วันนี้ (29 ม.ค.2567) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า แล
4 สิงหาคม 2025 - 02:33
วันนี้ (4 ส.ค.2566) เมื่อเวลา 02.00 น. ที่ผ่านมา เ
4 สิงหาคม 2025 - 02:33

วันนี้ (25 ต.ค.2566) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง กล่าวถึงกรณีกลุ่มฮามาส เตรียมปล่อยตัวประกัน 50 คนว่ามีคนไทยอยู่ด้วยหรือไม่ว่า ยังไม่ได้คุยกับนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รมว.ต่างประเทศ แต

วันนี้ (6 พ.ย.2564) บรรยากาศงาน พัทยา มิวสิค เฟสติวัล 2021 ในสัปดาห์แรก วันที่ 2 พบว่ามีนักท่องเที่ยวนำเก้าอี้ กระเป๋า และขวดน้ำ มาวางไว้บริเวณชายหาดพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อจองพื้นที่ไว้ที่หน้าเวทีโซนทางเ

เจเนอเรชันเบตาไม่ได้เป็นเพียงแค่คำเรียกที่ดูเรียบง่ายตามลำดับตัวอักษรกรีกที่ต่อจาก "เจเนอเรชันอัลฟา" เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยความเป็นไปได้แบบไร้ขีดจำกัด ตามการคาดการณ์ของ McCrindle บริษัทวิจัยด้านสังคมศาสตร์ในออสเตรเลีย ให้คำจำกัดความว่า เจเนอเรชันเบตาจะประกอบด้วยเด็กที่เกิดระหว่างปี 2568-2582 และภายในปี 2578 พวกเขาจะมีจำนวนประชากรคิดเป็นร้อยละ 16 ของประชากรโลก ซึ่งนับว่าเป็นส่วนสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมในอนาคต สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ทารกที่เกิดในปี 2568 จะมีโอกาสมีอายุถึง 76 ปีในปี 2644 หรือปี ค.ศ.2101 นั่นหมายความว่าเด็กกลุ่มนี้จะได้ใช้ชีวิตใน ศตวรรษที่ 22 ซึ่งเป็นสิ่งที่คนในเจเนอเรชันปัจจุบันอาจไปไม่ถึง ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว หากเจเนอเรชันอัลฟาเติบโตในยุคที่เทคโนโลยีอย่างสมาร์ตโฟนและ AI เพิ่งเริ่มเข้ามามีบทบาท เด็กเจเนอเรชันเบตาจะได้สัมผัสกับโลกที่ AI และระบบอัตโนมัติ (Automation) ผสานเข้ากับชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบ ตั้งแต่โรงเรียนที่มีครู AI ที่สามารถปรับเนื้อหาและวิธีการสอนให้เหมาะสมกับความต้องการของเด็กแต่ละคน ไปจนถึงระบบสุขภาพที่สามารถวินิจฉัยโรคและแนะนำการรักษาได้แบบเรียลไทม์ โลกที่พวกเขาเติบโตมาจะไม่ได้แยก "ออนไลน์" และ "ออฟไลน์" ออกจากกันอีกต่อไป แต่จะเป็นโลกที่ทั้ง 2 ส่วนนี้เชื่อมโยงกันอย่างไร้รอยต่อ การเรียนรู้ การทำงาน และการใช้ชีวิตประจำวัน จะถูกรวมไว้ในระบบดิจิทัลที่อำนวยความสะดวกทุกด้าน แต่ "เบตาเบบี้" ไม่ได้เกิดมาเพียงเพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเท่านั้น พวกเขายังต้องเผชิญกับปัญหาระดับโลกที่ซับซ้อน ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเพิ่มขึ้นของประชากร และความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ไปจนถึงความท้าทายที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม เพราะพวกเขาเป็นผลผลิตจากพ่อแม่ที่เกิดในยุคเจน Y และเจน Z ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว จากการสำรวจของ Pew Research Center พบว่าร้อยละ 71 ของมิลเลนเนียลหรือเจเนอเรชัน Y และร้อยละ 67 ของเจเนอเรชัน Z เห็นว่าการจัดการปัญหาสภาพภูมิอากาศเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ ที่ต้องทำเพื่อสร้างโลกที่ยั่งยืน พ่อแม่ของเจเนอเรชันเบตา จะเป็นกลุ่มที่ระมัดระวังเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีของลูก ๆ โดยสำรวจพบว่าร้อยละ 36 ของพ่อแม่เจน Z และร้อยละ 30 ของพ่อแม่เจน Y สนับสนุน "การจำกัดเวลาในการใช้หน้าจอของเด็ก" เพื่อป้องกันผลกระทบเชิงลบ เช่น การเฝาก 5 บาท ฟรี 50 บาท ล่าสุดสพติดหน้าจอ การลดทอนความสัมพันธ์ในครอบครัว และปัญหาสุขภาพจิต แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย แต่เจเนอเรชันเบตาจะเติบโตมาแบบมีศักยภาพในการสร้างอนาคตที่ดีกว่าด้วยความคิดสร้างสรรค์และการปรับตัว พวกเขาจะเป็นผู้นำในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ และสร้างแนวทางแก้ปัญหาที่คนในยุคปัจจุบันอาจยังนึกไม่ถึง ในการเลี้ยงดูและสนับสนุนเด็กเจเนอเรชันเบตา ผู้ใหญ่ในยุคปัจจุบันจำเป็นต้องปรับตัวและเปลี่ยนวิธีคิดอย่างมาก โดยเฉพาะในโลกที่เทคโนโลยีจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพวกเขาอย่างสมบูรณ์ ผู้ใหญ่ควรให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลระหว่างการใช้เทคโนโลยีกับการพัฒนาทักษะชีวิตในโลกจริง เช่น การจำกัดเวลาหน้าจอเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพจิต และส่งเสริมกิจกรรมที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวหรือการเรียนรู้นอกระบบดิจิทัล การสอนให้เด็กเข้าใจถึงความปลอดภัยในโลกออนไลน์ การจัดการข้อมูลส่วนตัว และการใช้งานเทคโนโลยีอย่างรับผิดชอบ จะเป็นพื้นฐานสำคัญที่ช่วยให้พวกเขาเติบโตอย่างมั่นคงและมีศักยภาพสูงสุด นอกจากนี้ ผู้ใหญ่ควรปรับทัศนคติในการเลี้ยงดูเด็กโดยมองว่าเด็กเจเนอเรชันเบตาจะต้องเผชิญกับปัญหาระดับโลกที่ท้าทายมากขึ้น เช่น สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความเปลี่ยนแปลงทางสังคม และการแข่งขันทางเศรษฐกิจที่รุนแรง การปลูกฝังแนวคิดเรื่องความยั่งยืนและการใส่ใจสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ยังเล็กเป็นสิ่งจำเป็น รวมถึงการสนับสนุนให้พวกเขาพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ การแก้ปัญหา และความยืดหยุ่นทางจิตใจ (resilience) เพื่อให้พวกเขาสามารถปรับตัวและสร้างสรรค์โอกาสใหม่ ๆ ในโลกที่ไม่หยุดนิ่ง ผู้ใหญ่ในยุคปัจจุบัน ควรทำหน้าที่เป็น "ผู้สนับสนุนที่ดี" เปิดรับการเปลี่ยนแปลงและพร้อมที่จะเรียนรู้ไปพร้อมกับเด็กเจเนอเรชันนี้ในทุกย่างก้าวของการเติบโต เพราะเมื่อเจเนอเรชันเบตาสิ้นสุดลงในปี 2582 เจเนอเรชันถัดไปอาจถูกเรียกว่า "เจเนอเรชันแกมมา" ซึ่งคาดว่าจะเป็นกลุ่มประชากรที่เกิดระหว่างปี 2583-2597 พวกเขาจะเผชิญกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง แต่จะยังคงมรดกทางความคิดและความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมจากพ่อแม่ในเจเนอเรชันก่อนหน้า ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว เกิดระหว่างปี 2568-2579 เป็นกลุ่มประชากรที่เกิดขึ้นต่อจากเจเนอเรชันอัลฟา ชื่อ "เบตา" มาจากอักษรกรีก คาดการณ์ว่าเป็นร้อยละ 16 ของประชากรโลกในปี 2578 จะมีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจและสังคม เติบโตในยุคที่ AI เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ตั้งแต่การศึกษา การทำงาน ไปจนถึงการดูแลสุขภาพ พ่อแม่เป็นเจเนอเรชัน Y-Z ซึ่งมีแนวโน้มใส่ใจสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยี เผชิญความท้าทายจากสภาพภูมิอากาศและความเป็นเมือง ต้องเรียนรู้เรื่องการปรับตัวกับปัญหาระดับโลกที่ซับซ้อน มีแนวโน้มถูกเลี้ยงดูด้วยความระมัดระวังเรื่องหน้าจอ เพราะพ่อแม่สนับสนุนการจำกัดเวลาใช้งานเทคโนโลยี เติบโตมาในโลกดิจิทัลที่เชื่อมโยงกับชีวิตจริงอย่างสมบูรณ์ ไม่แยกระหว่าง "ออนไลน์" และ "ออฟไลน์" มีโอกาสใช้ชีวิตในศตวรรษที่ 22  ทารกที่เกิดปี 2568 จะมีอายุ 76 ปีในปี ค.ศ.2101 อาจเป็นผู้บุกเบิกแนวคิดใหม่ ๆ เพื่อโลกที่ยั่งยืน ด้วยพื้นฐานการเลี้ยงดูจากพ่อแม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสังคม ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว ที่มา : People.com, USAtoday อ่านข่าวอื่น : ต้อนรับปีใหม่ 2568 ทิ้งทวนคืนเคานต์ดาวน์เมืองไทยส่งท้ายปีมังกร โลกสว่างไสวรับปีใหม่! ฉลองยิ่งใหญ่ดอกไม้ไฟสวยสะกดทุกสายตา

วันนี้ (25 ส.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมสำรวจถ้ำหลวง นำโดย เวิร์น อันสเวิร์ธ เข้าสำรวจถ้ำหลวงครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผานมา ซึ่งเปิดเผยให้เห็นความเร็วของกระแสน้ำที่ไหลอยู่ในถ้ำหลวง จึงเป

เจเนอเรชันเบตาไม่ได้เป็นเพียงแค่คำเรียกที่ดูเรียบง่ายตามลำดับตัวอักษรกรีกที่ต่อจาก "เจเนอเรชันอัลฟา"