pay69ts911 ทดลอง -Apa Penyebabnya?

วันนี้ (26 ส.ค.2564) ความคืบหน้าคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ และพวกร่วมกันpay69ts911 ทดลอง

วันนี้ (12 ม.ค.2566) กรณีการสอบปากคำเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จากจ.ปัตตานี ในฐานะพยานของคดีเงินสินบน กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เมื่อวานนี้ (11 ม.ค.) ทีมข่าวตรวจสอบคว

กะเหรี่ยงหนองหญ้าปล้อง แห่งป่าแก่งกระจาน .. ไม่มีคำว่า “วันพรุ่งนี้” สำหรับ “ไร่หมุนเวียน” อีกต่อไป “เปอมู้มากู่เมย อังมิงโพลงเข้อมาโอ้” ในภาษากะเหรี่ยง มีความหมายว่า “เราจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้วิถีชีวิตกะเหรี่ยงดำรงอยู่” “ฉันโดนคดีบุกรุกทำลายป่า โดนกล่าวหาว่า ทำให้โลกร้อน” กะเหรี่ยงหนองหญ้าปล้องเรียกร้องให้เวียนแปลงไร่หมุนเวียนของชุมชน กะเหรี่ยงหนองหญ้าปล้องเรียกร้องให้เวียนแปลงไร่หมุนเวียนของชุมชน ประไพ บุญชูเชิด หญิงชาวกะเหรี่ยงจาก อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี หรือที่คนอื่นในชุมชนเรียกว่า “ป้าปื๊อ” กลายเป็นผู้ต้องหารายล่าสุดที่ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานจับกุมดำเนินคดีในข้อหา “บุกรุกทำลายป่า” แถมพ่วงด้วยคดี “ทำให้โลกร้อน” เหตุเพราะเธอทำ “ไร่หมุนเวียน” ตามวิถีปกติที่เคยทำมา และปล่อยไร่ที่เก็บเกี่ยวไปแล้วทิ้งไว้ เพื่อให้มันฟื้นตัวตามกลไกของธรรมชาติ อ่านข่าว เปิดเบื้องหลังคดี "บิลลี่" บันทึกความทรงจำ ทนาย-นักข่าว เขาไม่ได้มาจับเราที่กลางไร่นะ แต่มีคนมาบอกว่าเขาโพสต์ลงเฟซบุ๊กว่าไร่เก่าที่เราทิ้งไว้มันผิดกฎหมาย กลายเป็นว่า...ไร่หมุนเวียนที่เราทิ้งไว้ให้มันฟื้นฟูเอง ถูกมองว่าเป็นพื้นที่ที่ถางไม่เตียน ไม่ทำต่อเนื่องทุกปี จึงกลายเป็นที่บุกรุกป่า ทั้งที่เราก็ยอมลงชื่อเข้าโครงการไปแล้วนะ แต่เขาก็มาจับเราจากพื้นที่ที่เราทำแปลงเก่าทิ้งไว้ ป้าปี๊อ กับแปลงที่ถูกจับ ป้าปี๊อ กับแปลงที่ถูกจับ “โครงการ” ที่หญิงชาวกะเหรี่ยงคนนี้พูดถึง มีที่มาจากการที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพรรณพืช ออกร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์การอยู่อาศัยหรือทำกินในโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. ... ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปแล้วในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ 7 แห่ง ที่ไม่มีกลุ่มชาติพันธุ์อยู่ ส่วนในพื้นที่ที่มีกลุ่มชาติพันธุ์อาศัยอยู่ในเขตอุทยาน โดยเฉพาะที่มีชาวกะเหรี่ยงในพื้นที่ป่าภาคเหนือและป่าฝั่งตะวันตก กำลังอยู่ระหว่างการเดินสำรวจเพื่อโน้มน้าวให้ชาวกะเหรี่ยงยอมลงชื่อเข้าร่วมโครงการ อ่านข่าว ศาลฯ ตัดสินวันนี้ “คดีฆาตกรรมบิลลี่” กฎหมายฉบับนี้ มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขข้อพิพาทระหว่างกรมอุทยานฯ กับกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยทำกินอยู่ในพื้นที่อุทยานฯ มานานแล้ว โดยกรมอุทยานฯ จะสำรวจการถือครองที่ดิน จัดทำรายชื่อบุคคลที่อยู่อาศัยหรือทำกินในเขตอุทยานฯ พร้อมด้วยจำนวนที่ดินและแผนผังแปลน จากนั้นจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้อาศัยทำกินในเขตอุทยานฯ ได้ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขใหญ่ คือ “ไม่เกินครอบครัวละ 20 ไร่ ... มิได้มีสิทธิในที่ดินนั้น” และมีระยะเวลาบังคับใช้ คราวละไม่เกิน 20 ปี” รวมทั้งยังมีเงื่อนไขสำคัญในการเข้าร่วมโครงการด้วยว่า “จะต้องไม่ละทิ้งการทำประโยชน์หรือไม่อยู่อาศัยติดต่อกันเกิน 1 ปี โดยไม่มีเหตุอันควร” เงื่อนไขสุดท้ายนี่เอง คือสาเหตุที่ทำให้ “ประไพ บุญเชิด” ถูกจับกุม เพียงเพราะมีร่องรอยของไร่หมุนเวียนเก่าที่ทำทิ้งไว้เหลืออยู่ ทั้งที่เธอยอมลงชื่อ ยอมรับเงื่อนไขเข้าร่วมโครงการไปแล้ว และนั่นคือบรรยากาศของความหวาดกลัวที่ทำให้ชาวกะเหรี่ยงหนองหญ้าปล้องส่วนใหญ่ ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากลงชื่อเข้าร่วมโครงการและยอมเปลี่ยนวิถีชีวิตตัวเอง “เราถูกศาลตัดสินว่าบุกรุกทำลายป่า ทำให้โลกร้อน ถูกยึดที่ดิน 5 ไร่ ถูกสั่งจำคุก 1 ปี ปรับ 10,000 บาท แต่โทษจำคุกเขาให้รอลงอาญา 2 ปี โทษปรับให้บำเพ็ญประโยชน์แทน ... ถ้าฟังแบบนี้ก็คือเราไม่ถึงกับต้องไปติดคุก แต่เราก็ทำไร่หมุนเวียนไม่ได้อีกแล้ว คนอื่นๆ เห็นก็ไม่กล้าทำแล้ว และที่ทำให้เรารู้สึกแย่มากที่สุด คือการที่เราอยู่ในป่า ดูแลรักษาป่ามาตลอดตั้งแต่รุ่นพ่อแม่เรา แต่เรากลายเป็นคนที่ถูกตีตราว่า ... ทำให้โลกร้อน ทำลายระบบนิเวศ ทั้งๆ ที่เราอยู่กับธรรมชาติ ไม่ได้ใช้ทรัพยากรอะไรสิ้นเปลืองเลย” ประไพ ทิ้งท้ายด้วยความเสียใจ การทำแผนที่ชุมชน แนวเขตไร่หมุนเวียน ป่าใช้สอย ป่าพิธีกรรมของชุมชน การทำแผนที่ชุมชน แนวเขตไร่หมุนเวียน ป่าใช้สอย ป่าพิธีกรรมของชุมชน คดีของป้าวันเสาร์ คดีของป้าปื๊อ รวมไปถึงสิ่งที่เกิดขึ้นมาตลอดกว่า 10 ปี กับพี่น้องกะเหรี่ยงชุมชนใกล้เคียงอย่าง “บางกลอย” ซึ่งมีทั้งคนที่ถูกดำเนินคดี ถูกทำให้สูญหาย และมีคนถูกยิงเสียชีวิตแต่จับคนร้ายไม่ได้ ย่อมส่งผลต่อการตัดสินใจของชาวกะเหรี่ยงหนองหญ้าปล้องอย่างมาก ทำให้การเดินสำรวจของเจ้าหน้าที่อุทยานตลอดช่วงประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา มีชาวกะเหรี่ยงหนองหญ้าปล้องยอมลงชื่อเข้าร่วมโครงการนี้ไปแล้วถึงประมาณร้อยละ 90 แต่ก็ยังมีบางส่วน ที่ขอยืนหยัดต่อสู้ เพราะพวกเขาเชื่อว่า หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป พวกเขาจะกลายเป็น “กะเหรี่ยงแก่งกระจาน ... รุ่นสุดท้าย” อ่านข่าว The Last Karen : กะเหรี่ยงรุ่นสุดท้าย รุ่ง เสน่ติบัง คือหนึ่งในคนที่ขอต่อสู้ก่อนจะยอมรับการสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ “กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มาบอกชาวบ้านว่าถ้าไม่รับข้อเสนอของอุทยานก็จะเป็นแบบป้าวันเสาร์ หรือชุมชนเราก็จะเป็นพื้นที่ขัดแย้งแบบบางกลอย ได้ยินแบบนี้ชาวบ้านเขาก็กลัว เขาก็ต้องยอมลงชื่อรับไป ถึงตอนนี้ก็มี 90% แล้ว ที่ยอมรับข้อเสนอของอุทยาน แต่ผมขอถามแบบใช้เหตุใช้ผลกันหน่อยว่า ถ้าไม่บอกว่าจะถูกจับ ถ้าไม่มีท่าทีเหมือนการบีบบังคับแบบนี้ ชาวบ้านเขายอมลงชื่อมั้ย” รุ่ง ตั้งคำถามต่อปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ชายชาวกะเหรี่ยง ยังเล่าถึงรูปแบบการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ในช่วงประมาณ 1 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งใช้วิธีการเดินสำรวจแปลงทำกินของชาวบ้าน ขอหมายเลขบัตรประชาชน ให้ชาวบ้านถ่ายรูปบัตรประชาชนกับพื้นที่ทำไร่แปลงที่ทำอยู่ในปัจจุบัน แล้วให้กรอกแบบฟอร์มคำขอเข้าร่วมโครงการ ลงลายมือชื่อ พร้อมกำหนดแผนที่แนบท้ายแปลงที่จะอนุญาตให้ทำกินชั่วคราว 20 ปี ... จากนั้น ถ้าชาวบ้านไปทำไร่หมุนเวียนนอกแปลงที่กำหนดก็จะถูกจับ และหากไม่ทำไร่ในแปลงที่กำหนดไว้อย่างต่อเนื่องทุกๆ ปี ไม่ถางให้เตียนทุกๆ ปี ก็มีความเสี่ยงที่จะถูกยึดคืน “หลักเกณฑ์ที่เขามาแจ้งว่าจะเข้าเงื่อนไขได้ที่ดินทำกินชั่วคราว มี 2 เงื่อนไขครับ คือ อยู่มาก่อนมติ ครม. 30 มิ.ย.2541 หรือ อยู่มาก่อนที่จะเริ่มใช้นโยบายทวงคืนผืนป่า ของ คสช. เมื่อปี 2557 ดังนั้น เขาจะดูพื้นที่แปลงที่จะให้เราทำได้จากการรังวัดที่ดินใน 2 รอบดังกล่าวเท่านั้น จากนั้น เขาก็ให้ชาวบ้านถ่ายรูปแปลงตามแผนที่แนบท้าย ลงชื่อ พร้อมมีข้อความว่า ข้าพเจ้ายินดีจะปฏิบัติตามเงื่อนไข ... ซึ่งนั่นมีนัยเหมือนการบีบให้ชาวกะเหรี่ยงหนองหญ้าปล้องลงชื่อยอมรับว่า การอยู่อาศัยที่ผ่านมาตลอดชีวิตไม่เคยมีอยู่จริง กลายเป็นว่าพวกเราเพิ่งมาอยู่ก่อนปี 2541 หรือก่อนปี 2557 เท่านั้น” อ่านข่าว เปิดเบื้องหลังคดี"บิลลี่"บันทึกความทรงจำ ทนาย-นักข่าว “สมมติว่าเราเคยหมุนเวียนอยู่ 20 ไร่ แต่มีอยู่ 2 ไร่ ที่เราทิ้งไว้แบบป้าปื๊อ กลายเป็นแปลงคดี 2 ไร่นั้นก็จะถูกยึดไป และถ้าเรายังทำไร่หมุนเวียนอยู่ เพราะเราเชื่อว่ามันคือวิธีการรักษาป่าที่ดีกว่าทำแบบแปลงเดิมไปทุกปี ก็จะกลายเป็นว่าพื้นที่เราจะถูกยึดจนแหว่งลงไปทุกปี ดังนั้นเราก็ต้องมาทำตามที่เขาบอก คือ เลือกไว้แปลงหนึ่ง และทำแปลงเดิมทุกๆ ปี ห้ามทิ้งร้าง ถ้าเป็นเช่นนี้ ไร่หมุนเวียนที่ช่วยรักษาป่า ปล่อยให้ป่าฟื้นฟูได้เองก็จะค่อยๆ หายไป และจะได้พื้นที่เกษตรเชิงเดี่ยวที่เมื่อทำไปนานๆ ดินจะเสื่อมจนต้องใช้สารเคมีมาแทนที่ในระยะยาวอย่างแน่นอน” “นอกจากจะทำให้การเกษตรแบบไร่หมุนเวียนสูญสิ้นไป โครงการนี้ยังกำลังจะทำให้สิทธิความเป็นชุมชนดั้งเดิมของชาวกะเหรี่ยงหมดไปด้วยครับ เพราะการที่เรายอมรับว่าอยู่มาก่อนปี 2541 หรือ 2557 มันจะกลายเป็นเอกสารที่เขานำไปอ้างได้ว่า พวกเรามาอยู่หลังมีประกาศเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเมื่อปี 2524” สุนิสา สาลิลา หรือ ตั้ว เป็นเยาวชนหญิงชาวกะเหรี่ยงอีกคนในพื้นที่ อ.หนองหญ้าปล้อง ที่กังวลว่า รุ่นของเธอ จะเป็นกะเหรี่ยงหนองหญ้าปล้องรุ่นสุดท้ายจริงๆ จากการออกกฎหมายเช่นนี้ ตั้ว ตั้งคำถามที่แสนง่ายดาย คำถามนั้นคือ ... ทำไมต้องบังคับให้กะเหรี่ยง เลิกทำไร่หมุนเวียน “เราทำเกษตรแบบพึ่งพาธรรมชาติมาตลอด แปลงไหนเก็บเกี่ยวแล้วก็คืนธรรมชาติไป ปล่อยให้ป่าได้พักฟื้น รักษาต้นน้ำได้ด้วยเพราะไม่ต้องใช้สารเคมีเลย ทำไมถึงมาบังคับให้เราเปลี่ยนไปทำเกษตรแบบที่ต้องใช้สารเคมี แบบนี้ ... ใครกันแน่ที่ทำลายป่า” นี่เป็นคำถามที่ สุนิสา ต้องการคำตอบมาตลอด และเพื่อรักษาคำมั่นที่ให้ไว้กับบรรพบุรุษ “เปอมู้มากู่เมย อังมิงโพลงเข้อมาโอ้” ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยได้ว่าเราจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้วิถีชีวิตกะเหรี่ยงดำรงอยู่ ทำให้ รุ่ง สเน่ติบัง ตัดสินใจรวบรวมชาวกะเหรี่ยงหนองหญ้าปล้อง มาช่วยกันรวบรวมข้อมูล ทำงานวิจัยเพื่อยืนยันความเป็นชุมชนดั้งเดิมของพวกเขาไปสู้กับกติกาของรัฐ “เราเดินไปเจอเจ้าหน้าที่เหมือนเจอเสือ แต่ก่อนก็ต้องวิ่งหนี หรือยอมสิโรราบ แต่ตอนนี้เราถูกบังคับให้ต้องสู้แล้วครับ เราจึงกำลังรวบรวมหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของชุมชนกันอยู่ ซึ่งชุมชนเรามีหลักฐานการแต่งตั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มาต่อเนื่องถึง 6-7 รุ่น นับเป็นช่วงเวลาก็มากกว่าร้อยปีมาแล้ว ตั้งแต่สมัยที่หนองหญ้าปล้องยังเป็นมณฑลขึ้นอยู่กับจังหวัดราชบุรี” “เรายังได้รับความช่วยเหลือทางวิชาการจากอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เข้ามาช่วยจัดทำผังตระกูลของชุมชน และทำการศึกษาวิจัยเรื่องผลดีต่อป่าจากการทำไร่หมุนเวียนด้วย ดังนั้นการต่อสู้ด้วยข้อมูล สู้ด้วยความจริง จะเป็นวิธีการต่อสู้ของพวกเราชาวกะเหรี่ยงหนองหญ้าปล้อง เพื่อรักษาวิถีดั้งเดิมของเราไว้ให้ได้” “เราจะไม่ยอมเป็นรุ่นสุดท้าย” ... รุ่ง สเน่ติบัง ประกาศ รายงานโดย : สถาพร พงษ์พิพัฒน์วัฒนา EP.1 The Lapay69ts911 ทดลองst Karen : กะเหรี่ยงรุ่นสุดท้าย กลุ่มชาติพันธุ์ที่ถูกบีบให้เปลี่ยนวิถีทำกิน EP.3 The Last Karen : กะเหรี่ยงรุ่นสุดท้าย สิทธิชอบธรรมของผู้ดูแลป่า EP.4 The Last Karen : กะเหรี่ยงรุ่นสุดท้าย จัดที่ดินทำกินในอุทยานฯ "ล้างเผ่าพันธุ์กะเหรี่ยง"

กะเหรี่ยงหนองหญ้าปล้อง แห่งป่าแก่งกระจาน .. ไม่มีคำว่า “วันพรุ่งนี้” สำหรับ “ไร่หมุนเวียน” อีกต่อไป

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 66
วันนี้ (12 ก.ค.2567) นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า วันที่ 11 ก.ค.2567 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ลงนามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เรื่อง “การขอรับรองสิ่งมีชีวิต
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่