วันนี้ (23 ต.ค.2565) ทีมข่าวไทยพีบีเอสออนไลน์ ลงพื

ส่งผลให้การขนส่งสินค้าหยุดชะงักลง และมีเสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้า ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการสู้รบในช่วง 5 วันที่ผ่านมา ไม่สามารถนำเข้าและส่งออกสินค้าได้ตามปกติ จึงทำให้ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะสินค้าสด
วันนี้ (20 ธ.ค.2566) ว่าที่ ร.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ ว่าที่เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่เพจวันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร ออกมาแฉว่าแม่บ้านที่ถ่ายรูปห้องพัก น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม.พรรคก้าวไกล ถูกกดดัน
เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2567 กระทรวงสาธารณสุขบุรุนดี เปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อเอ็มพอกซ์หรือฝีดาษลิงแล้ว 171 คน นับตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อในประเทศรายแรกเมื่อเดือนที่แล้ว ในจำนวนนี้ 197 คนยังอยู่ระหว่างการรักษา แต่ทั้งหมดยังไม่มีรายงานการเสียชีวิต ขณะที่เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเปิดเผยว่าผู้ติดเชื้อที่พบอาจจะเป็นผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่หรือ Clade 1B ที่ระบาดอยู่ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ก่อนหน้านี้องค์การอนามัยโลกระบุว่า Clade 1B มีอัตราการเสียชีวิตราวร้อยละ 3.6 โดยเด็กมีความเสี่ยงเสียชีวิตสูงกว่า ขณะที่ Bavarian Nordic บริษัทยาจากเดนมาร์ก ผู้ผลิตวัคซีนเอ็มพอกซ์ เปิดเผยว่า เวลานี้ทางบริษัทพร้อมจัดส่งวัคซีนมากกว่าเมื่อปี 2565 โดยมีวัคซีนที่ผลิตอยู่ในคลังแล้วประมาณ 500,000 โดส และจะพร้อมผลิตได้รวม 10 ล้านโดสภายในสิ้นปี 2568 การระบาดของโรคที่สร้างความตื่นตระหนกให้คนจำนวนมากมักนำมาซึ่งกระแสข่าวปลอม โดยเฉพาะหลังองค์การอนามัยโลกประกาศให้เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับโลก ข่าวปลอมที่แพร่อยู่บนโลกออนไลน์และอาจจะได้เห็นผ่านตากันบ้าง "เหล่านี้ไม่เป็นความจริง" 1.เอ็มพอกซ์ ไม่ได้เชื่อมโยงกับโรคงูสวัด หรือ วัคซีนโควิด-19 Wolfgang Wodarg แพทย์ขาวเยอรมันที่มีแนวคิดต่อต้านวัคซีน เผยแพร่วิดีโอทางออนไลน์ อ้างว่าเอ็มพอกซ์กับงูสวัด อาการเหมือนกัน และแพร่กระจายมาจากวัคซีนโควิด-19 โดยยังกล่าวหาวงการบริษัทยาว่าทำให้คนหวาดกลัวเพื่อหากำไรจากวัคซีน ข้อมูลนี้ไม่เป็นความจริง ข้อเท็จจริงคือ เอ็มพอกซ์พบครั้งแรกตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1970 ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก พบมานานมาก่อนโลกจะมีโควิด-19 หรือวัคซีนโควิด-19 ไวรัสนี้เป็นตระกูลเดียวกับฝีดาษและอีสุกอีใส ส่วนงูสวัดเป็นไวรัสตระกูล Herpes อาการก็ต่างกัน เพราะงูสวัดจะทำให้เกิดแผลที่เล็กกว่า แต่เจ็บปวด 2. โรคนี้ไม่มียาวิเศษรักษา มีทฤษฎีสมคบคิดที่แพร่หลายตั้งแต่การระบาดรอบก่อน 2565 ที่นักวิจัยชาวฝรั่งเศสเป็นผู้เผยแพร่ โดยบอกว่า มียารักษาเอ็มพอกซ์ที่มีประสิทธิภาพมาก ๆ แล้ว เป็นยาของญี่ปุ่น ชื่อยา Tranilast แต่ไม่นำไปขายในยุโรปเพราะราคาถูกมาก ข้อมูลนี้ไม่เป็นความจริง ข้อเท็จจริงคือ Tranilast ยาที่ผ่านการรับรองเมื่อปี 2525 ในญี่ปุ่นและจีน เป็นยาใช้รักษาโรคหอบหืด และไม่เคยผ่านการทดสอบในมนุษย์เพื่อใช้รักษาเอ็มพอกซ์แต่อย่างใด การรับมือไวรัสตัวนี้คือการฉีดวัคซีนและสร้างความเข้าใจในกลุ่มเสี่ยง รวมถึงแยกกักโรคผู้ต้องสงสัยติดเชื้อ เหมือนที่ทำสำเร็จมาแล้ว 2565 3. เอ็มพอกซ์ไม่ได้ติดได้เฉพาะกลุ่มชายรักชาย กระแสหนึ่งที่พบมากในสื่อออนไลน์ต่างประเทศคือ การกล่าวหาว่ากลุ่มเสี่ยงโรคนี้คือกลุ่มชายรักชาย ข้อมูลนี้ไม่เป็นความจริง ข้อเท็จจริงคือ ไม่มีโรคใด ๆ ที่จะติดต่อโดยมีเรื่องเพศเป็นข้อจำกัด แต่การแพร่ระบาดเกิดจากการสัมผัสใกล้ชิด ถูกเนื้อต้องตัว เพราะไวรัสจะอยู่ของเหลวที่อยู่ในแผลของผู้ติดเชื้อ และการระบาดผ่านมา คนทั่วไปไม่ว่าจะเพศอะไรที่มีคู่หลายคน ก็จัดเป็นกลุ่มที่ทำให้การระบาดเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี 2566 ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกด้วย 4. องค์การอนามัยโลกไม่ได้สั่งล็อกดาวน์ นักทฤษฎีสมคบคิดบางส่วนกลุ่มกล่าวหาว่าโรคระบาดใหญ่ที่เกิดขึ้นเป็นแผนการทmpo383ี่วางไว้แล้วโดยองค์การอนามัยโลกและมีบริษัทยายักษ์ใหญ่อยู่เบื้องหลัง ข้อมูลนี้ไม่เป็นความจริง ข้อเท็จจริงคือ องค์การอนามัยโลกไม่สามารถสั่งปิดเมืองหรือล็อกดาวน์ได้ และไม่มีอำนาจสั่งการประเทศใด ๆ ทุกประเทศมีอธิปไตยจัดการและใช้นโยบายต่าง ๆ เอง โดยองค์การอนามัยโลกเพียงให้คำแนะนำ และเวลาไม่มีการแนะนำให้รัฐบาลประเทศใดก็ตามเตรียมการล็อกดาวน์ครั้งใหญ่เพราะการระบาดของเอ็มพอกซ์แต่อย่างใด อ่านข่าวอื่น : คนแรกในไทย! ชายชาวยุโรปฝีดาษลิง "สายพันธุ์ Clade 1B" เช็กอาการฝีดาษลิงสายพันธุ์ "Clade 1B " ใครกลุ่มเสี่ยง
วันนี้ (17 ก.พ.2566) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ถือฤกษ์เวลา 09.09 น. ยื่นห
วันนี้ (17 มี.ค.2566) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีตำรวจชุดสืบสวน สภ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี และห
ในเดือนกันยายน 2567 ท้องฟ้ายามค่ำคืนจะมีปรากฏการณ์ทาง "ดาราศาสตร์" ที่น่าสนใจเกิดขึ้นบ้างสถาบันวิจัย
เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2567 กระทรวงสาธารณสุขบุรุนดี เปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อเอ็มพอกซ์หรือฝีดาษลิงแล้ว 171 คน นับตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อในประเทศรายแรกเมื่อเดือนที่แล้ว ในจำนวนนี้ 197 คนยังอยู่ระหว่างการรักษา แต่ทั้งหมดยังไม่มีรายงานการเสียชีวิต ขณะที่เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเปิดเผยว่าผู้ติดเชื้อที่พบอาจจะเป็นผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่หรือ Clade 1B ที่ระบาดอยู่ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ก่อนหน้านี้องค์การอนามัยโลกระบุว่า Clade 1B มีอัตราการเสียชีวิตราวร้อยละ 3.6 โดยเด็กมีความเสี่ยงเสียชีวิตสูงกว่า ขณะที่ Bavarian Nordic บริษัทยาจากเดนมาร์ก ผู้ผลิตวัคซีนเอ็มพอกซ์ เปิดเผยว่า เวลานี้ทางบริษัทพร้อมจัดส่งวัคซีนมากกว่าเมื่อปี 2565 โดยมีวัคซีนที่ผลิตอยู่ในคลังแล้วประมาณ 500,000 โดส และจะพร้อมผลิตได้รวม 10 ล้านโดสภายในสิ้นปี 2568 การระบาดของโรคที่สร้างความตื่นตระหนกให้คนจำนวนมากมักนำมาซึ่งกระแสข่าวปลอม โดยเฉพาะหลังองค์การอนามัยโลกประกาศให้เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับโลก ข่าวปลอมที่แพร่อยู่บนโลกออนไลน์และอาจจะได้เห็นผ่านตากันบ้าง "เหล่านี้ไม่เป็นความจริง" 1.เอ็มพอกซ์ ไม่ได้เชื่อมโยงกับโรคงูสวัด หรือ วัคซีนโควิด-19 Wolfgang Wodarg แพทย์ขาวเยอรมันที่มีแนวคิดต่อต้านวัคซีน เผยแพร่วิดีโอทางออนไลน์ อ้างว่าเอ็มพอกซ์กับงูสวัด อาการเหมือนกัน และแพร่กระจายมาจากวัคซีนโควิด-19 โดยยังกล่าวหาวงการบริษัทยาว่าทำให้คนหวาดกลัวเพื่อหากำไรจากวัคซีน ข้อมูลนี้ไม่เป็นความจริง ข้อเท็จจริงคือ เอ็มพอกซ์พบครั้งแรกตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1970 ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก พบมานานมาก่อนโลกจะมีโควิด-19 หรือวัคซีนโควิด-19 ไวรัสนี้เป็นตระกูลเดียวกับฝีดาษและอีสุกอีใส ส่วนงูสวัดเป็นไวรัสตระกูล Herpes อาการก็ต่างกัน เพราะงูสวัดจะทำให้เกิดแผลที่เล็กกว่า แต่เจ็บปวด 2. โรคนี้ไม่มียาวิเศษรักษา มีทฤษฎีสมคบคิดที่แพร่หลายตั้งแต่การระบาดรอบก่อน 2565 ที่นักวิจัยชาวฝรั่งเศสเป็นผู้เผยแพร่ โดยบอกว่า มียารักษาเอ็มพอกซ์ที่มีประสิทธิภาพมาก ๆ แล้ว เป็นยาของญี่ปุ่น ชื่อยา Tranilast แต่ไม่นำไปขายในยุโรปเพราะราคาถูกมาก ข้อมูลนี้ไม่เป็นความจริง ข้อเท็จจริงคือ Tranilast ยาที่ผ่านการรับรองเมื่อปี 2525 ในญี่ปุ่นและจีน เป็นยาใช้รักษาโรคหอบหืด และไม่เคยผ่านการทดสอบในมนุษย์เพื่อใช้รักษาเอ็มพอกซ์แต่อย่างใด การรับมือไวรัสตัวนี้คือการฉีดวัคซีนและสร้างความเข้าใจในกลุ่มเสี่ยง รวมถึงแยกกักโรคผู้ต้องสงสัยติดเชื้อ เหมือนที่ทำสำเร็จมาแล้ว 2565 3. เอ็มพอกซ์ไม่ได้ติดได้เฉพาะกลุ่มชายรักชาย กระแสหนึ่งที่พบมากในสื่อออนไลน์ต่างประเทศคือ การกล่าวหาว่ากลุ่มเสี่ยงโรคนี้คือกลุ่มชายรักชาย ข้อมูลนี้ไม่เป็นความจริง ข้อเท็จจริงคือ ไม่มีโรคใด ๆ ที่จะติดต่อโดยมีเรื่องเพศเป็นข้อจำกัด แต่การแพร่ระบาดเกิดจากการสัมผัสใกล้ชิด ถูกเนื้อต้องตัว เพราะไวรัสจะอยู่ของเหลวที่อยู่ในแผลของผู้ติดเชื้อ และการระบาดผ่านมา คนทั่วไปไม่ว่าจะเพศอะไรที่มีคู่หลายคน ก็จัดเป็นกลุ่มที่ทำให้การระบาดเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี 2566 ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกด้วย 4. องค์การอนามัยโลกไม่ได้สั่งล็อกดาวน์ นักทฤษฎีสมคบคิดบางส่วนกลุ่มกล่าวหาว่าโรคระบาดใหญ่ที่เกิดขึ้นเป็นแผนการทmpo383ี่วางไว้แล้วโดยองค์การอนามัยโลกและมีบริษัทยายักษ์ใหญ่อยู่เบื้องหลัง ข้อมูลนี้ไม่เป็นความจริง ข้อเท็จจริงคือ องค์การอนามัยโลกไม่สามารถสั่งปิดเมืองหรือล็อกดาวน์ได้ และไม่มีอำนาจสั่งการประเทศใด ๆ ทุกประเทศมีอธิปไตยจัดการและใช้นโยบายต่าง ๆ เอง โดยองค์การอนามัยโลกเพียงให้คำแนะนำ และเวลาไม่มีการแนะนำให้รัฐบาลประเทศใดก็ตามเตรียมการล็อกดาวน์ครั้งใหญ่เพราะการระบาดของเอ็มพอกซ์แต่อย่างใด อ่านข่าวอื่น : คนแรกในไทย! ชายชาวยุโรปฝีดาษลิง "สายพันธุ์ Clade 1B" เช็กอาการฝีดาษลิงสายพันธุ์ "Clade 1B " ใครกลุ่มเสี่ยง
เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2567 กระทรวงสาธารณสุขบุรุนดี เปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อเอ็มพอกซ์หรือฝีดาษลิงแล้ว 17