วันนี้ (14 มี.ค.2568) นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยกรณี ศธ.ออกประกาศมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า ที่กำลังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าเป็นการเพิ่มภาระครู โดยเน้นย้ำ

วันนี้ (14 มี.ค.2568) นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยกรณี ศธ.ออกประกาศมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า ที่กำลังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าเป็นการเพิ่มภาระครู โดยเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาในกลุ่มเด็กและเยาวชน หากผู้บริหาร ข้าราชการ ครูและบุคลากรทางการศึกษาปล่อยปะละเลยจะถูกดำเนินการทางวินัย เพื่อสร้างความตระหนักและเข้มงวดในการป้องกันการเข้าถึงและใช้บุหรี่ไฟฟ้าในสถานศึกษาทุกระดับ โฆษก ศธ. กล่าวว่า ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าเป็นประเด็นได้รับความสนใจอย่างมากในสังคม และยังเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ แลpinupbetะนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและสุขภาพในกลุ่มผู้เรียน และกังวลถึงภัยที่เกิดจากพฤติกรรมเลียนแบบจากคนรอบข้าง ครูผู้ใกล้ชิดกับเด็กและเป็นแบบอย่างที่ดีจึงมีบทบาทสำคัญในการจัดการกับปัญหานี้ให้ถูกจุดเพื่อป้องกันไม่ให้ลุกลามไปมากกว่าเดิม ขอทำความเข้าใจให้ชัดเจนถึงมาตรการการลงโทษทางวินัยการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในสถานศึกษา เพราะยังมีคนไม่เข้าใจนำข้อมูลผิด ๆ ไปแชร์ต่อกันเป็นวงกว้าง อาจทำให้เกิดการเข้าใจคลาดเคลื่อนได้ เพราะบุหรี่ไฟฟ้านอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ยังมีโทษภัยร้ายแรงที่กระทบต่อสุขภาพในกลุ่มเด็กและเยาวชนระยะยาว และเป็นสิ่งต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ และบุคคลที่มีไว้ในครอบครองถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 กระทรวงศึกษาธิการในฐานะหน่วยงานที่มีบทบาทหน้าที่ในการให้ความสำคัญกับผู้เรียนรอบด้าน และมีครูเป็นกำลังสำคัญในการดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด มีหน้าที่ขับเคลื่อนการ "ป้องปราม" เท่านั้น ส่วนเรื่องการ "ปรามปราบ" เป็นหน้าที่ของหน่วยงานอื่นที่มีอำนาจในการตรวจค้นและจับกุม เพราะฉะนั้นคุณครูไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับภาระเพิ่มในส่วนนี้ เพียงทำหน้าที่ในการดูแลผู้เรียนอย่างเช่นเคย แต่เข้มงวดขึ้นไม่ให้บุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาคลุกคลีกับลูกศิษย์ของเราในโรงเรียน และคอยเตือนเพื่อนไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยว นี่คือการยืนยันถึงจุดยืนว่าปัญหานี้จะไม่ถูกเพิกเฉย ที่สำคัญมาตรการดังกล่าวไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาปลายเหตุ เพียงแต่ต้องการตั้งกฎขึ้นมาเพื่อสร้างความตระหนักรู้ร่วมกันถึงคุณธรรมและจริยธรรม ระหว่างครู ผู้บริหารสถานศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระตุ้นการต่อต้านบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเข้มงวดจริงจัง ซึ่งการถูกลงโทษทางวินัยในที่นี้หมายถึงหากพบว่าผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา สนับสนุนการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในสถานศึกษาหรือปล่อยปละละเลย จะถูกดำเนินการทางวินัยตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 จึงควรทำความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้เรียนให้สมกับที่ผู้ปกครองและสังคมไว้วางใจ ขอย้ำว่าครูไม่ใช่ผู้ที่ต้องรับจบทุกเรื่อง อยากให้มองว่าการป้องปรามบุหรี่ไฟฟ้าที่ทำอยู่ตอนนี้ไม่ใช่ภาระที่เพิ่มขึ้น เพราะการดูแลเอาใจใส่ผู้เรียนเป็นหน้าที่ของครูทุกคนอยู่แล้ว เพียงแต่ยกระดับมาตรการให้เข้มข้นมากขึ้น ดังนั้นหากพบเห็นบุคคลากรข้องเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า หรือมีการจำหน่ายจ่ายแจก และปล่อยให้มีการใช้งานในสถานศึกษาหรือหน่วยงานโดยเพิกเฉย สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนการศึกษา 1579 และศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัย หรือประสานงานกับหน่วยงานที่มีอำนาจในทางปฏิบัติ เพื่อร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ กระทรวงศึกษาธิการเห็นใจและเข้าใจว่าไม่ได้เป็นหน้าที่ของครูเพียงฝ่ายเดียว ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ปกครอง ชุมชนและสังคม แต่การกำหนดมาตรการแก้ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในสถานศึกษา จำเป็นต้องดำเนินการเพื่อปกป้องเยาวชนของเราให้เติบโตขึ้นอย่างมีสุขภาพดี เรียนรู้ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย 100% ขอส่งกำลังใจให้ครูทุกคนทุกการดำเนินการจะสะท้อนให้เห็นถึงความรับผิดชอบและความตั้งใจที่จะปกป้องผู้เรียน และช่วยให้สามารถจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างยั่งยืน โฆษก.ศธ. กล่าวปิดท้าย อ่านข่าว : "จิราพร" เตรียมให้ปชช. แจ้งเบาะแส "บุหรี่ไฟฟ้า" ผ่าน "แอปฯทางรัฐ"

วันนี้ (7 มิ.ย.2568) จากกรณีที่กองทัพบก (ทบ.) ได้ออกคำสั่งให้มีการควบคุมจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา เพื่อรักษาอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และความมั่นคงของชาติ ล่าสุด พล.ต.วินธัย สุวารี โ

พี่เลี้ยงปาดคอเด็กจีนเจ็บ 8 คน เจ้าหน้าที่ศูนย์รับเลี้ยงเด็กของรัฐในจีนใช้มีดปาดคอเด็กได้รับบาดเจ็บ

นิยายชีวิต โดย : Nashih Nashrullah
เรื่องและภาพโดย : Nashih Nashrullah
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..