วันนี้ (3 ส.ค.2565) ศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศา

ความคืบหน้าคดีนายหมัดดล บินสัน ลูกจ้างบริษัทรับเหมางานของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.นาหม่อม จ.สงขลา ถูกฆ่าฝังดิน มีร่องรอยถูกทุบศีรษะ โดยมีเถาวัลย์มัดมือและเท้า ในป่าพื้นที่บ้านคลองปอม ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่
วันนี้ (26 ส.ค.2565) นายนราพัฒน์ แก้วทอง และนายไชยยศ จิรเมธากร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็น ส.ส. โดยมีผลวันนี้ ส่งผลให้นายเจือ ราชสีห์ ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 29 และนาง
วันนี้ (16 พ.ค.2565) ที่องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือ ไทยพีบีเอส เวลา 16.30 น. ไทยพีบีเอส จัดมหกรรม “ปลุกกรุงเทพฯ เปลี่ยนเมืองใหญ่ เลือกตั้งผู้ว่าฯ 65” ด้วยการประชันวิสัยทัศน์ ของผู้สมัครชิงตำแหน่ง "ผู้ว่าฯ กทม.” มีผู้สมัครผู้ว่าฯ เข้าร่วม 5 คน คือ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครหมายเลข 1 นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครหมายเลข 3 นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครหมายเลข 4 น.ส.รสนา โตสิตระกูล ผู้สมัครหมายเลข 7 น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครหมายเลข 11 คำถามแรก ถามว่า วันที่ 22 พ.ค.2569 กรุงเทพฯ ตอนนั้น จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร? น.ส.รสนา ผู้สมัครหมายเลข 7 กล่าวว่า สโลแกนของดิฉันคือต้องหยุดโกง กรุงเทพฯ เปลี่ยนแน่ หวังว่าใน 4 ปี ข้างหน้าจะเห็นว่า กรุงเทพฯ จะหยุดโกงจริง ๆ และมีทรัพยากรมากพอที่จะจัดสวัสดิการเพื่อคุณภาพชีวิต ของทุกภาคส่วน หวังว่าคนเล็กคนน้อยจะมีพื้นที่ในการทำกิน และสามารถยืนได้อย่างมีศักดิ์ศรี ลดหนี้ของตัวเอง ใน 4 ปี ข้างหน้าเราจะสามารถแก้ปัญหาเgclub โบนัส 100รื่องระบบรางเป็นขนส่งมวลชนมีราคาที่ทุกคนสามารถขึ้นได้ มีเมืองหลวงที่เป็นบ้านสำหรับทุกคน ดิฉันเองเป็นตัวแทนของประชาชน สิ่งที่จะทำคือขอให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ในการแก้ปัญหาของ กทม. เพราะ กทม.มีปัญหาหลายอย่างที่ซับซ้อนมาก เราต้องการพลังของชุมชน พลังของภาคประชาสังคม ที่ทำงานช่วยเหลือรัฐมาโดยตลอด ช่วยทำให้กรุงเทพฯ เป็นอย่างที่เราต้องการ ด้าน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครหมายเลข 1 กล่าวว่า หลังจาก 4 ปี ตนและ ส.ก.จากพรรคก้าวไกล จะแก้กติกา ข้อบัญญัติ และระเบียบต่าง ๆ ที่ไม่เป็นธรรม ทั้งค่าขยะ ภาษีที่ดินที่คนตัวใหญ่ไม่หลบเลี่ยง ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ยกตัวอย่างภาษีป้าย เมื่อจัดเก็บรายได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย สวัสดิการต่าง ๆ ก็จะเกิดขึ้น ทั้งสวัสดิการผู้สูงอายุ เด็กแรกเกิด-เด็กเล็ก โดยอยากเห็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ จะมีนโยบายที่ยกระดับขึ้นไปอีก รวมทั้งไม่มีผู้ว่าฯ คนใหม่แก้กติกากลับไปเหมือนเดิมอีก เพื่อให้กรุงเทพฯ ไม่เผชิญปัญหาเดิม ๆ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ไม่อยากให้ผู้ว่าฯ ตอบเพียงงบฯ จำกัด ติดข้อบัญญัติ แต่ไม่เคยใช้สภากรุงเทพมหานครในการแก้ปัญหา กลับใช้เหตุผลเดิม ๆ ตอบประชาชนแทน ด้าน น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครหมายเลข 11 กล่าวว่า การจะพยากรณ์ได้ ต้องดูย้อนหลัง การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ทุกครั้ง นโยบายยังเหมือนเดิม ปัญหาต่าง ๆ ยังไม่ได้รับการแก้ไข มันต้องอยู่ที่ Mindset ของผู้นำ ที่จะเข้ามาบริหารเมือง สิ่งที่จะเร่งดำเนินการคือ คนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง คนที่มีอัตลักษณ์ที่แตกต่าง บริการสาธารณะจะต้องเข้าถึงได้ อีก 4 ปีข้างหน้า ต้องมีนโยบายใหม่ ๆ ปัญหาใหม่ ๆ และค่อยเป็นนโยบายของผู้ว่าฯ คนต่อไป มีตัวแทนคนพิการเป็นรองผู้ว่าฯ กทม. มีผู้หญิง คนหลากหลายทางเพศเข้ามาในคณะรองผู้ว่าฯ กระจายความเดือดร้อนคนที่อยู่ข้างหลังเอามาเป็นหลัก และอีก 4 ปีข้างหน้า จะไม่เหลือปัญหาของคนเหล่านี้ต่อไป นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครหมายเลข 3 กล่าวว่า ในอีก 4 ปีข้างหน้าต้องเป็นกรุงเทพฯ ที่ดีขึ้นในทุกด้านทั้งการจราจร สิ่งแวดล้อม และเท่าเทียมกันในทุกเขต การที่จะเป็นแบบนี้ ถ้าคิดแบบเดิม งบฯ แบบเดิม จะเป็นงานรูทีนที่ไม่พัฒนาไปได้เท่านั้น ส่วนวิธีการหาเงินเช่น การจัดการขยะที่เสียเงินปีละ 5-7 พันล้าน ไม่ได้อะไร ให้เอกชนทำได้ ใช้เงินถูกกว่า ใช้ศักยภาพของเมืองท่องเที่ยว เก็บภาษีซิติแท็กซ์ ซึ่งตั้งเป้าเก็บเงินได้ปีละ 3-5 พันล้าน ดังนั้น 4 ปีจะมีเงิน 3-4 หมื่นล้านลงมาพัฒนา รวมทั้งจะแก้ปัญหาการใช้งบที่กระจุกตัว แทนที่จะกระจายความเจริญไปใน 50 เขต นายสกลธียังกล่าวถึงอำนาจหน้าที่สมัยเป็นรองผู้ว่าฯ กทม.ว่า ไม่ค่อยมีอำนาจ ถ้าเป็นผู้ว่าฯ จะทำทุกอย่างให้เด็ดขาด โดยเฉพาะการทุจริตคอรัปชัน ขณะที่นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า 4 ปี ข้างหน้าที่กำลังจะหมดวาระ รอยย่นบนหน้าคงเยอะ งานเป็นผู้ว่าฯ กทม.เป็นงานหนัก ต้องมีความรู้ความสามารถ และใน 4 ปีข้างหน้า จะไม่มาพูดปัญหาเดิม 4 ปีข้างหน้า กทม.จะแข่งขันกับโตเกียว กับกรุงโซล กับ สิงคโปร์ 4 ปี ต่อให้มีรอยย่นเต็มหน้า ก็อยากมาให้พร้อมกับรอยยิ้ม ว่า เปลี่ยนกรุงเทพฯ เราทำได้จริง ๆ คนเรียกผมว่า The Disruptor นักเปลี่ยนแปลงแบบหักศอก ผู้ว่าฯต้องมีเสน่ห์พอสมควร มีลูกหนัก-เบา ผู้ว่าฯทะเลาะกับใครไม่ได้เลย เพราะคนที่เดือดร้อนคือประชาชน และหากใครคิดคอรัปชันโดนแน่ อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมรับความหลากหลาย คนทุกกลุ่ม-สภาพแวดล้อม อะไรหนักใจที่สุด? ถ้าได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. แนะพัฒนา "คนจนเมือง" มีที่อยู่อาศัย-มีงานทำ-คุณภาพชีวิตดีขึ้น ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ระบุต้องปลดล็อกตัวเอง ไม่ต้องทำเองทุกอย่าง ประสานทุกทางให้ได้
วันที่ 25 ม.ค.2564 นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (เลขาธิการ กช.) กล่าว
เจ้าหน้าที่เร่งอพยพประชาชนหนีน้ำท่วม จ.อ่างทอง เจ้าหน้าที่เร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ หลังน้ำทะลักค
วันนี้ (16 พ.ค.2565) ที่องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือ ไทยพีบีเอส เวลา 16.30
วันนี้ (16 พ.ค.2565) ที่องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือ ไทยพีบีเอส เวลา 16.30 น. ไทยพีบีเอส จัดมหกรรม “ปลุกกรุงเทพฯ เปลี่ยนเมืองใหญ่ เลือกตั้งผู้ว่าฯ 65” ด้วยการประชันวิสัยทัศน์ ของผู้สมัครชิงตำแหน่ง "ผู้ว่าฯ กทม.” มีผู้สมัครผู้ว่าฯ เข้าร่วม 5 คน คือ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครหมายเลข 1 นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครหมายเลข 3 นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครหมายเลข 4 น.ส.รสนา โตสิตระกูล ผู้สมัครหมายเลข 7 น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครหมายเลข 11 คำถามแรก ถามว่า วันที่ 22 พ.ค.2569 กรุงเทพฯ ตอนนั้น จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร? น.ส.รสนา ผู้สมัครหมายเลข 7 กล่าวว่า สโลแกนของดิฉันคือต้องหยุดโกง กรุงเทพฯ เปลี่ยนแน่ หวังว่าใน 4 ปี ข้างหน้าจะเห็นว่า กรุงเทพฯ จะหยุดโกงจริง ๆ และมีทรัพยากรมากพอที่จะจัดสวัสดิการเพื่อคุณภาพชีวิต ของทุกภาคส่วน หวังว่าคนเล็กคนน้อยจะมีพื้นที่ในการทำกิน และสามารถยืนได้อย่างมีศักดิ์ศรี ลดหนี้ของตัวเอง ใน 4 ปี ข้างหน้าเราจะสามารถแก้ปัญหาเgclub โบนัส 100รื่องระบบรางเป็นขนส่งมวลชนมีราคาที่ทุกคนสามารถขึ้นได้ มีเมืองหลวงที่เป็นบ้านสำหรับทุกคน ดิฉันเองเป็นตัวแทนของประชาชน สิ่งที่จะทำคือขอให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ในการแก้ปัญหาของ กทม. เพราะ กทม.มีปัญหาหลายอย่างที่ซับซ้อนมาก เราต้องการพลังของชุมชน พลังของภาคประชาสังคม ที่ทำงานช่วยเหลือรัฐมาโดยตลอด ช่วยทำให้กรุงเทพฯ เป็นอย่างที่เราต้องการ ด้าน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครหมายเลข 1 กล่าวว่า หลังจาก 4 ปี ตนและ ส.ก.จากพรรคก้าวไกล จะแก้กติกา ข้อบัญญัติ และระเบียบต่าง ๆ ที่ไม่เป็นธรรม ทั้งค่าขยะ ภาษีที่ดินที่คนตัวใหญ่ไม่หลบเลี่ยง ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ยกตัวอย่างภาษีป้าย เมื่อจัดเก็บรายได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย สวัสดิการต่าง ๆ ก็จะเกิดขึ้น ทั้งสวัสดิการผู้สูงอายุ เด็กแรกเกิด-เด็กเล็ก โดยอยากเห็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ จะมีนโยบายที่ยกระดับขึ้นไปอีก รวมทั้งไม่มีผู้ว่าฯ คนใหม่แก้กติกากลับไปเหมือนเดิมอีก เพื่อให้กรุงเทพฯ ไม่เผชิญปัญหาเดิม ๆ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ไม่อยากให้ผู้ว่าฯ ตอบเพียงงบฯ จำกัด ติดข้อบัญญัติ แต่ไม่เคยใช้สภากรุงเทพมหานครในการแก้ปัญหา กลับใช้เหตุผลเดิม ๆ ตอบประชาชนแทน ด้าน น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครหมายเลข 11 กล่าวว่า การจะพยากรณ์ได้ ต้องดูย้อนหลัง การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ทุกครั้ง นโยบายยังเหมือนเดิม ปัญหาต่าง ๆ ยังไม่ได้รับการแก้ไข มันต้องอยู่ที่ Mindset ของผู้นำ ที่จะเข้ามาบริหารเมือง สิ่งที่จะเร่งดำเนินการคือ คนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง คนที่มีอัตลักษณ์ที่แตกต่าง บริการสาธารณะจะต้องเข้าถึงได้ อีก 4 ปีข้างหน้า ต้องมีนโยบายใหม่ ๆ ปัญหาใหม่ ๆ และค่อยเป็นนโยบายของผู้ว่าฯ คนต่อไป มีตัวแทนคนพิการเป็นรองผู้ว่าฯ กทม. มีผู้หญิง คนหลากหลายทางเพศเข้ามาในคณะรองผู้ว่าฯ กระจายความเดือดร้อนคนที่อยู่ข้างหลังเอามาเป็นหลัก และอีก 4 ปีข้างหน้า จะไม่เหลือปัญหาของคนเหล่านี้ต่อไป นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครหมายเลข 3 กล่าวว่า ในอีก 4 ปีข้างหน้าต้องเป็นกรุงเทพฯ ที่ดีขึ้นในทุกด้านทั้งการจราจร สิ่งแวดล้อม และเท่าเทียมกันในทุกเขต การที่จะเป็นแบบนี้ ถ้าคิดแบบเดิม งบฯ แบบเดิม จะเป็นงานรูทีนที่ไม่พัฒนาไปได้เท่านั้น ส่วนวิธีการหาเงินเช่น การจัดการขยะที่เสียเงินปีละ 5-7 พันล้าน ไม่ได้อะไร ให้เอกชนทำได้ ใช้เงินถูกกว่า ใช้ศักยภาพของเมืองท่องเที่ยว เก็บภาษีซิติแท็กซ์ ซึ่งตั้งเป้าเก็บเงินได้ปีละ 3-5 พันล้าน ดังนั้น 4 ปีจะมีเงิน 3-4 หมื่นล้านลงมาพัฒนา รวมทั้งจะแก้ปัญหาการใช้งบที่กระจุกตัว แทนที่จะกระจายความเจริญไปใน 50 เขต นายสกลธียังกล่าวถึงอำนาจหน้าที่สมัยเป็นรองผู้ว่าฯ กทม.ว่า ไม่ค่อยมีอำนาจ ถ้าเป็นผู้ว่าฯ จะทำทุกอย่างให้เด็ดขาด โดยเฉพาะการทุจริตคอรัปชัน ขณะที่นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า 4 ปี ข้างหน้าที่กำลังจะหมดวาระ รอยย่นบนหน้าคงเยอะ งานเป็นผู้ว่าฯ กทม.เป็นงานหนัก ต้องมีความรู้ความสามารถ และใน 4 ปีข้างหน้า จะไม่มาพูดปัญหาเดิม 4 ปีข้างหน้า กทม.จะแข่งขันกับโตเกียว กับกรุงโซล กับ สิงคโปร์ 4 ปี ต่อให้มีรอยย่นเต็มหน้า ก็อยากมาให้พร้อมกับรอยยิ้ม ว่า เปลี่ยนกรุงเทพฯ เราทำได้จริง ๆ คนเรียกผมว่า The Disruptor นักเปลี่ยนแปลงแบบหักศอก ผู้ว่าฯต้องมีเสน่ห์พอสมควร มีลูกหนัก-เบา ผู้ว่าฯทะเลาะกับใครไม่ได้เลย เพราะคนที่เดือดร้อนคือประชาชน และหากใครคิดคอรัปชันโดนแน่ อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมรับความหลากหลาย คนทุกกลุ่ม-สภาพแวดล้อม อะไรหนักใจที่สุด? ถ้าได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. แนะพัฒนา "คนจนเมือง" มีที่อยู่อาศัย-มีงานทำ-คุณภาพชีวิตดีขึ้น ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ระบุต้องปลดล็อกตัวเอง ไม่ต้องทำเองทุกอย่าง ประสานทุกทางให้ได้
วันนี้ (19 ม.ค.2565) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช ให้สัมภาษณ์หลังการแถลงข่าว CDC