Home
|
วิธี เล่น การ พนัน ออนไลน์ฝาก 50 รับ 250 pg

เช้าวันที่ 22 ม.ค.2567 นายกรัฐมนตรีบินลงไป จ.ระนอง

วิธี เล่น การ พนัน ออนไลน์ฝาก 50 รับ 250 pg

วันนี้ (15 พ.ย.2565) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รายงานผลการประชุมคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ป

วันนี้ (25 ต.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า ยันตระ แห่งสุญญตาราม มีลูกศิษย์โพสต์ข้อความถึงคนที่ปล่อยคลิปว่าขอให้เข้ามา "กราบขอขมา" กับอดีตพระยันตระ ก

วันที่ 25 เม.ย.2568 ที่ผ่านมา นายสมบูรณ์ คำแหง ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ได้เข้าร่วมให้ความเห็นต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ที่ได้เชิญนักวิชาการด้านกฎหมาย ภาคประชาสังคม และผู้แทนจากสำนักงานเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งมีการให้ข้อมูลและบทสนทนาแลกเปลี่ยนระหว่างกันอย่างน่าสนใจ อันเป็นไปด้วยบรรยากาศที่ดี และมีการนำเสนอกันอย่างตรงไปตรงมา ทำให้เห็นถึงข้อสังเกตและเหตุผลสำคัญ อันทำให้เห็นถึงความไม่จำเป็นต่อการมีกฎหมายเขตพัฒนาพิเศษ ที่ไม่ได้วิเคราะห์กันเพียงร่างกฎหมายระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ หรือ SEC เท่านั้น แต่รวมไปถึงได้วิเคราะห์กฎหมาย EEC ไปพร้อมกันด้วย ดังนี้ 1.ทุกคนยอมรับว่า ร่างกฎหมายระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ ที่มีอยู่ทั้ง 4 ฉบับในขณะนี้ เนื้อหาส่วนใหญ่เหมือนกัน อาจจะมีความแตกต่างกันบ้างเล็กน้อยในรายละเอียด และจำนวนหมวดและมาตรา ซึ่งร่างกฎหมายทั้งหมดนี้ลอกมาจากพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2561 หรือ ที่เรียกว่ากฎหมาย EEC 2.ทุกคนยอมรับว่า พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2561 (EEC) เป็นกฎหมายที่เกิดขึ้นในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือในยุคคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) ที่มีการใช้อำนาจพิเศษ หรือ ม.44 ซึ่งเป็นยาวิเศษของรัฐบาลในยุคนั้น นั่นหมายความว่า ประชาชนแทบจะไม่สามารถหรือไม่กล้าออกมาวิพากษ์วิจารณ์ คัดค้าน หรือเห็นต่างกับกฎหมาย EEC ได้ จนทำให้กฎหมายฉบับนี้ผ่านมาได้แบบง่ายดาย โดยไม่มีส่วนร่วมจากประชาชนแม้แต่น้อย 3.ปัจจุบัน พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2561 บังคับใช้มาแล้วเป็นปีที่ 7 ซึ่งในรัฐธรรมนูญพ.ศ.2560 มาตรา 77 กำหนดให้มีการประเมินผลสัมฤทธิ์การใช้กฎหมายเมื่อผ่านเวลาไปแล้ว 5 ปี ว่า กฎหมายดังกล่าวมีผลกระทบกับประชาชนอย่างไรบ้าง เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไข ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนว่ากฎหมาย EEC มีปัญหาอย่างมากในเรื่องการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมลและมลพิษในพื้นที่ ร่วมถึงการดูแลคุณภาพชีวิตและการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากกิจการของผู้ประกอบการ 4.การลอกกฎหมาย EEC ของพรรคการเมืองและของรัฐบาล มาทำเป็นร่างพระราชบัญญัติระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ทั้ง 4 ฉบับ (SEC) กำลังนำกฎหมายที่ล้มเหลวจากภาคตะวันออก มาใช้ในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคการเมืองและรัฐบาลไม่ควรกระทำ หรือหากจะยืนยันที่จะใช้แนวของกฎหมายดังกล่าว ก็จัดให้มีการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย EEC เสียก่อน 5.กฎหมาย EEC เกิดขึ้นในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมใหญ่ของประเทศ ที่มีการดำเนินงานโดยการนิคมอุตสาหกรรมและการท่าเวิธี เล่น การ พนัน ออนไลน์ฝาก 50 รับ 250 pgรือแห่งประเทศไทยอยู่ก่อนแล้ว ทั้งประชาชนในพื้นที่ต้องรับสภาพกับการมีกฎหมาย EEC ที่รัฐบาลเพิ่งมาสร้างอำนาจพิเศษ เพื่อจัดการกับความผิดพลาดหรือต้องการใช้อำนาจในทางลัดเพื่อดำเนินการบางอย่าง จึงเป็นสภาวะที่ประชาชนถูกมัดมือชก เพราะไม่รู้ว่าจะนำไปสู่ผลดีและผลเสียต่อการมีกฎหมายฉบับนี้อย่างไร ในขณะที่ภาคใต้ ในพื้นที่ที่รัฐบาลจะนำกฎหมายดังกล่าวมาใช้เบื้องต้น 4 จังหวัด (ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช) ไม่ได้เป็นพื้นที่หรือเขตนิคมอุตสาหกรรมมาก่อน หากแต่เป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม แหล่งท่องเที่ยว และพื้นที่ทำกินทั้งด้านการเกษตรและการประมง จึงเป็นสิ่งที่จะต้องแลกไปกับนโยบายการพัฒนาดังกล่าว ซึ่งทั้ง 2 พื้นที่ดังกล่าวนั้นมีบริบทที่แตกต่างกันสุดขั้ว 6.มาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ยังกำหนดไว้ในเชิงหลักการว่า “รัฐพึงจัดให้มีกฎหมายเท่าที่จำเป็น เพื่อไม่ให้เป็นภาระกับประชาชน จึงมีข้อสังเกตว่าการสร้างกฎหมายพิเศษเพื่อคนพิเศษ เช่น กฎหมาย EEC และ SEC มีความจำเป็นจริงหรือไม่ ทั้งที่มีพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุนมาแล้วตั้งแต่ พ.ศ.2520 และมีการปรับปรุงเรื่อยมาหลายครั้งจนถึงปัจจุบันอยู่แล้ว อันเป็นการสร้างมาตรการส่งเสริมการลงทุนต่าง ๆ ให้ผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างชาติมากมาย รวมไปถึงการมีองค์การที่ดำเนินการด้านส่งเสริมเขตอุตสาหกรรมอยู่แล้วอย่าง กนอ. หรือการนิคมอุตสาหกรรม ที่สามารถทำหน้าที่ตามความหมายของกฎหมาย EEC และ SEC ได้ ดังนั้นการมีกฎหมายพิเศษเพิ่มขึ้นมาอีกมีความจำเป็นจริงหรือไม่ อย่างไร หรือเพราะต้องการอาศัยกฎหมายดังกล่าวไปเพื่อสิ่งใครหรือไม่ 7.มีการออกตัวของเจ้าหน้าที่ระดับผู้บริหารของสำนักงาน EEC ในเวทีแห่งหนึ่งว่า แม้จะมีอำนาจพิเศษอย่างมากตามที่กฎหมายระบุไว้ แต่ในความเป็นจริงแล้วในทางปฏิบัติ แทบจะทำตามอำนาจดังกล่าวนั้นไม่ได้ เพราะยังต้องคำนึงถึงความเป็นจริงของระบบระเบียบราชการไทย ที่ไม่สามารถทำอะไรได้ตามที่ต้องการได้ทั้งหมด นั่นหมายความว่า การระบุอำนาจล้นฟ้าของคณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษอาจจะไม่สามารถทำได้ตามนั้นจริง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นแล้ว จะมีความจำเป็นอะไรที่จะต้องมีกฎหมายที่สร้างอำนาจพิเศษจนเกินจริงอย่าง EEC และ SEC 8.รัฐบาล และพรรคการเมือง ไม่ควรอ้างความชอบธรรมว่า ร่างกฎหมาย SEC เป็นการเสนอกฎหมาย ที่เคยมีอยู่แล้วจากภาคตะวันออก ด้วยเพราะเหตุปัจจัยและบริบททางการเมืองที่แตกต่างกันในยุคเผด็จการ (คสช.) กับยุคปัจจุบันที่มีความเป็นประชาธิปไตยมากกว่า ด้วยลักษณะของกฎหมายดังกล่าว มีการสถาปนาอำนาจพิเศษเพิ่ม หรือซ้อนเข้ามาทับกับอำนาจรัฐบาล ที่มีองค์ประกอบของกลุ่มทุนใหญ่ซ่อนอยู่ในกลไกการบริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษที่จะมีอำนาจเทียบเท่าอำนาจสูงสุด ในการบริหารราชการแผ่นดินแบบแนบเนียน อันเป็นกลุ่มคนพิเศษที่ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชนแต่อย่างใด 9.ร่างกฎหมายระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ ทั้ง 4 ฉบับ อาจเข้าข่ายไม่สอดคล้องและผิดรัฐธรรมนูญในหลายมาตรา ทั้งมิติด้านเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มิติด้านสิทธิชุมชน สิทธิมนุษยชน สิทธิการพัฒนา สิทธิทางวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการสร้างความเหลื่อมล้ำในการบังคับใช้กฎหมายระหว่างพลเมืองไทยกับผู้ประกอบการ (ต่างชาติ) นอกจากนี้ นายสมบูรณ์ยังเสนอทางออกต่อเรื่องนี้แบบด่วน ๆ ในเบื้องต้น คือ 1.ประชาชนไทย กลุ่มองค์กรเครือข่ายองค์กรทางสังคม นักกฎหมาย นักวิชาการ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา สื่อมวลชน และอื่น ๆ ควรจัดให้มีการศึกษา ชำแหละให้เห็นถึงข้อดีข้อเสียของร่างกฎหมายระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ ที่จะทำให้ได้ย้อนกลับไปดูต้นตอของกฎหมายฉบับนี้ (EEC) ไปพร้อมกันโดยอัตโนมัติ 2.รัฐบาลและพรรคการเมืองต้องทบทวนแนวคิด แนวนโยบายที่จะสร้างกฎหมายพิเศษเพื่อคนพิเศษ โดยต้องยึดหลักการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่จะต้องคำนึงถึงสิทธิความเท่าเทียมของพลเมือง ที่ต้องไม่ละเลยผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม บนพื้นฐานของกฎหมายที่เท่าเทียมกันระหว่างพลเมืองกับผู้ประกอบการ ด้วยการยุติการผลักดันร่างกฎหมายระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ หรือ SEC พร้อมกับการศึกษาผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย EEC ที่หากพบว่าเป็นภาระกับประชาชนก็จะต้องยกเลิกการใช้กฎหมายดังกล่าว อ่านข่าว : “กกต.” รณรงค์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งเทศบาล 11 พ.ค.นี้

วันนี้ (27 ก.พ.2564) นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์ภาพและข้อความ

วันที่ 25 เม.ย.2568 ที่ผ่านมา นายสมบูรณ์ คำแหง ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ไ

วันนี้ (28 ธ.ค.2564) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ก่อนการประชุม ครม. รัฐมน

วันที่ 25 เม.ย.2568 ที่ผ่านมา นายสมบูรณ์ คำแหง ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ได้เข้าร่วมให้ความเห็นต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ที่ได้เชิญนักวิชาการด้านกฎหมาย ภาคประชาสังคม และผู้แทนจากสำนักงานเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งมีการให้ข้อมูลและบทสนทนาแลกเปลี่ยนระหว่างกันอย่างน่าสนใจ อันเป็นไปด้วยบรรยากาศที่ดี และมีการนำเสนอกันอย่างตรงไปตรงมา ทำให้เห็นถึงข้อสังเกตและเหตุผลสำคัญ อันทำให้เห็นถึงความไม่จำเป็นต่อการมีกฎหมายเขตพัฒนาพิเศษ ที่ไม่ได้วิเคราะห์กันเพียงร่างกฎหมายระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ หรือ SEC เท่านั้น แต่รวมไปถึงได้วิเคราะห์กฎหมาย EEC ไปพร้อมกันด้วย ดังนี้ 1.ทุกคนยอมรับว่า ร่างกฎหมายระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ ที่มีอยู่ทั้ง 4 ฉบับในขณะนี้ เนื้อหาส่วนใหญ่เหมือนกัน อาจจะมีความแตกต่างกันบ้างเล็กน้อยในรายละเอียด และจำนวนหมวดและมาตรา ซึ่งร่างกฎหมายทั้งหมดนี้ลอกมาจากพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2561 หรือ ที่เรียกว่ากฎหมาย EEC 2.ทุกคนยอมรับว่า พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2561 (EEC) เป็นกฎหมายที่เกิดขึ้นในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือในยุคคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) ที่มีการใช้อำนาจพิเศษ หรือ ม.44 ซึ่งเป็นยาวิเศษของรัฐบาลในยุคนั้น นั่นหมายความว่า ประชาชนแทบจะไม่สามารถหรือไม่กล้าออกมาวิพากษ์วิจารณ์ คัดค้าน หรือเห็นต่างกับกฎหมาย EEC ได้ จนทำให้กฎหมายฉบับนี้ผ่านมาได้แบบง่ายดาย โดยไม่มีส่วนร่วมจากประชาชนแม้แต่น้อย 3.ปัจจุบัน พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2561 บังคับใช้มาแล้วเป็นปีที่ 7 ซึ่งในรัฐธรรมนูญพ.ศ.2560 มาตรา 77 กำหนดให้มีการประเมินผลสัมฤทธิ์การใช้กฎหมายเมื่อผ่านเวลาไปแล้ว 5 ปี ว่า กฎหมายดังกล่าวมีผลกระทบกับประชาชนอย่างไรบ้าง เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไข ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนว่ากฎหมาย EEC มีปัญหาอย่างมากในเรื่องการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมลและมลพิษในพื้นที่ ร่วมถึงการดูแลคุณภาพชีวิตและการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากกิจการของผู้ประกอบการ 4.การลอกกฎหมาย EEC ของพรรคการเมืองและของรัฐบาล มาทำเป็นร่างพระราชบัญญัติระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ทั้ง 4 ฉบับ (SEC) กำลังนำกฎหมายที่ล้มเหลวจากภาคตะวันออก มาใช้ในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคการเมืองและรัฐบาลไม่ควรกระทำ หรือหากจะยืนยันที่จะใช้แนวของกฎหมายดังกล่าว ก็จัดให้มีการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย EEC เสียก่อน 5.กฎหมาย EEC เกิดขึ้นในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมใหญ่ของประเทศ ที่มีการดำเนินงานโดยการนิคมอุตสาหกรรมและการท่าเวิธี เล่น การ พนัน ออนไลน์ฝาก 50 รับ 250 pgรือแห่งประเทศไทยอยู่ก่อนแล้ว ทั้งประชาชนในพื้นที่ต้องรับสภาพกับการมีกฎหมาย EEC ที่รัฐบาลเพิ่งมาสร้างอำนาจพิเศษ เพื่อจัดการกับความผิดพลาดหรือต้องการใช้อำนาจในทางลัดเพื่อดำเนินการบางอย่าง จึงเป็นสภาวะที่ประชาชนถูกมัดมือชก เพราะไม่รู้ว่าจะนำไปสู่ผลดีและผลเสียต่อการมีกฎหมายฉบับนี้อย่างไร ในขณะที่ภาคใต้ ในพื้นที่ที่รัฐบาลจะนำกฎหมายดังกล่าวมาใช้เบื้องต้น 4 จังหวัด (ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช) ไม่ได้เป็นพื้นที่หรือเขตนิคมอุตสาหกรรมมาก่อน หากแต่เป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม แหล่งท่องเที่ยว และพื้นที่ทำกินทั้งด้านการเกษตรและการประมง จึงเป็นสิ่งที่จะต้องแลกไปกับนโยบายการพัฒนาดังกล่าว ซึ่งทั้ง 2 พื้นที่ดังกล่าวนั้นมีบริบทที่แตกต่างกันสุดขั้ว 6.มาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ยังกำหนดไว้ในเชิงหลักการว่า “รัฐพึงจัดให้มีกฎหมายเท่าที่จำเป็น เพื่อไม่ให้เป็นภาระกับประชาชน จึงมีข้อสังเกตว่าการสร้างกฎหมายพิเศษเพื่อคนพิเศษ เช่น กฎหมาย EEC และ SEC มีความจำเป็นจริงหรือไม่ ทั้งที่มีพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุนมาแล้วตั้งแต่ พ.ศ.2520 และมีการปรับปรุงเรื่อยมาหลายครั้งจนถึงปัจจุบันอยู่แล้ว อันเป็นการสร้างมาตรการส่งเสริมการลงทุนต่าง ๆ ให้ผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างชาติมากมาย รวมไปถึงการมีองค์การที่ดำเนินการด้านส่งเสริมเขตอุตสาหกรรมอยู่แล้วอย่าง กนอ. หรือการนิคมอุตสาหกรรม ที่สามารถทำหน้าที่ตามความหมายของกฎหมาย EEC และ SEC ได้ ดังนั้นการมีกฎหมายพิเศษเพิ่มขึ้นมาอีกมีความจำเป็นจริงหรือไม่ อย่างไร หรือเพราะต้องการอาศัยกฎหมายดังกล่าวไปเพื่อสิ่งใครหรือไม่ 7.มีการออกตัวของเจ้าหน้าที่ระดับผู้บริหารของสำนักงาน EEC ในเวทีแห่งหนึ่งว่า แม้จะมีอำนาจพิเศษอย่างมากตามที่กฎหมายระบุไว้ แต่ในความเป็นจริงแล้วในทางปฏิบัติ แทบจะทำตามอำนาจดังกล่าวนั้นไม่ได้ เพราะยังต้องคำนึงถึงความเป็นจริงของระบบระเบียบราชการไทย ที่ไม่สามารถทำอะไรได้ตามที่ต้องการได้ทั้งหมด นั่นหมายความว่า การระบุอำนาจล้นฟ้าของคณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษอาจจะไม่สามารถทำได้ตามนั้นจริง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นแล้ว จะมีความจำเป็นอะไรที่จะต้องมีกฎหมายที่สร้างอำนาจพิเศษจนเกินจริงอย่าง EEC และ SEC 8.รัฐบาล และพรรคการเมือง ไม่ควรอ้างความชอบธรรมว่า ร่างกฎหมาย SEC เป็นการเสนอกฎหมาย ที่เคยมีอยู่แล้วจากภาคตะวันออก ด้วยเพราะเหตุปัจจัยและบริบททางการเมืองที่แตกต่างกันในยุคเผด็จการ (คสช.) กับยุคปัจจุบันที่มีความเป็นประชาธิปไตยมากกว่า ด้วยลักษณะของกฎหมายดังกล่าว มีการสถาปนาอำนาจพิเศษเพิ่ม หรือซ้อนเข้ามาทับกับอำนาจรัฐบาล ที่มีองค์ประกอบของกลุ่มทุนใหญ่ซ่อนอยู่ในกลไกการบริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษที่จะมีอำนาจเทียบเท่าอำนาจสูงสุด ในการบริหารราชการแผ่นดินแบบแนบเนียน อันเป็นกลุ่มคนพิเศษที่ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชนแต่อย่างใด 9.ร่างกฎหมายระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ ทั้ง 4 ฉบับ อาจเข้าข่ายไม่สอดคล้องและผิดรัฐธรรมนูญในหลายมาตรา ทั้งมิติด้านเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มิติด้านสิทธิชุมชน สิทธิมนุษยชน สิทธิการพัฒนา สิทธิทางวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการสร้างความเหลื่อมล้ำในการบังคับใช้กฎหมายระหว่างพลเมืองไทยกับผู้ประกอบการ (ต่างชาติ) นอกจากนี้ นายสมบูรณ์ยังเสนอทางออกต่อเรื่องนี้แบบด่วน ๆ ในเบื้องต้น คือ 1.ประชาชนไทย กลุ่มองค์กรเครือข่ายองค์กรทางสังคม นักกฎหมาย นักวิชาการ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา สื่อมวลชน และอื่น ๆ ควรจัดให้มีการศึกษา ชำแหละให้เห็นถึงข้อดีข้อเสียของร่างกฎหมายระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ ที่จะทำให้ได้ย้อนกลับไปดูต้นตอของกฎหมายฉบับนี้ (EEC) ไปพร้อมกันโดยอัตโนมัติ 2.รัฐบาลและพรรคการเมืองต้องทบทวนแนวคิด แนวนโยบายที่จะสร้างกฎหมายพิเศษเพื่อคนพิเศษ โดยต้องยึดหลักการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่จะต้องคำนึงถึงสิทธิความเท่าเทียมของพลเมือง ที่ต้องไม่ละเลยผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม บนพื้นฐานของกฎหมายที่เท่าเทียมกันระหว่างพลเมืองกับผู้ประกอบการ ด้วยการยุติการผลักดันร่างกฎหมายระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ หรือ SEC พร้อมกับการศึกษาผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย EEC ที่หากพบว่าเป็นภาระกับประชาชนก็จะต้องยกเลิกการใช้กฎหมายดังกล่าว อ่านข่าว : “กกต.” รณรงค์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งเทศบาล 11 พ.ค.นี้

วันนี้ (18 ต.ค.2566) นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวสถานการณ