เมื่อการคุมขังผู้ต้องหาคดียาเสพติดไม่ใช่ทางออกอีกต่อไป เป้าหมายสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ณ วันนี้
หญิงไทยวัย 25 ปี จากจังหวัดเพชรบูรณ์ สะดุดตากับโฆษณาบน TikTok รับสมัครพนักงานไปทำงานเอ็นเตอร์เทน ทางตอนเหนือของรัฐฉาน ประเทศเมียนมา รายได้เดือนละ 250,000 บาท เมื่อส่งข้อความไปสอบถาม ได้รับคำตอบจากนายห
หญิงไทยวัย 25 ปี จากจังหวัดเพชรบูรณ์ สะดุดตากับโฆษณาบน TikTok รับสมัครพนักงานไปทำงานเอ็นเตอร์เทน ทางตอนเหนือของรัฐฉาน ประเทศเมียนมา รายได้เดือนละ 250,000 บาท เมื่อส่งข้อความไปสอบถาม ได้รับคำตอบจากนายหน้าว่าทำงานเป็นพีอาร์ (PR) หรือนักประชาสัมพันธ์ คอยต้อนรับลูกค้าชาวจีนที่เข้ามาใช้บริการสถานบันเทิงและกาสิโนในเมืองทางตอนเหนือของเมียนมา นายหน้ายังบอกว่า สาเหตุที่รายได้อยู่ที่ 200,000-250,000 ต่อเดือน เป็นเพราะอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินหยวนและเงินบาทไทยที่ค่อนข้างแตกต่างกัน จึงทำให้ผู้ทำงานค่อนข้างได้กำไร เมื่อแลกเงินหยวนเป็นเงินไทย ทั้งนี้ ผู้สมัครงานไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เช่น ค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าอาหาร ฯลฯ เดือนเมษายน 2565 เธอตัดสินใจเดินทางจากกรุงเทพมหานครไปยัง อ.แม่สอด จ.ตาก จากนั้นนายหน้าพาข้ามช่องทางธรรมชาติเข้าสู่ประเทศเมียนมา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 สัปดาห์จึงถึงจุดหมายปลายทาง ที่เมืองเลาก์ก่าย เมืองหลวงของเขตปกครองพิเศษโกก้าง ทางตอนเหนือของรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และมีพรมแดนติดกับมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ที่ทำงานของเธอเป็นตึก 12 ชั้น ชั้นล่างเป็นกาสิโนและ KTV (คาราโอเกะ) เธอและพนักงานบริการคนอื่น ๆ พักอยู่ที่ชั้น 2 ส่วนชั้น 3 เป็นพื้นที่ขายบริการทางเพศ ชั้น 4-12 เป็นห้องพักสำหรับแขก มีผู้ถืออาวุธเฝ้าทางเข้าออกตึกตลอด 24 ชั่วโมง การพกปืนเป็นเรื่องธรรมดาปกติของที่นี่ เพราะแม้แต่แขกที่เข้ามาใช้บริการก็พกปืนกันทุกคน ภาพถ่ายทางอากาศเมืองเลาก์ก่าย เขตปกครองพิเศษโกก้าง ภาพถ่ายทางอากาศเมืองเลาก์ก่าย เขตปกครองพิเศษโกก้าง หญิงชาวเพชรบูรณ์พบว่างานที่ต้องทำไม่ใช่งานพีอาร์ดังที่นายหน้าบอกแต่กลับกลายเป็นงานขายบริการและเอ็นเตอร์เทนลูกค้าชาวจีนใน KTV เธอต้องทำทุกอย่างตามที่ลูกค้าต้องการ ทั้งดื่มสังสรรค์ เสพยาไปจนถึงขายบริการ ที่นั่นยังมีหญิงไทยอีก 10 คน หญิงชาวไทใหญ่และชาวจีนประมาณ 20 คน ที่ต้องประสบชะตากรรมเดียวกัน สภาพบังคับเหล่านี้ทำให้เธอและเพื่อนๆ ต้องการออกจากที่นั่น แต่ก็ทำไม่ได้เพราะนายจ้างบอกว่าเธอต้องทำงานใช้หนี้ที่เกิดจากค่านำพาจำนวน 250,000 บาทให้หมดเสียก่อน ทั้งที่ก่อนหน้านี้นายหน้าฝั่งไทยเคยรับประกันว่าไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนนี้ โชคดีที่เธอสามารถใช้อินเทอร์เนทผ่านโทรศัพท์มือถือได้ เธอจึงส่งข้อความขอความช่วยเหลือไปยังกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศของไทย และนัดแนะแผนกับทางการไทยจนได้รับการช่วยเหลือในที่สุด เดือนกรกฎาคม 2565 เธอและเพื่อนรวม 10 คน เดินทางกลับไทยอย่างปลอดภัย ทุกคนต่างเห็นตรงกันว่า เวลาไม่ถึง 2 เดือนที่อยู่ในเมืองเลาก์ก่ายคือประสบการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต เขตปกครองพิเศษโกก้าง ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของรัฐฉาน ทิศตะวันตกติดกับแม่น้ำสาละวิน ทิศตะวันออกมีพรมแดนติดกับมณฑลยูนนาน ประเทศจีน มีเมืองหลวงชื่อ เลาก์ก่าย ประชากรส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์โกก้างที่มีเชื้อสายจีน ภาพแผนที่เขตปกครองพิเศษโกก้าง ภาพแผนที่เขตปกครองพิเศษโกก้าง กลุ่มโกก้างมีความแนบชิดกับจีนผ่านประวัติศาสตร์ท้องถิ่น การเมือง ภาษา และวัฒนธรรรมมาอย่างยาวนาน หากเดินทางไปที่นั่นจะพบผู้คนใช้ภาษาจีนกลางมากกว่าภาษาเมียนมา แม้แต่ระบบการเงินก็นิยมใช้เงินหยวนเป็นสกุลเงินหลักของพื้นที่ รวมถึงใช้สถาบันการเงินของจีนมากกว่าของเมียนมา อย่างไรก็ตามพวกเขายังถือว่าตนเองเป็นกลุ่มชาติพันธุ์หนึ่งในเมียนมา รศ.ดร.ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์สาขาประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คณะศิลปศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ให้ข้อมูลว่า ช่วงปี 2503-2532 พื้นที่ของกลุ่มโกก้างถูกควบคุมโดยพรรคคอมมิวนิสต์พม่า(Communist Party of Burma) ซึ่งเคลื่อนไหวภายใต้การสนับสนุนของพรรคคอมมิวนิสต์จีนแผ่นดินใหญ่ แม้ผู้นำพรรคเป็นชาวเมียนมา แต่ก็ใช้กองกำลังกลุ่มโกก้างและว้าเป็นปีกทหารคอยควบคุมอิทธิพลของพรรคในดินแดนแถบนี้ ต่อมาปี 2532 พรรคคอมมิวนิสต์พม่าสลายตัวลง กองกำลังโกก้างผันตัวเป็น “กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (MNDAA) โดยมี “เผิง เจียเซิง” (Peng Jiasheng) เป็นผู้นำ กองทัพเมียนมาพยายามเจรจาสงบศึกกับชนกลุ่มน้อยต่างๆ โดยเสนอให้ชาติพันธุ์ต่างๆ เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพเมียนมาในฐานะกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) แต่กองกำลัง MDNAA ต่อต้านแนวคิดนี้ จนนำไปสู่การสู้รบระหว่างกลุ่มโกก้างและกองทัพเมียนมาในปี 2552 ส่งผลให้ประชาชนชาวโกก้างต้องอพยพลี้ภัยไปยังพรมแดนจีนเป็นจำนวนมาก ไป่ โส่วเฉิน (Bai Suocheng) รองผู้บัญชาการ MDNAA ในขณะนั้นเพิกเฉยจุดยืนของเผิง เจียเซิงและตกลงรับข้อเสนอของกองทัพเมียนมา ส่งผลให้เผิง เจียเซิงถูกเนรเทศออกจากเขตโกก้างพร้อมกับกองกำลัง MDNAA ที่ยังสวามิภักดิ์กับเขา ส่วนไป่ โส่วเฉินได้รับอนุมัติจากรัฐบาลเมียนมาให้เข้าควบคุมและบริหารเขตปกครองพิเศษโกก้างแทน กองกำลัง MDNAA ของเผิง เจียเซิงร่วมมือกับกลุ่มชนชาติพันธุ์อื่นๆ เปิดฉากสู้รบกับกองทัพเมียนมา รวมถึงพยายามเข้ายึดดินแดนโกก้างให้กลับมาอยู่ในอิทธิพลของกองกำลังตนเองอยู่เป็นระยะ แต่ความพยายามของพวกเขาไม่เคยประสบความสำเร็จจนถึงปัจจุบัน การได้บริหารเขตปกครองพิเศษของตนเอง โดยยอมลดอาวุธของกองกำลังกลุ่มโกก้างที่เหลืออยู่ ให้ไปเป็นกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) และรักษาความสงบระหว่างชายแดนเมียนมา-จีน กลายเป็นจุดกำเนิดของ 3 ตระกูลที่เข้ามาควบคุมและบริหารพื้นที่เขตปกครองพิเศษโกก้างควบคู่ไปกับการขยายอาณาจักรทางธุรกิจของครอบครัว โดยเปลี่ยนโฉมจากพื้นที่ปลูกฝิ่นและผลิตเฮโรอีนไปเป็นเมืองกาสิโนแบบมาเก๊า อย่างไรก็ตามยาเสพติดยังหาซื้อง่ายเหมือนเดิม แม้ว่าตัวเมืองจะเปลี่ยนไปหารายได้จากธุรกิจกาสิโนเป็นหลัก ภาพถ่ายทางอากาศเขตปกครองพิเศษโกก้าง ภาพถ่ายทางอากาศเขตปกครองพิเศษโกก้าง สถาบันสันติภาพแห่งสหรัฐอเมริกา (United States Institute of Peace หรือ USIP) ซึ่งเป็นหน่วยงานวิชาการอิสระที่ก่อตั้งโดยรัฐสภาของสหรัฐอเมริกา จัดทำรายงานหลายฉบับตั้งแต่ปี 2564 จนถึงปัจจุบัน ระบุตรงกันว่า ธุรกิจกาสิโน โรงแรม และสถานบันเทิงในเขตปกครองพิเศษโกก้างเกือบทั้งหมด ถูกควบคุมและบริหารโดยบริษัทตระกูลไป่ (Bai) ตระกูลหลิว (Liu) และตระกูลเหว่ย (Wei) 3 ชนชั้นนำ ของกองกำลังโกก้าง รศ.ดร.ดุลยภาค นิยามกลุ่มทุนเหล่านี้ว่า “กลุ่มทุนนิยมหยุดยิง” โดยอธิบายว่า มันคือกลุ่มขุนศึก (War Lord) และมาเฟียที่ต้องมีกองกำลังติดอาวุธไว้ป้องกันเขตอิทธิพลหรือต่อรองกับรัฐบาลเมียนมา แต่ก็ยอมเจรจาหยุดยิงกับกองทัพเมียนมาเพื่อแลกกับการควบคุมเขตอิทธิพลของตนเอง ทำให้ยังสามารถควบคุมการไหลเวียนของฝิ่น เฮโรอีน และรายได้จากธุรกิจกาสิโนมาเข้ากลุ่มของตัวเองได้อย่างเต็มที่ และทำให้เศรษฐกิจชายแดนเติบโตขึ้นด้วย รายงานของ USIP ยังระบุว่า โรงแรมและกาสิโนในเขตปกครองพิเศษโกก้างเป็นแหล่งกิจกรรมทางอาชญากรรมทุกรูปแบบ โดยอ้างอิงบันทึกคดีอาญาของศาลจีนตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา ที่ระบุว่า ผู้พิพากษาศาลในประเทศจีนต้องขึ้นพิจารณาคดีอาญาที่มีความเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามพรมแดนในเขตปกครองพิเศษโกก้าง ซึ่งมีทั้งคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด การพนัน การค้าอาวุธ ฉ้อโกง และลักพาตัว รวมกันกว่า 1,300 คดี โดยมีหลายกรณีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของตระกูลไป่และเหว่ย เดือนกุมภาพันธ์ 2565 สำนักข่าวของจีนแห่งหนึ่งรายงานว่า ชาวโกก้างร่วมมือกับคนจีนทำโฆษณาผ่านแอปพลิเคชัน TikTok และสื่อออนไลน์อื่นๆ หลอกคนจีนมาทำงานในเขตปกครองพิเศษโกก้าง โดยเสนอค่าตอบแทนเป็นเงินจำนวนมาก ทำให้ชาวจีนมากกว่า 100 คนหลงกลและถูกบังคับทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเอาเงินจากชาวจีนด้วยกัน โดยถูกกักขังไว้ในกาสิโนแห่งหนึ่งตลอดการทำงาน หากไม่ยอมทำงานจะถูกทำร้าย ทุบตี รวมทั้งถูกขู่ว่าจะขายต่อให้แก๊งคนจีนในประเทศกัมพูชา จะเห็นว่าการโฆษณาจูงใจผ่าน TikTok หาคนทำงานเอ็นเตอร์เทน โดยมีตัวเลขรายได้สูงเป็นแรงจูงใจ คือรูปแบบพฤติกรรมเดียวกันกับที่หญิงชาวจังหวัดเพชรบูรณ์เจอ จนตกเป็นผู้เสียหายจากขบวนการค้ามนุษย์ในเขตปกครองพิเศษโกก้าง ภาพ โฆษณารับสมัครหาคนทำงาน ภาพ โฆษณารับสมัครหาคนทำงาน ปัจจุบันพบว่า กลุ่มทุนกาสิโนของตระกูลหลิวและตระกูลไป่ ยังขยายกิจการกาสิโนไปยังเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ซึ่งอยู่ติดกับชายแดน อ.แม่สอด จ.ตากของไทย รวมถึงเมืองสีหนุวิลล์ในประเทศกัมพูชา นักวิเคราะห์จาก USIP มองว่า กลุ่มอาชญากรชาวจีนบางกลุ่ม ใช้ประโยชน์จากธุรกิจกาสิโนของโกก้างในsbobet 8vเมียนมาและกัมพูชาเป็นแหล่งฟอกเงิน และดำเนินธุรกิจผิดกฎหมายควบคู่กันไปด้วย ดร.พอล แชมเบอร์ส นักรัฐศาสตร์ชาวอเมริกัน ซึ่งปัจจุบันเป็นอาจารย์ประจำและที่ปรึกษาวิทยาลัยประชาคมอาเซียนศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร ให้ความเห็นว่า สิ่งที่ขบวนการค้ามนุษย์ทำกับชาวไทยที่ถูกบังคับไปขายบริการในเขตปกครองพิเศษโกก้าง ทำให้เห็นว่าอาชญากรรมในพื้นที่สามเหลี่ยมทองมีความซับซ้อนมากขึ้น เพิ่มเติมจากปัญหาที่มีอยู่เดิม คือ ยาเสพติด นักรัฐศาสตร์ชาวอเมริกันมองว่า การทำงานระหว่างทหาร ตำรวจ และมหาดไทยยังไม่บูรณาการกัน ทำให้การป้องกันและสกัดกั้นยังไม่เกิดประสิทธิภาพ ส่งผลให้กลุ่มอาชญากรรมในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำยิ่งขยายเครือข่ายไปยังพื้นที่อื่นๆ และยากต่อการปราบปรามมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยในภูมิภาค จิราภรณ์ ศรีแจ่ม ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส รายงาน
วันนี้(14 ธ.ค.2566) รายงานข่าวจากเว็บไซต์ฮั่วเซ่งเฮง เปิดเผยว่า หลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการ