"จิตติ" แจงร้านทองปิดสุดสัปดาห์นี้แค่ข่าวคลาดเคลื่อน

กระแสของภาพยนตร์เรื่องออปเพนไฮเมอร์ (Oppenheimer) ทำให้ชื่อของนักวิทยาศาสตร์ในยุค “ตื่บา คา ร่า laosbet66นวิทยาศาสตร์” ของสหรัฐอเมริกา กลายเป็นที่ถูกพูดถึงมากมาย ซึ่งในตอนนั้นนักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลกต่างหลั่งไ

ยังไม่พ้นวิกฤต “วิรดา วงศ์เทวัญ” นักร้องและนางเอกลิเกชื่อดัง น้องสาวของกุ้ง “สุธิราช วงศ์เทวัญ” ยังค

น้ำลำเซบาย จ.ยโสธร เอ่อล้นท่วมหมู่บ้าน สูง 50 เซนติเมตร ระดับน้ำลำเซบายช่วงที่ไหลผ่าน อ.ป่าติ้ว และ อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ชาวเกษตรกรเดือดร้อนต้องเก็บผลผลิตก่อนกำหนด ขณะที่

กระแสของภาพยนตร์เรื่องออปเพนไฮเมอร์ (Oppenheimer) ทำให้ชื่อของนักวิทยาศาสตร์ในยุค “ตื่บา คา ร่า laosbet66นวิทยาศาสตร์” ของสหรัฐอเมริกา กลายเป็นที่ถูกพูดถึงมากมาย ซึ่งในตอนนั้นนักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลกต่างหลั่งไหลเข้ามาในสหรัฐฯ จนกลายเป็นแหล่งสร้างผลงานด้านวิทยาศาสตร์ที่สำคัญของโลก นักวิทยาศาสตร์เหล่านี้เราอาจคุ้นชื่อพวกเขาเป็นอย่างดี เช่น จูเลียส รอเบิร์ต ออปเพนไฮเมอร์ ผู้ที่ชีวิตของเขาถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์เรื่องนี้ ตลอดไปจน แอลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เจ้าของทฤษฎีสัมพัทธภาพ เอนรีโก แฟร์มี และเออร์เนสต์ ลอว์เรนซ์ ผู้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาวิชานิวเคลียร์ฟิสิกส์ แต่หนึ่งในบุคคลสำคัญที่ฝากผลงานทางฟิสิกส์จนทำให้สหรัฐฯ กลายเป็นประเทศมหาอำนาจด้านวิทยาศาสตร์ ที่เราจะพูดถึงกันในบทความนี้ได้แก่ริชาร์ด ไฟน์แมน นักฟิสิกส์สายเลือดอเมริกันแท้ที่โด่งดังและมีผลงานมากมาย ตั้งแต่การเป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์โครงการแมนฮัตตัน การเป็นบุคคลสำคัญของสหรัฐฯ ในการผลักดันการศึกษานิวเคลียร์ฟิสิกส์ และภายหลังคือฟิสิกส์อนุภาค การเป็นหนึ่งในผู้ให้คำปรึกษากับองค์การนาซา และช่วยสอบสวนอุบัติเหตุกระสวยอวกาศแชลเลนเจอร์ ในปี 1968 แต่หนึ่งในบทบาทสำคัญของไฟน์แมน คือการเป็นอาจารย์ที่สถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย (แคลเทค) ที่ทำให้เขากลายเป็นอาจารย์คนโปรดของนักฟิสิกส์ทั่วสหรัฐฯ หรือทั่วโลก หนึ่งในหนังสือของไฟน์แมนที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดนอกเหนือจากบทความทางวิชาการ ได้แก่หนังสือชื่อ “Surely You're Joking, Mr. Feynman!” (ซึ่งแปลเป็นไทยได้ว่า “คุณกำลังล้อเล่นอยู่แน่ ๆ คุณไฟน์แมน”) ที่เขาเขียนขึ้นในปี 1985 เนื้อหาในเล่ม เขาได้เขียนประวัติเรื่องราวชีวิตของตัวเองผ่านมุมมองการศึกษาธรรมชาติ และได้พูดถึงเหตุการณ์สำคัญ ๆ หลากหลายเหตุการณ์โดยเฉพาะในตอนที่เขาทำงานในโครงการแมนฮัตตัน ซึ่งก็คือในช่วงที่ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ออปเพนไฮเมอร์ นอกจากการนำเสนอชีวิตส่วนตัวแล้วไฟน์แมนยังเขียนถึงความรักของเขาที่มีต่อวิชาฟิสิกส์และการศึกษาธรรมชาติด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ รวมถึงมีเนื้อหาจิกกัดสังคมและการเมืองสหรัฐฯ ว่ามีความย้อนแย้งในการสนับสนุนพัฒนาการด้านวิทยาศาสตร์อย่างไร รวมถึงมีเนื้อหาที่ฝากความหวังให้กับคนรุ่นใหม่ในการพัฒนาโลกให้เจริญก้าวหน้าขึ้นผ่านวิทยาศาสตร์ เนื้อหาดังกล่าวถูกเขียนขึ้นด้วยสำนวนแบบเป็นกันเอง ทีเล่นทีจริง เหมือนอาจารย์กำลังเล่าเรื่องราวและมุมมองโลกให้กับลูกศิษย์ได้ฟัง ซึ่งก็เป็นหนึ่งในบุคลิกความเจ้าคารมของไฟน์แมนตั้งแต่สมัยที่เขายังหนุ่ม แม้กระทั่งชื่อของหนังสือก็ยังมาจากบทสนทนาของเขากับสาวร้านกาแฟที่แปลกใจที่ไฟน์แมนสั่งชาร้อนคู่กับครีมและมะนาวพร้อมกัน แต่สิ่งที่แสบสันที่สุดของไฟแมน คือในบทที่ชื่อว่า “Cargo cult science” ที่ถอดบทมาจากสุนทรพจน์ของเขาในปี 1974 ที่พูดถึง “การก้มหน้าบูชาผลลัพธ์” ที่ไฟน์แมนเปรียบเปรยสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกวงการวิชาการว่าผู้คนต่างสนผลลัพธ์แต่ไม่สนกระบวนการ (ซึ่งเป็นแก่นของวิทยาศาสตร์) และพยายามสร้างเทคโนโลยีต่าง ๆ ขึ้นมาโดยหวังว่าสิ่งเหล่านั้นจะนำไปสู่การแก้ปัญหาที่ถูกต้อง แต่แท้จริงแล้วพวกเขาต่างแค่เลียนแบบสิ่งที่ไม่รู้เลยว่าพวกเขาทำสิ่งนั้นไปทำไม คำว่า “Cargo cult” ที่ไฟน์แมนหยิบมาเป็นชื่อของคำอธิบายปรากฏการณ์นี้นั้นก็มาจากการสังเกตพฤติกรรมของชาวเผ่ากลางเกาะที่ถูกใช้เป็นฐานทัพอากาศ ในช่วงสงครามพวกทหารมักจะนำเครื่องบินมาลงจอดพร้อมกับวิทยาการใหม่ ๆ แต่เมื่อสงครามจบแล้วพวกเหล่าชาวเผ่าก็ยังคาดหวังให้มีเครื่องบินมาลงจอดอยู่ พวกเขาจึงพยายามสร้างสนามบินจำลอง นำเอาไฟมาวางเป็นทางคล้ายไฟจากทางวิ่งของเครื่องบิน หรือสร้างหอสูงที่คล้ายกับหอวิทยุ แต่สุดท้ายสิ่งที่พวกเขาทำกลับไม่ได้นำพาพวกเขาไปไหนเลย เพราะพวกเขาสนใจแต่ “สินค้า (Cargo)” ที่พวกเขาได้รับ ไม่ใช่ “กระบวนการการผลิตเครื่องบิน” เท่ากับว่าหอคอยและทางวิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้นนั้นสูญเปล่าและไร้ประโยชน์ แนวคิดดังกล่าวส่งผลต่อแนวคิดในการวางนโยบายด้านวิทยาศาสตร์เป็นอย่างมาก ซึ่งบรรดานักฟิสิกส์ในยุคนั้นก็ต่างอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นไปในทำนองเดียวกัน เอนรีโก แฟร์มีเอง ยังเคยกล่าวว่า “งานวิจัยวิทยาศาสตร์อาจไม่ได้ปกป้องประเทศนี้ (สหรัฐฯ) แต่งานวิจัยวิทยาศาสตร์จะทำให้ประเทศควรค่าแก่การปกป้องตะหาก” “Surely You're Joking, Mr. Feynman!” จึงกลายเป็นหนังสือที่หลายสำนักยกย่องในฐานะอิทธิพลสำคัญต่อมุมมองของคน ให้เห็นคุณค่าของงานวิจัยและวิทยาศาสตร์ในแบบที่มันควรจะเป็น --------------------------“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech

วันนี้ (1 มิ.ย.2564) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ชี้แจงการอภิปรายของนายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.พรรคเพื่อไทย กรณีที่ระบุว่า รัฐบาลไม่ใส่ใจเรื่องวัคซีน เงินจำนวน 4,000 ล้านบาทยังไม่ไ