วันนี้ (27 เม.ย.2567) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากา

สัตวแพทย์จากกลุ่มคุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์ กรมปศุสัตว์ กำลังสาละวนกับการช่วยเหลือไก่ชน 1 ใน 28 ตัวที่ช่วยเหลือจากเหตุไฟไหม้ตลาดนัดโซนสัตว์ของตลาดนัดจตุจักร ซึ่งมีร้านค้าถูกไฟไหม้วอด 118 คูหา และประเมินเบ
เมื่อวันที่ 29 ส.ค.2564 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า สหรัฐอเมริกาใช้โดรนยิงถล่มรถยนต์ 2 คัน ซึ่งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัยของประชาชนใกล้กับสนามบินนานาชาติฮามิด คาร์ไซ ในกรุงคาบูลของอัฟกานิสถาน กองบัญชากา
ทะเลทรายคู่กับความแห้งแล้งฉันใด การเกษตรย่อมคู่กับน้ำฉันนั้น จึงเป็นเรื่องยากมากสำหรับประเทศที่มีภูมิประเทศเป็นทะเลทรายในการทำการเกษตร ส่งผลให้ต้องอาศัยการนำเข้าสินค้าเกษตรจากภายนอกเป็นหลัก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ก็เช่นกัน แต่เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่เกิดขึ้น ทำให้ห่วงโซ่อุปทานในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบ รัฐบาลจึงได้คิดค้นการแก้ปัญหาเรื่องความมั่นคงทางอาหารนี้ โดยการทำฟาร์มข้าวสาลีกลางทะเลทรายด้วยเทคโนโลยีที่หลากหลาย รัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ริเริ่มโครงการเพาะปลูกข้าวสาลีกลางทะเลทรายชาร์จาห์ (Sharjah) ให้เป็นฟาร์มขนาด 400 เฮกตาร์ หรือประมาณ 2,500 ไร่ เมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายเครดิตทดลองเล่นSLOTหลัก 2 ประการ คือ ลดการนำเข้าอาหาร และเพิ่มความมั่นคงทางอาหารภายในประเทศ ฟาร์มข้าวสาลีกลางทะเล เกิดขึ้นจากการบูรณาการทางเทคโนโลยีที่หลากหลายในการควบคุมการผลิต ทั้งระบบผลิตน้ำเพื่อการชลประทาน ระบบการถ่ายภาพความร้อน ตลอดจนการใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยในการรวบรวมข้อมูลสภาพอากาศและดินสำหรับการควบคุมอัตราการให้น้ำ และติดตามการเจริญเติบโตของข้าวสาลีอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นฟาร์มที่ปลอดการใช้ยาฆ่าแมลง สารเคมี และเมล็ดพันธุ์ดัดแปลงพันธุกรรม ในปี 2022 ที่ผ่านมา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้นำเข้าข้าวสาลี 1.7 ล้านเมตริกตันต่อปี ซึ่งผลผลิตที่คาดว่าจะได้รับจากการทำฟาร์มข้าวสาลีในครั้งนี้จะอยู่ที่ประมาณ 1,600 ตันต่อปี ที่ถึงแม้ว่าตัวเลขนี้จะแสดงให้เห็นถึงปริมาณที่ไม่มากนัก แต่ถือเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของประเทศทะเลทรายที่มีความแห้งแล้ง อันเป็นอุปสรรคสำคัญของการเพาะปลูก โดยรัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีแผนการขยายพื้นที่เพาะปลูกออกไปอีก เริ่มจาก 1,400 เฮกตาร์ หรือประมาณ 8,750 ไร่ ไปจนถึง 1,900 เฮกตาร์ หรือประมาณ 11,870 ไร่ ภายในปี 2025 ทั้งนี้การทำฟาร์มข้าวสาลีกลางทะเลทราย ต้นทุนการกลั่นน้ำทะเลเพื่อนำมาใช้ในการเพาะปลูกนั้นมีความท้าทายที่รัฐบาลต้องจัดการ โดยจะต้องใช้ต้นทุนด้านพลังงานในการผลิตน้ำจากน้ำทะเล 18,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวันเพื่อการชลประทาน ซึ่งรัฐบาลคาดว่าจะลดลงตามสัดส่วนเมื่อโครงการขยายขนาดขึ้น การผลิตพืชผลทางการเกษตรอย่างการทำฟาร์มข้าวสาลีนั้น ถือเป็นความท้าทายและเป็นก้าวที่สำคัญของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เนื่องจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กำลังจะเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมสุดยอดรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงประจำปี 2023 (COP 28) และมุ่งมั่นที่จะเพิ่มความมั่นคงทางอาหารท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่มาข้อมูล: reuters, thenationalnews, i24news“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech
วันนี้ (30 พ.ย.2565) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เปิดเผยว่า ตามที่ได้รับ
วันนี้ (18 ต.ค.2566) แรงงานไทยในประเทศอิสราเอล จำนวน 266 คน เดินทางด้วยสายการบิน TG8951 เดินทางถึงท่
วันนี้ (22 ธ.ค.66) ตามที่ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม มอบนโยบายในการอำนวยความสะดวกและปลอดภัย รอง
ทะเลทรายคู่กับความแห้งแล้งฉันใด การเกษตรย่อมคู่กับน้ำฉันนั้น จึงเป็นเรื่องยากมากสำหรับประเทศที่มีภูมิประเทศเป็นทะเลทรายในการทำการเกษตร ส่งผลให้ต้องอาศัยการนำเข้าสินค้าเกษตรจากภายนอกเป็นหลัก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ก็เช่นกัน แต่เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่เกิดขึ้น ทำให้ห่วงโซ่อุปทานในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบ รัฐบาลจึงได้คิดค้นการแก้ปัญหาเรื่องความมั่นคงทางอาหารนี้ โดยการทำฟาร์มข้าวสาลีกลางทะเลทรายด้วยเทคโนโลยีที่หลากหลาย รัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ริเริ่มโครงการเพาะปลูกข้าวสาลีกลางทะเลทรายชาร์จาห์ (Sharjah) ให้เป็นฟาร์มขนาด 400 เฮกตาร์ หรือประมาณ 2,500 ไร่ เมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายเครดิตทดลองเล่นSLOTหลัก 2 ประการ คือ ลดการนำเข้าอาหาร และเพิ่มความมั่นคงทางอาหารภายในประเทศ ฟาร์มข้าวสาลีกลางทะเล เกิดขึ้นจากการบูรณาการทางเทคโนโลยีที่หลากหลายในการควบคุมการผลิต ทั้งระบบผลิตน้ำเพื่อการชลประทาน ระบบการถ่ายภาพความร้อน ตลอดจนการใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยในการรวบรวมข้อมูลสภาพอากาศและดินสำหรับการควบคุมอัตราการให้น้ำ และติดตามการเจริญเติบโตของข้าวสาลีอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นฟาร์มที่ปลอดการใช้ยาฆ่าแมลง สารเคมี และเมล็ดพันธุ์ดัดแปลงพันธุกรรม ในปี 2022 ที่ผ่านมา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้นำเข้าข้าวสาลี 1.7 ล้านเมตริกตันต่อปี ซึ่งผลผลิตที่คาดว่าจะได้รับจากการทำฟาร์มข้าวสาลีในครั้งนี้จะอยู่ที่ประมาณ 1,600 ตันต่อปี ที่ถึงแม้ว่าตัวเลขนี้จะแสดงให้เห็นถึงปริมาณที่ไม่มากนัก แต่ถือเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของประเทศทะเลทรายที่มีความแห้งแล้ง อันเป็นอุปสรรคสำคัญของการเพาะปลูก โดยรัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีแผนการขยายพื้นที่เพาะปลูกออกไปอีก เริ่มจาก 1,400 เฮกตาร์ หรือประมาณ 8,750 ไร่ ไปจนถึง 1,900 เฮกตาร์ หรือประมาณ 11,870 ไร่ ภายในปี 2025 ทั้งนี้การทำฟาร์มข้าวสาลีกลางทะเลทราย ต้นทุนการกลั่นน้ำทะเลเพื่อนำมาใช้ในการเพาะปลูกนั้นมีความท้าทายที่รัฐบาลต้องจัดการ โดยจะต้องใช้ต้นทุนด้านพลังงานในการผลิตน้ำจากน้ำทะเล 18,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวันเพื่อการชลประทาน ซึ่งรัฐบาลคาดว่าจะลดลงตามสัดส่วนเมื่อโครงการขยายขนาดขึ้น การผลิตพืชผลทางการเกษตรอย่างการทำฟาร์มข้าวสาลีนั้น ถือเป็นความท้าทายและเป็นก้าวที่สำคัญของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เนื่องจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กำลังจะเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมสุดยอดรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงประจำปี 2023 (COP 28) และมุ่งมั่นที่จะเพิ่มความมั่นคงทางอาหารท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่มาข้อมูล: reuters, thenationalnews, i24news“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech
ทะเลทรายคู่กับความแห้งแล้งฉันใด การเกษตรย่อมคู่กับน้ำฉันนั้น จึงเป็นเรื่องยากมากสำหรับประเทศที่มีภูม