UID: 70452

หลายพื้นที่ของประเทศยังประสบภัยน้ำท่วม แนวกระสอบทรายที่ชาวบ้านช่วยกันนำไปสร้างเป็นผนังกั้นน้ำในตำบลโ

วันนี้ (7 ส.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานว่าข้อมูลจากกรมการแพทย์ กระทรวงส

หลายพื้นที่ของประเทศยังประสบภัยน้ำท่วม แนวกระสอบทรายที่ชาวบ้านช่วยกันนำไปสร้างเป็นผนังกั้นน้ำในตำบลโผงเผง จังหวัดอยุธยา พังทลายลง หลังระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ครู และ นักเรียนในจังหวัดพิษณุโลกทำความสะอาดอาคารเรีอน จากน้ำป่าทุ่งแสลงหลวง ไหลหลากท่วมพื้นที่และลดระดับสู่ภาวะปกติแล้ว หลายพื้นที่ของประเทศยังประสบภัยน้ำท่วม   ครู นักเรียนโรงเรียนวัดปลวกง่าม ตำบลชมพู อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ช่วยกันทำความสะอาดอาคารเรียน หลังน้ำป่าจากเทือกเขาทุ่งแสลงหลวง ไหลหลากเข้าท่วมเมื่อวานนี้ และ ลดระดับกลับสู่ภาวะปกติแล้ว โดยนายลือชัย สิริศิโรรัตน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดปลวกง่าม ระบุว่า อยากให้ปรับปรุงระบบเตือนภัยของศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เพราะน้ำป่าครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำยมที่สูงเกินจุดวิกฤตกว่า 1 เมตรทำให้พื้นที่เขตเศรษฐกิจในอำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร ถูกน้ำท่วมสูง 30-90 เซ็นติเมตรชาวบ้านต้องนำกระสอบทรายมาสร้างแนวป้องกันน้ำ เช่นเดียวกับนักเรียนโรงเรียนกีฬา และเจ้าหน้าที่เทศบาลนคร ในจังหวัดนครสวรรค์ ช่วยกันบรรจุกระสอบทราย ก่อนนำไปสร้างเป็นพนังกั้นน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา โดยนายจิตตเกษม นิโรจน์ธณรัตน์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครสวรรค์เตรียมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่จำนวน 4 เครื่องเพื่อระบายน้ำตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงนำกระสอบทรายมาปิดไหล่ถนนบริเวณอำเภอผักไห่ มุ่งอำเภอเสนา เพื่อป้องกันน้ำไหลข้ามฝั่งไปยังนาข้าวกว่า 20,000 ไร่ที่อยู่ระหว่างเก็บเกี่ยว ขณะที่ปริมาณน้ำในแม่น้ำน้อยและแม่น้ำเจ้าพระยายังเพิ่มสูงขึ้น พื้นที่ริมน้ำยังได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ขณะที่แนวกระสอบทรายกั้นน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาในตำบลโผงเผง อำเภอป่าโมก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พังทลายลง หลังระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ประชาชนหลายหมู่บ้านกว่า 700 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วมสูง ผู้เลี้ยงปลากระชังในอำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ต้องคอยตรวจสภาพน้ำและเพิ่มการดูแลปลาที่เลี้ยงไว้ หลังระดับน้ำในแม่น้ำชีและแม่น้ำมูลเพิ่มสูงขึ้นทำให้มีพื้นที่การเกษตรเสียหายหลายพันไร่ ขณะที่ชลประทานจังหวัดมหาสารคามต้องระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำ 4 แห่ง ในอำเภอเมือง อำเภอโกสุมพิสัย อำเภอวาปีปทุม และอำเภอแกดำ เพื่อเตรียมรองรับฝนที่ยังตกมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนน้ำจากจังหวัดชัยภูมิและเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ที่ไหลมาสมทบ ในลำน้ำชียังคงเพิ่มสูงขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดมหาสารคาม ต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในที่ลุ่มริมแม่น้ำชี เตรียมพร้อมอพยพ   ครู นักเรียนโรงเรียนวัดปลวกง่าม ตำบลชมพู อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลสรุป ตลาดหุ้น ช่อง 9ก ช่วยกันทำความสะอาดอาคารเรียน หลังน้ำป่าจากเทือกเขาทุ่งแสลงหลวง ไหลหลากเข้าท่วมเมื่อวานนี้ และ ลดระดับกลับสู่ภาวะปกติแล้ว โดยนายลือชัย สิริศิโรรัตน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดปลวกง่าม ระบุว่า อยากให้ปรับปรุงระบบเตือนภัยของศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เพราะน้ำป่าครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำยมที่สูงเกินจุดวิกฤตกว่า 1 เมตรทำให้พื้นที่เขตเศรษฐกิจในอำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร ถูกน้ำท่วมสูง 30-90 เซ็นติเมตรชาวบ้านต้องนำกระสอบทรายมาสร้างแนวป้องกันน้ำ เช่นเดียวกับนักเรียนโรงเรียนกีฬา และเจ้าหน้าที่เทศบาลนคร ในจังหวัดนครสวรรค์ ช่วยกันบรรจุกระสอบทราย ก่อนนำไปสร้างเป็นพนังกั้นน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา โดยนายจิตตเกษม นิโรจน์ธณรัตน์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครสวรรค์เตรียมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่จำนวน 4 เครื่องเพื่อระบายน้ำตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงนำกระสอบทรายมาปิดไหล่ถนนบริเวณอำเภอผักไห่ มุ่งอำเภอเสนา เพื่อป้องกันน้ำไหลข้ามฝั่งไปยังนาข้าวกว่า 20,000 ไร่ที่อยู่ระหว่างเก็บเกี่ยว ขณะที่ปริมาณน้ำในแม่น้ำน้อยและแม่น้ำเจ้าพระยายังเพิ่มสูงขึ้น พื้นที่ริมน้ำยังได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ขณะที่แนวกระสอบทรายกั้นน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาในตำบลโผงเผง อำเภอป่าโมก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พังทลายลง หลังระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ประชาชนหลายหมู่บ้านกว่า 700 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วมสูง ผู้เลี้ยงปลากระชังในอำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ต้องคอยตรวจสภาพน้ำและเพิ่มการดูแลปลาที่เลี้ยงไว้ หลังระดับน้ำในแม่น้ำชีและแม่น้ำมูลเพิ่มสูงขึ้นทำให้มีพื้นที่การเกษตรเสียหายหลายพันไร่ ขณะที่ชลประทานจังหวัดมหาสารคามต้องระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำ 4 แห่ง ในอำเภอเมือง อำเภอโกสุมพิสัย อำเภอวาปีปทุม และอำเภอแกดำ เพื่อเตรียมรองรับฝนที่ยังตกมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนน้ำจากจังหวัดชัยภูมิและเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ที่ไหลมาสมทบ ในลำน้ำชียังคงเพิ่มสูงขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดมหาสารคาม ต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในที่ลุ่มริมแม่น้ำชี เตรียมพร้อมอพยพ

วันนี้ (12 พ.ค.2568) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลา พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9