โอนเง นเข า dafabet-fifa online 4 garena-ดู บอล แมน ยู กับ ลิเวอร์พูล สดM98ผล บอล อินเตอร์ มิ ลาน

2 มหาวิทยาลัยอังกฤษเผยทฤษฎีเพลงติดหู เพราะเหตุใดเพลงบางเพลงจึงได้รับความนิยมและมีผู้ขับร้องตามได้เป็โอนเง นเข า dafabet

จากกรณี น้องจีน่า เด็กหญิงวัย 1 ขวบ 11 เดือน ที่ได้หายตัวออกไปจากบ้านพัก ในชุมชนกลางหุบเขา อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุด วันนี้ (8 ก.ย. 2564) เมื่อเวลาประมาณ 12.00

เรียกได้ว่า "หอยนางรม" เป็นสัตว์ทะเลที่มีบทบาทสำคัญมากในการปกป้องสิ่งแวดล้อม เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก อยากชวนทุกคนมาดูความสามารถและประโยชน์มากมายของเจ้าหอยนางรม สัตว์น้ำตัวจิ๋วริมชายฝั่งที่ผลงานของมันไม่จิ๋วเลยสักนิด เมื่อกล่าวถึง "หอยนางรม" หลายคนคงนึกถึงเมนูอาหารทะเลสดใหม่รสชาติเยี่ยม แต่รู้หรือไม่ว่าเบื้องหลังความอร่อยนั้น หอยนางรมมีคุณประโยชน์มหาศาลต่อสิ่งแวดล้อม จนได้รับการขนานนามว่าเป็น "เครื่องกรองน้ำธรรมชาติ" หอยนางรมเป็นสัตว์ประเภทกินแพลงก์ตอนแบบกรองน้ำ (Filter feeders) พวกมันจะดูดน้ำและอนุภาคเล็ก ๆ ที่แขวนลอยอยู่ในน้ำเข้าสู่ตัว ความสามารถในการกรองน้ำของหอยนางรมนั้นน่าทึ่งมาก เพราะหอยนางรม 1 ตัวสามารถกรองน้ำได้ถึง 30-50 แกลลอน/วัน (ประมาณ 113-189 ลิตร) หรือบางแหล่งระบุว่าสูงถึง 120-160 ลิตร/วันเลยทีเดียว การกรองนี้ช่วยกำจัดสารแขวนลอยต่าง ๆ รวมถึงคลอโรฟิลล์ได้มากถึงร้อยละ 28-92 ที่สำคัญคือ หอยนางรมสามารถกรอง สาหร่ายพิษขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของปรากฏการณ์ ขี้ปลาวาฬ (Red tide) ปรากฏการณ์นี้ทำให้สาหร่ายพิษเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมหาศาล ส่งผลให้ปลาและสัตว์ทะเลอื่น ๆ ตายได้ แต่หอยนางรมสามารถกรองสาหร่ายพิษเหล่านี้ออกไปได้หมดภายในเวลาอันรวดเร็ว มีการทดลองในฮ่องกงที่พบว่าหอยนางรมสามารถทำให้น้ำเสียสะอาดขึ้นได้ในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง 30 นาที การกรองนี้จึงช่วยให้น้ำทะเลใสสะอาดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และยังช่วยควบคุมระดับของสาหร่าย พร้อมทั้งดึงดูดสัตว์ทะเลอื่น ๆ ให้กลับเข้ามาสู่พื้นที่อีกด้วย นอกจากนี้ พวกมันยังดึงสารที่หากมีมากเกินไปจะกลายเป็โอนเง นเข า dafabetนมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และคาร์บอนไดออกไซด์ ออกจากน้ำอีกด้วย นอกจากการกรองน้ำให้ใสแล้ว หอยนางรมยังเป็นส่วนสำคัญในการบำบัดสารอาหารในระบบนิเวศทางทะเล หอยสองฝาที่เพาะเลี้ยงสามารถกำจัดไนโตรเจนได้ถึง 49,000 ตัน และ ฟอสฟอรัส 6,000 ตัน/ปี ทั่วโลก สารอาหารเหล่านี้จะถูกหอยนำไปใช้ในการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อและเปลือก และจะถูกนำออกจากระบบนิเวศเมื่อมีการเก็บเกี่ยวหอยไปบริโภค มูลค่าของการบำบัดสารอาหารนี้ประเมินไว้สูงถึง 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ/ปี ปัจจุบัน การกำจัดสารอาหารโดยการเก็บเกี่ยวหอยสองฝาได้ถูกนำมาใช้เป็นทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อลดภาระการบำบัดน้ำเสียจากโรงบำบัดน้ำเสีย นอกจากนี้ หอยสองฝายังสามารถใช้ในระบบการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำแบบผสมผสานหลายระดับโภชนาการ เพื่อช่วยลดการรั่วไหลของสารอาหารจากระบบการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำแบบอื่น ๆ ที่อาจก่อให้เกิดปัญหาน้ำเสียได้ ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว หอยนางรมไม่เพียงแต่กรองน้ำ แต่ยังทำหน้าที่เป็น "วิศวกรระบบนิเวศ" ที่สำคัญต่อโครงสร้างและสุขภาพของระบบนิเวศชายฝั่ง เมื่อหอยนางรมสะสมตัวรวมกัน เปลือกของพวกมันจะสร้างพื้นผิวที่ขรุขระ ก่อตัวเป็นแนวปะการังหอยนางรม แนวปะการังเหล่านี้เป็นเสมือนบ้านหลังแรก และ แหล่งอนุบาลที่สำคัญสำหรับสัตว์ทะเลหลากหลายชนิด เช่น ปลาเล็กปลาน้อยและปู แนวปะการังหอยนางรมที่ได้รับการฟื้นฟูมักจะมีความสูงและซับซ้อนกว่าแนวปะการังที่ถูกเก็บเกี่ยว ทำให้มีชนิดของสิ่งมีชีวิตที่เข้ามาอาศัยอยู่และมีความหลากหลายทางชีวภาพเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ แนวปะการังหอยนางรมยังทำหน้าที่เป็น "กำแพงธรรมชาติ" ป้องกันพื้นที่ชายฝั่ง ช่วยลดความรุนแรงของคลื่นและพลังงานของพายุที่พัดเข้าสู่ฝั่ง การมีแนวปะการังหอยนางรมที่แข็งแรงจึงช่วยลดความเสียหายต่อชายฝั่งจากพายุได้เป็นอย่างดี มีการประเมินว่าการฟื้นฟูแนวปะการังหอยนางรมสามารถเป็นกลยุทธ์ที่ยั่งยืนในการปกป้องชายฝั่ง และที่น่าสนใจคือ เปลือกหอยนางรมที่ถูกทิ้งยังเป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอนในระยะยาว การศึกษาบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าแนวปะการังหอยนางรมมีความสามารถในการกักเก็บคาร์บอนในอัตราที่สูงกว่าป่าชายเลนหรือหญ้าทะเลเสียอีก แม้ผลสุทธิในระยะยาวยังต้องศึกษาเพิ่มเติม แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีถึงศักยภาพในการเป็นคาร์บอนสีน้ำเงิน (Blue carbon) ของหอยนางรม ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว ปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้นจากการบริโภคหอยนางรมที่เพิ่มขึ้นคือ เปลือกหอย ในอดีตการกำจัดเปลือกหอยมักใช้วิธีการเผา ซึ่งก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีการตระหนักถึงศักยภาพของเปลือกหอยเหล่านี้ในการนำไปใช้ประโยชน์เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมมหาศาล เปลือกหอยนางรมสามารถนำไปใช้ได้หลายรูปแบบ เช่น วัสดุก่อสร้าง เปลือกหอยบดสามารถนำไปใช้เป็นส่วนผสมในคอนกรีตทดแทนมวลรวมทั่วไปได้ มูลค่าของเปลือกหอยที่ใช้เป็นวัสดุก่อสร้างนี้มีราคาสูงถึง 240-2,400 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ทั่วโลกมีศักยภาพในการสร้างมูลค่าจากเปลือกหอยนางรมที่นำไปใช้เป็นมวลรวมได้ถึง 5,270 ล้านดอลลาร์สหรัฐ/ปี อาหารสัตว์ปีก เปลือกหอยนางรมและเปลือกหอยแครงที่นำมาบดเป็นชิ้นเล็ก ๆ สามารถนำไปผสมในอาหารสัตว์ปีกได้ มันช่วยในการย่อยอาหารของสัตว์ปีกและเป็นแหล่งแคลเซียมสำคัญสำหรับการสร้างเปลือกไข่ มูลค่าของเปลือกหอยนางรมที่ขายเป็นอาหารสัตว์ปีกอยู่ระหว่าง 320-2,400 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ปุ๋ยและปรับปรุงดิน ของเสียจากหอยนางรมอุดมไปด้วยสารอาหารหลักที่พืชต้องการ เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม รวมถึงแมกนีเซียมและซัลเฟอร์ อัตราส่วนของไนโตรเจน ฟอสเฟต และโพแทชในปุ๋ยหมักที่ทำจากหอยนางรมใกล้เคียงกับความต้องการสารอาหารของพืชหลายชนิด นอกจากนี้ ยังสามารถนำไปใช้ในการปรับปรุงสภาพดินเปรี้ยวในภาคเกษตรกรรมได้อีกด้วย แม้จะมีประโยชน์มากมาย แต่ประชากรหอยนางรมในธรรมชาติกำลังเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญ นั่นคือการบริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้เกิดการจับหอยนางรมมากเกินไป (Overfishing) นอกจากนี้ ถิ่นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของพวกมันยังถูกทำลายจากการปล่อยน้ำเสียลงสู่แหล่งน้ำ ทำให้เกิดโรคในหอย และปัญหาแนวปะการังธรรมชาติที่ถูกทำลายลง จนหอยนางรมไม่มีที่ยึดเกาะ ส่งผลให้การอยู่รอดของตัวอ่อนและหอยโตเต็มวัยเป็นไปได้ยากขึ้น สิ่งสำคัญที่ต้องตระหนักคือ ในฐานะที่เป็นสัตว์กรองน้ำ หอยนางรมสามารถสะสมสารก่อโรค เช่น แบคทีเรีย ไวรัส และโปรโตซัวในเนื้อเยื่อของพวกมันได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีคุณภาพน้ำต่ำ นอกจากนี้ หากหอยนางรมอยู่ในพื้นที่ใกล้แหล่งอุตสาหกรรมหรือเกษตรกรรมที่ใช้สารเคมี ก็อาจมีการสะสมสารเคมีอันตราย เช่น สารตกค้างกลุ่ม PCBs, Organophosphates หรือโลหะหนักได้ในระยะยาว ยังมีรายงานการพบสารชีวภาพเป็นพิษ (biotoxin) เช่น กรดโอคาดาอิกและไดโนไฟซิสทอกซิน ซึ่งผลิตจากสาหร่ายพิษที่หอยกินเข้าไปและสะสมในตัว ซึ่งสารเหล่านี้มักไม่ถูกทำลายด้วยความร้อนและอาจส่งผลต่อระบบประสาทได้ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยในการบริโภค ควรนำหอยนางรมมาปรุงสุกก่อนเสมอ เพื่อลดความเสี่ยงจากเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรค เช่น เชื้อวิบริโอ ซาลโมเนลลา และแคมไพโลแบคเทอร์ ที่ทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้หากบริโภคดิบ นอกจากนี้ การประเมินมูลค่าทางเศรษฐกิจของบริการทางวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับหอยนางรม เช่น การท่องเที่ยวเชิงเทศกาลอาหารทะเล หรือคุณค่าทางสุนทรียะ ยังมีหลักฐานน้อยและยากต่อการวัดมูลค่าที่แท้จริง ซึ่งอาจทำให้มูลค่ารวมของระบบนิเวศที่หอยนางรมมอบให้นั้นถูกประเมินต่ำกว่าความเป็นจริง ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว จากปัญหาการลดลงของประชากรหอยนางรมและผลกระทบต่อระบบนิเวศ โครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเลหลายแห่งจึงเกิดขึ้นเพื่อฟื้นฟูหอยนางรมและระบบนิเวศ หนึ่งในโครงการที่โดดเด่นคือ "The New York Harbor Foundation" และ "Billion Oyster Project" ในนครนิวยอร์ก สหรัฐฯ โครงการเหล่านี้มุ่งเน้นไปที่การรีไซเคิลเปลือกหอยนางรมจากร้านอาหารต่าง ๆ เปลือกหอยที่รวบรวมมาได้จะถูกนำไปตากแดดเป็นเวลาประมาณ 1 ปีเพื่อทำความสะอาด. จากนั้นจึงนำเปลือกเหล่านี้ไปใช้เป็นบ้านหลังแรกให้กับตัวอ่อนหอยนางรมในสถานอนุบาล ตัวอ่อนหอยนางรมจะถูกเลี้ยงดูประมาณ 2-3 สัปดาห์ก่อนที่จะถูกนำกลับไปปล่อยลงทะเลเพื่อสร้างแนวปะการังธรรมชาติ เปลือกหอยนางรมเก่าเพียงหนึ่งเปลือกสามารถเป็นบ้านให้ลูกหอยได้มากถึง 20 ตัวเลยทีเดียว โครงการเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามและความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและประชาชนในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล โดยตระหนักถึงคุณค่าของหอยนางรมที่เป็นมากกว่าอาหาร แต่คือหัวใจสำคัญของการรักษาสมดุลของท้องทะเล ที่มา : Reviews in Aquaculture (2020), wildhope.tv, NOAA Fisheries, Restore America's Estuaries อ่านข่าวอื่น : "ประเสริฐ" ย้ำนั่ง มท.1 แค่ข่าวลือ นายกฯ ยังไม่ส่งสัญญาณปรับ ครม. "ปะการังสีน้ำเงิน" เสียหายหนัก เหตุเรือส่งสินค้าเกยตื้นเกาะสุรินทร์

วันนี้ (9 ก.ย.2567) ทีมข่าวไทยพีบีเอส ลงพื้นที่บ้านห้วยแกลบ ต.ชนแดน อ.สองแคว จ.น่าน หลังมีผู้ร้องเรี

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 00
วันนี้ (18 มี.ค.2568) พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากสถานการณ์ความร้อนในเดือน มี.ค.นี้ พบว่าบางวันมีอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส และจากการเฝ้าระวังค่าดัชนีความร้อน หรือ Heat Ind
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่