำรวจชุดสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 7 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การซัดทอดว่า มีตำรวจภูธรน้ำยืนรับส่วยครั้งละ 10,000 - 20,000 บาท รวมทั้งมีพยานหลักฐานซึ่งเป็นสมุดบันทึกการจ่ายเงินที่ชัดเจน ทำให้ พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.พงษ์พล พงษ์พานิช ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรน้ำยืน และรองผู้กำกับการฝ่ายสืบสวนสอบสวน มาช่วยราชการที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ฐานบกพร่องต่อหน้าที่ ส่วนนายตำรวจระดับชั้นสัญญาบัตรและชั้นประทวนอีก 6 นาย ซึ่งมีหลักฐานการรับส่วย ถูกย้ายไปช่วยราชการที่กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 3 อย่างไม่มีกำหนด ขณะที่นายสุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี สฝาก 200 ฟรี 800ั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และผู้นำท้องถิ่นในอำเภอน้ำยืน มีส่วนรู้เห็นกับขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงในเขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย และให้สรุปผลภายใน 15 วัน ส่วนการลักลอบตัดไม้พะยูงในเขตอุทยานแห่งชาติภูพานที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้นายภาสกร เจนประวิทย์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือดีเอสไอ เร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอต่ออธิบดี ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ หลังพบว่ามีตำรวจ ทหาร กลุ่มผู้อิทธิพล และผู้นำชุมชนทั้งในจังหวัดกาฬสินธุ์ และจังหวัดมุกดาหารกว่า 30 คนเกี่ยวข้องกับขบวนการตัดไม้พะยูง และยังพบว่ามีการว่าจ้างชาวบ้านให้เข้าไปตัดไม้พะยูงเพื่อแลกกับยาเสพติด ทำให้ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มีการลักลอบตัดไม้พะยูงในอุทยานแห่งชาติภูพานเป็นจำนวนมาก การตรวจยึดไม้พะยูง 133 ท่อน มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท พร้อมผู้ต้องหา 6 คนของตำรวจชุดสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 7 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การซัดทอดว่า มีตำรวจภูธรน้ำยืนรับส่วยครั้งละ 10,000 - 20,000 บาท รวมทั้งมีพยานหลักฐานซึ่งเป็นสมุดบันทึกการจ่ายเงินที่ชัดเจน ทำให้ พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.พงษ์พล พงษ์พานิช ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรน้ำยืน และรองผู้กำกับการฝ่ายสืบสวนสอบสวน มาช่วยราชการที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ฐานบกพร่องต่อหน้าที่ ส่วนนายตำรวจระดับชั้นสัญญาบัตรและชั้นประทวนอีก 6 นาย ซึ่งมีหลักฐานการรับส่วย ถูกย้ายไปช่วยราชการที่กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 3 อย่างไม่มีกำหนด ขณะที่นายสุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และผู้นำท้องถิ่นในอำเภอน้ำยืน มีส่วนรู้เห็นกับขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงในเขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย และให้สรุปผลภายใน 15 วัน ส่วนการลักลอบตัดไม้พะยูงในเขตอุทยานแห่งชาติภูพานที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้นายภาสกร เจนประวิทย์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือดีเอสไอ เร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอต่ออธิบดี ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ หลังพบว่ามีตำรวจ ทหาร กลุ่มผู้อิทธิพล และผู้นำชุมชนทั้งในจังหวัดกาฬสินธุ์ และจังหวัดมุกดาหารกว่า 30 คนเกี่ยวข้องกับขบวนการตัดไม้พะยูง และยังพบว่ามีการว่าจ้างชาวบ้านให้เข้าไปตัดไม้พะยูงเพื่อแลกกับยาเสพติด ทำให้ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มีการลักลอบตัดไม้พะยูงในอุทยานแห่งชาติภูพานเป็นจำนวนมาก
ตำรวจภูธรภาค 3 สั่งย้าย ผกก.สภ.น้ำยืนกรณีส่วยไม้พะยูง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาคตะวันออกเ
บันทึกข้อความเรื่องร้องเรียนข้าราชการตำรวจติดยาเสพติดและทุจริตต่อการปฏิบัติหน้าที่ ที่ตำรวจ สภ.ลาดยา
ในช่วงเทศกาลวันแม่แห่งชาติ 12 ส.ค.ที่ให้ความสำคัญรำลึกถึงพระคุณของผู้เป็นแม่ และเมื่อถึงวันที่หลาย ๆ
ตำรวจภูธรภาค 3 สั่งย้าย ผกก.สภ.น้ำยืนกรณีส่วยไม้พะยูง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือเตรียมเสนอให้อธิบดีดีเอสไอรับคดีลักลอบตัดไม้พะยูงในเขตอุทยานแห่งชาติภูพานเป็นคดีพิเศษ ส่วนคดีตรวจยึดไม้พะยูงที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งผู้ต้องหาซัดทอดว่ามีตำรวจรับส่วย ทำให้ตำรวจภูธรภาค 3 มีคำสั่งย้ายผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรน้ำยืน และผู้ใต้บังคับบัญชาอีก 7 คน มาช่วยราชการอย่างไม่มีกำหนด ตำรวจภูธรภาค 3 สั่งย้าย ผกก.สภ.น้ำยืนกรณีส่วยไม้พะยูง การตรวจยึดไม้พะยูง 133 ท่อน มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท พร้อมผู้ต้องหา 6 คนของตำรวจชุดสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 7 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การซัดทอดว่า มีตำรวจภูธรน้ำยืนรับส่วยครั้งละ 10,000 - 20,000 บาท รวมทั้งมีพยานหลักฐานซึ่งเป็นสมุดบันทึกการจ่ายเงินที่ชัดเจน ทำให้ พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.พงษ์พล พงษ์พานิช ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรน้ำยืน และรองผู้กำกับการฝ่ายสืบสวนสอบสวน มาช่วยราชการที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ฐานบกพร่องต่อหน้าที่ ส่วนนายตำรวจระดับชั้นสัญญาบัตรและชั้นประทวนอีก 6 นาย ซึ่งมีหลักฐานการรับส่วย ถูกย้ายไปช่วยราชการที่กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 3 อย่างไม่มีกำหนด ขณะที่นายสุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี สฝาก 200 ฟรี 800ั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และผู้นำท้องถิ่นในอำเภอน้ำยืน มีส่วนรู้เห็นกับขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงในเขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย และให้สรุปผลภายใน 15 วัน ส่วนการลักลอบตัดไม้พะยูงในเขตอุทยานแห่งชาติภูพานที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้นายภาสกร เจนประวิทย์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือดีเอสไอ เร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอต่ออธิบดี ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ หลังพบว่ามีตำรวจ ทหาร กลุ่มผู้อิทธิพล และผู้นำชุมชนทั้งในจังหวัดกาฬสินธุ์ และจังหวัดมุกดาหารกว่า 30 คนเกี่ยวข้องกับขบวนการตัดไม้พะยูง และยังพบว่ามีการว่าจ้างชาวบ้านให้เข้าไปตัดไม้พะยูงเพื่อแลกกับยาเสพติด ทำให้ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มีการลักลอบตัดไม้พะยูงในอุทยานแห่งชาติภูพานเป็นจำนวนมาก การตรวจยึดไม้พะยูง 133 ท่อน มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท พร้อมผู้ต้องหา 6 คนของตำรวจชุดสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 7 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การซัดทอดว่า มีตำรวจภูธรน้ำยืนรับส่วยครั้งละ 10,000 - 20,000 บาท รวมทั้งมีพยานหลักฐานซึ่งเป็นสมุดบันทึกการจ่ายเงินที่ชัดเจน ทำให้ พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.พงษ์พล พงษ์พานิช ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรน้ำยืน และรองผู้กำกับการฝ่ายสืบสวนสอบสวน มาช่วยราชการที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ฐานบกพร่องต่อหน้าที่ ส่วนนายตำรวจระดับชั้นสัญญาบัตรและชั้นประทวนอีก 6 นาย ซึ่งมีหลักฐานการรับส่วย ถูกย้ายไปช่วยราชการที่กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 3 อย่างไม่มีกำหนด ขณะที่นายสุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และผู้นำท้องถิ่นในอำเภอน้ำยืน มีส่วนรู้เห็นกับขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงในเขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย และให้สรุปผลภายใน 15 วัน ส่วนการลักลอบตัดไม้พะยูงในเขตอุทยานแห่งชาติภูพานที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้นายภาสกร เจนประวิทย์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือดีเอสไอ เร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอต่ออธิบดี ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ หลังพบว่ามีตำรวจ ทหาร กลุ่มผู้อิทธิพล และผู้นำชุมชนทั้งในจังหวัดกาฬสินธุ์ และจังหวัดมุกดาหารกว่า 30 คนเกี่ยวข้องกับขบวนการตัดไม้พะยูง และยังพบว่ามีการว่าจ้างชาวบ้านให้เข้าไปตัดไม้พะยูงเพื่อแลกกับยาเสพติด ทำให้ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มีการลักลอบตัดไม้พะยูงในอุทยานแห่งชาติภูพานเป็นจำนวนมาก
วันนี้ (24 เม.ย.2565) พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น. นำทีมสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เข้าตรวจที่