UID: 40770

รมต.สำนักนายกฯให้เจ้าคณะภาค 8 ตรวจสอบวินัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าหารือเจ้าคณะภาค 4-7 ธรร

นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่ว

รมต.สำนักนายกฯให้เจ้าคณะภาค 8 ตรวจสอบวินัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าหารือเจ้าคณะภาค 4-7 ธรรมยุต โดยมีความเห็นส่งเรื่องให้เจ้าคณะภาค 8 อุดรธานีตรวจสอบพฤติการณ์ของเจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ป่าสามแยก จังหวัดกีฬาเอ็กตรีมเพชรบูรณ์ ว่าทำผิดวินัยของสงฆ์หรือไม่ รมต.สำนักนายกฯให้เจ้าคณะภาค 8 ตรวจสอบวินัย นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเข้าพบสมเด็จพระพรหมเมธีเจ้าคณะภาค 4-7 ธรรมยุต เพื่อหาแนวทางดำเนินการกับพระเกษม อาจิณณสีโล เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ป่าสามแยก บ้านห้วยยางทอง ตำบลวังกวาง อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยข้อสรุปของการหารือวันนี้ พระพรหมเมธี ได้ลงนามและรวบรวมรายงานเกี่ยวกับพฤติการณ์ของพระเกษม ส่งกลับไปยังคณะภาค ฝ่ายปกครองคณะสงฆ์จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อพิจารณาและประเมินว่าพฤติการณ์ของพระเกษมผิดตามข้อวินัยของพระสงฆ์หรือไม่ และส่งต่อให้กับเจ้าคณะภาค 8 จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นต้นสังกัดของพระเกษมได้พิจารณาบทลงโทษต่อไป รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การดำเนินการกับพระเกษมจะถึงขั้นสูงสุด หรือการจับสึกหรือไม่นั้นต้องให้เป็นไปตามลำดับขั้นตอนก่อน ทั้งนี้ แม้พฤติการณ์ของพระเกษมจะเล็กน้อย แต่พบว่ามีการกระทำเช่นนี้อยู่เป็นประจำ และได้มีการตักเตือนมาแล้วหลายครั้ง จนมีคำสั่งให้ออกจากพื้นที่ตั้งแต่ปี 2551 แต่พระเกษมไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่กระทบต่อจิตใจของพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างมาก ดังนั้น จะเร่งดำเนินการหาทางออกเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด พร้อมยืนยัน ไม่ว่าจะเป็นพระสงฆ์หรือฆราวาสล้วนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเข้าพบสมเด็จพระพรหมเมธีเจ้าคณะภาค 4-7 ธรรมยุต เพื่อหาแนวทางดำเนินการกับพระเกษม อาจิณณสีโล เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ป่าสามแยก บ้านห้วยยางทอง ตำบลวังกวาง อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยข้อสรุปของการหารือวันนี้ พระพรหมเมธี ได้ลงนามและรวบรวมรายงานเกี่ยวกับพฤติการณ์ของพระเกษม ส่งกลับไปยังคณะภาค ฝ่ายปกครองคณะสงฆ์จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อพิจารณาและประเมินว่าพฤติการณ์ของพระเกษมผิดตามข้อวินัยของพระสงฆ์หรือไม่ และส่งต่อให้กับเจ้าคณะภาค 8 จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นต้นสังกัดของพระเกษมได้พิจารณาบทลงโทษต่อไป รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การดำเนินการกับพระเกษมจะถึงขั้นสูงสุด หรือการจับสึกหรือไม่นั้นต้องให้เป็นไปตามลำดับขั้นตอนก่อน ทั้งนี้ แม้พฤติการณ์ของพระเกษมจะเล็กน้อย แต่พบว่ามีการกระทำเช่นนี้อยู่เป็นประจำ และได้มีการตักเตือนมาแล้วหลายครั้ง จนมีคำสั่งให้ออกจากพื้นที่ตั้งแต่ปี 2551 แต่พระเกษมไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่กระทบต่อจิตใจของพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างมาก ดังนั้น จะเร่งดำเนินการหาทางออกเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด พร้อมยืนยัน ไม่ว่าจะเป็นพระสงฆ์หรือฆราวาสล้วนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย

วันนี้ (27 ก.ค.2565) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายวิศณุ ทรัพย์สมพล