วันนี้ (27 ก.ค.2565) ตำรวจ สภ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุคดีฆ่าข่มขืนหญิงวัย 72 ปี จ.สุพรรณบุรี โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา บริเวณหน้าที่พัก หมู่ 2 ต.นางบวช
#EP01 : เปิดเผยกลุ่มทุน ดั้งเดิมของ “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” หรือ โกเล็ก ในช่วงปี 2541-2548 ในเวลาต่อมาผันตัวเป็นกิจการในกลุ่มบริษัท โครงการ “คืนทุนแผ่นดิน” กระชากแมสก์ "โกเล็ก” ประสิทธิ์ เจียวก๊ก" #EP01
จากกรณีเหตุระทึก "หนุ่มเก็บของเก่า" คลุ้มคลั่งถือระเบิด พร้อมจับหญิงสาวเป็นตัวประกัน บริเวณซอยชุมชนเทพารักษ์ 4 ถ.หลังศูนย์ราชการ เขตเทศบาลนครขอนแก่น ภาพปฏิบัติการที่ออกมาได้รับความสนใจจากสื่อสังคมออนไลน์อย่างมาก โดยเฉพาะการใช้รถบังคับสีดำคันเล็กในภารกิจครั้งนี้ ไทยพีบีเอสออนไลน์สัมภาษณ์ พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ภารกิจผู้ก่อเหตุถือระเบิดจับตัวประกันที่ จ.ขอนแก่น เมื่อวานนี้ หลังประเมินสถานการณ์โดยใช้กล้องติด "รถโรบอต" ซูมเข้าไปพบว่า ผู้ก่อเหตุถือระเบิด M61 อยู่ และนิ้วมืออยู่ในกระเดื่อง ซึ่งหากถอดสลักออก ระเบิดก็พร้อมทำงาน จึงประเมินว่าเป็นสถานการณ์ที่อันตรายต่อประชาชนและเจ้าหน้าที่ ภาพ : ตำรวจภูธรภาค 4 ภาพ : ตำรวจภูธรภาค 4 ภารกิจในครั้งนี้ จึงนับว่าเหมาะสำหรับการใช้รถโรบอต โดยมีการวางกลยุทธ์ ให้รถโรบอตนำน้ำไปให้ผู้ก่อเหตุ ขณะนั้นผู้ก่อเหตุไม่ได้เอาไปเพียงแค่น้ำเท่านั้น แต่ยังนำรถโรบอตไปด้วย และได้พูดคุยกับรถอยู่นาน เจ้าหน้าที่ใช้ระบบที่ติดตั้งกับรถรับฟังผู้ก่อเหตุผ่านวิทยุสื่อสาร หลังจากเจรจากันสักระยะ วินาทีนั้น ตำรวจติดต่อตัวประกันทางโทรศัพท์ได้เพื่อสื่อสารและวางแผนให้ตัวประกันหลบหนีออกมา กระทั่งตัวประกันวิ่งหนีออกมา เจ้าหน้าที่ทุกนายระดมกำลังช่วยกันปฏิบัติการตามยุทธวิธีจนภารกิจสำเร็จ ขณะที่ ร.ต.อ.รณเดช เตชะเกรียงไกร หน่วยวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ สังกัดสืบสวนภาค 4 เปิดเผยกับไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า หุ่นยนต์ที่ใช้ในปฏิบัติการครั้งนี้ คือ "Tactical robot" หรือเรียกง่าย ๆ ว่า "รถโรบอต" ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเองจากการศึกษาข้อมูลของต่างประเทศ รถโรบอตนี้มีการดัดแปลงมาจากรถไฟฟ้าบังคับของเด็กซึ่งได้ย่อส่วนลงมา พร้อมกับการติดตั้งระบบกล้อง 2 ตัว ด้านล่างเป็นกล้องคนบังคับ ส่วนด้านบนเป็นกล้องโดม CCTV ภาพ : ตำรวจภูธรภาค 4 ภาพ : ตำรวจภูธรภาค 4 นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งระบบมองกลางคืน ไฟสปอร์ตไลต์ อุปกรณ์ส่งของ และระบบสื่อสาร ที่สามารถสื่อสารได้ผ่านทั้งวิทยุสื่อสารและโทรผ่านอินเทอร์เน็ตโดยทั้งหมดนี้ใช้งบฯ เพียง 4,000 บาทเท่านั้น ด้วยคุณสมบัติที่เพียบพร้อม ประกอบกับรูปร่างที่ถูกออกแบบมาให้มีขนาดเล็กประมาณยาว 25 นิ้ว กว้าง15 นิ้ว สูง 10 นิ้ว เพื่อตอบสนองต่อการทำงานเชิงยุทธวิธี โดยเฉพาะการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง ภาพ : ตำรวจภูธรภาค 4 ภาพ : ตำรวจภูธรภาค 4 อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่รถโรบอตได้ลงพื้นที่เป็นหน่วยสนับสนุนในปฏิบัติการจริง เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยผ่านภารกิจจับกุมชายคลุ้มคลั่งขู่ระเบิดถังแก๊สใน จ.ขอนแก่น มาแล้ว จึงนับว่าเป็นอีกตัวช่วยสำหรับการปฏิบัติภารกิจเชิงยุทธวิธีสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร.ต.อ.รณเดช ทิ้งท้ายกับไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า ในอนาคตทีมสืบสวนภาค 4 จะมีการพัฒนาและต่อยอดรถโรบอตและนวัตกรรมต่าง ๆ ไปเรื่อย ๆ ซึ่งขณะนี้ทีมสืบสวนภาค 4 มีรถโรบอต 2 คันแล้ว นอกจากคันที่ทุกคนเห็นกัน ยังมีรถโรบอตคันใหญ่ที่มีการติดตั้งแขนกลและปืนแรงดันสูง เพื่อปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ระเบิดอีกด้วย ภาพ : ตำรวจภูธรภาค 4 ภาพ : ตำรวจภูธรภาค 4 ขณะที่ พล.ต.ต.นพเก้า ยังเปิดเผยอีกว่า ช่วงที่ผ่านมามีสถิติในวงรอบที่มีการรายงานผู้ก่อเหตุในลักษณะที่เจ้าหน้าที่ต้องออกไประงับเหตุเกือบทุกวันซึ่งถือเป็นการแก้ปัญหาปลายทาง สำหรับต้นทาง คือ การนำผู้ก่อเหตุไปบำบัด แต่กลับพบปัญหาว่า หลังบำบัดรักษา เมื่อส่งตัวกลับบ้าน ส่วนใหญ่ผู้ก่อเหตุจะมาก่อเหตุอีก ทั้งนี้ ตำรวจภูธรภาค 4 ได้ทำโครงการสำรวจบุคคลวิกลจริตที่เกิดจากการใช้ยาใน จ.ขอนแก่น 2 ปี พบ 2,50fhm7890 คน จึงได้จัดระดับความรุนแรงในการก่อเหตุโดยแบ่งเป็น 3 สี ได้แก่ สีเขียว อยู่ในความสงบ สีเหลือง เคยมีพฤติกรรมบ้าง และ สีแดง ก่อเหตุในลักษณะรุนแรง พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ อสม. และฝ่ายสาธารณสุขลงไปตรวจเยี่ยมและตรวจตราว่ามีลักษณะจะก่อเหตุพฤติกรรมรุนแรงหรือไม่ เพื่อแก้ปัญหาต้นทางต่อไป อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ระทึก! คนเก็บของเก่าถือระเบิดจับหญิงสาวเป็นตัวประกัน
การออกจดหมายเปิดใจฉบับที่ 2 ของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ผ่านสื่อออนไลน์ ประกาศชัดเจนทั้งเรื่องตัวตน และเจตนารมณ์ทางการเมือง เน้นความประนีประนอม ลดขัดแย้ง
จากกรณีเหตุระทึก "หนุ่มเก็บของเก่า" คลุ้มคลั่งถือระเบิด พร้อมจับหญิงสาวเป็นตัวประกัน บริเวณซอยชุมชนเ