หลังจากมีคาดการณ์แนวโน้มปรากฎการณ์เอลนีโญ ที่อาจส่

วันนี้ (1 ก.พ.2564) นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าว ว่า ฟังก์ชั่นสุขภาพใน Smart watch หากมีการแปลผล เพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ เช่น ใช้ในการบำบัด บรรเทา รักษาโรค หร
พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เปิดเผยว่า บช.น. ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ กำหนดให้มีการซักซ้อมรถนำขบวนเอเปค และบริหารจัดการจราจร ในวันที่ 10 พ.ย.นี้ เวลา 16.30-20.00 น
วันที่ 6 มี.ค.2567 การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีวาระสำคัญในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน จำนวน 4 ฉบับ ที่นายเซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล, น.ส.วรรณวิภา ไม้สน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล, นายวรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์ สส.สตูล พรรคภูมิใจไทย เป็นผู้เสนอ ในวาระแรก ร่างกฎหมายคุ้มครองแรงงานที่เสนอโดยนายเซียนั้น มีสาระสำคัญ เช่น การเพิ่มคำนิยามการจ้างงานรายเดือน, การให้การจ้างงานมีความเท่าเทียมทุกด้าน และให้นายจ้างปฏิบัติต่อลูกจ้างอย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่เลือกปฏิบัติ ไม่แสดงออกถึงการกีดกัน แบ่งแยก จำกัดสิทธิ หรือทำการอื่นใดให้ผู้อื่นไม่ได้รับสิทธิอันพึงได้ตามกฎหมาย รวมถึงการแก้ไขเพิ่มเติมให้เวลาทำงานของลูกจ้าง เมื่อรวมเวลาทำงานทั้งสิ้นแล้ว สัปดาห์หนึ่งต้องไม่เกิน 40 ชั่วโมง เว้นแต่เป็นงานอันตราย ที่จะต้องไม่เกิน 35 ชั่วโมง พร้อมเพิ่มบทบัญญัติที่นายจ้างจะต้องจ้างงานเป็นรายเดือนทั้งหมด โดยไม่เลือกปฏิบัติ เว้นแต่งานที่มีความเฉพาะไม่มีความต่อเนื่อง หรือไม่ใช่ธุรกิจหลักของนายจ้าง ให้ใช้ระบบสัญญาจ้างงานแบบกำหนดระยะเวลาโดยรับรองรายรับ ไม่ต่ำกว่าค่าจ้างขั้นต่ำ และให้ได้รับสวัสดิการเท่าเทียมกับพนักงานระบบอื่นของนายจ้าง นอกจากนั้น ยังกำหนดให้ลูกจ้างที่ทำงานติดต่อกันมาแล้วครบ 120 วัน มีวันหยุดพักผ่อนประจำปีได้ไม่น้อยกว่า 10 วันต่อปี และมีสิทธิให้ลูกจ้าง มีสิทธิลาไปดูแลครอบครัวที่ป่วยได้ปีละไม่เกิน 15 วัน รวมถึงจะต้องมีห้องให้นมบุตร หรือเก็บน้ำนมในที่ทำงาน พร้อมการแก้ไขหลักเกณฑ์การปรับค่าจ้างให้เหมาะต่อค่าครองชีพ และเพียงพอต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ตามการประกาศของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรืออัตราเงินเฟ้อของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อเปลี่ยนชีวิตแรงงานให้ "มีเวลาทำงาน พักผ่อน และใช้ชีวิต" ส่วนร่างกฎหมายคุ้มครองแรงงานของ น.ส.วรรณวิภา เสนอแก้ไขให้แรงงานสามารถใช้สิทธิลาคลอดจาก 98 วัน เป็น 180 วัน โดยได้รับค่าจ้างไม่น้อยกว่า 90 วัน และสิทธิประกันสังคมเพิ่มเติมอีก 90 วัน ขณะที่ร่างกฎหมายคุ้มครองแรงงานที่พรรคภูมิใจไทยเสนอนั้น มีการแก้ไขเพียงวันลาคลอดได้ ไม่เกิน 98 วัน โดยให้รวมวันลาตรวจครรภ์ก่อนลาคลอดด้วย และให้นายจ้างจ่ายค่าแรงเต็มตลอดระยะเวลาที่ลา แต่ไม่เกิน 49 วัน แต่ให้ลูกจ้างชายมีสิทธิลาเพื่อช่วยเหลือภรรยาที่ลาคลอด ตามที่ตกลงในสัญญาจ้างงานด้วย สำหรับการอภิปรายของ สส.นั้น สส.ฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคก้าวไกล ต่างสนับสนุนให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร รับหลักการร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานทั้ง 3 ฉบับ ที่จะช่วยให้แรงงานได้รับความเท่าเทียม ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายจ้าง ทั้งการให้แรงงานทั้งชาย และหญิง สามารถลางานเพื่อเลี้ยงลูกได้ รวมถึงการการันตีปรับค่าจ้างเพิ่มขึ้นทุกปี หลังจากปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของไทยที่ผ่านมาไม่เป็นธรรม จนเกิดความเหลื่อมล้ำ หนี้ครัวเรือน และเด็กเกิดน้อยขึ้น ซึ่งค่าแรงขั้นต่ำปัจจุบัน ไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิต และไม่สามารถฝากความคาดหวังได้ เพราะคณะกรรมการปรับอัตราค่าจ้าง ยังใช้สูตรการคำนวณเดิม จนทำให้ค่าแรงถูกปรับขึ้นน้อยกว่าที่ควรจะเป็น แต่การอภิปรายของ สส.พรรคร่วมรัฐบาลส่วนใหญ่ กลับไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหเว็บ บอล 1688มายคุ้มครองแรงงาน ที่เสนอโดยพรรคก้าวไกล โดยเห็นว่านวัตกรรมในร่างกฎหมายที่พรรคก้าวไกลเสนอ หากฟังแล้วอาจดูดี เป็นประโยชน์ต่อแรงงานทั้งประเทศ แต่อาจกลัยกลายเป็นลูกกวาดอาบยาพิษ หรือเป็นเพียงเหรียญด้านเดียว ที่มาตรการตามกฎหมายที่พรรคก้าวไกลเสนอมานั้น ทั้งวันลาไปเยี่ยมญาติพี่น้องที่ป่วยได้ จะกลายเป็นภาระให้กับผู้ประกอบการรายเล็ก-รายน้อย SMEs ร้านอาหาร หรือโรงแรม ที่จะต้องแบกรับต้นทุนวันหยุดของแรงงาน ที่เป็นต้นทุนกว่า 20% จนอาจกระทบต่อกิจการ และต้องปิดตัวลง และแรงงานอาจจะถูก Disruption เพราะผู้ประกอบการหันไปใช้เทคโนโลยีมากขึ้น กระทบต่อขีดการแข่งขันของประเทศด้วย เพราะแรงงานตกงาน โดยพรรคภูมิใจไทย ระบุว่าอยากเห็นกฎหมายแรงงานที่คุ้มครองสิทธิแรงงานให้ดีมากขึ้น และไม่ใช่การซ้ำเติมผู้ประกอบการรายย่อยจนอาจต้องล้มละลาย ด้าน น.ส.จิรัชยา สัพโส สส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย แสดงความกังวลถึงการกำหนดค่าจ้างรายเดือน และขึ้นค่าจ้างทุกปี หรือลดชั่วโมงการทำงาน จะเกิดผลกระทบที่เกิดขึ้นตามมาต่อผู้ประกอบการรายย่อย ที่สภาพการเงินอาจไม่คล่องตัว รวมถึงอาจมีผลกระทบต่อการลงทุนจากบริษัทต่างประเทศด้วย เพราะการแข่งขันจากประเทศเพื่อนบ้านสูง จนอาจทำให้ประเทศไทยเสียโอกาส และอาจกระทบต่ออัตราการจ้างงานคนไทย ทั้งนี้ ภายหลังการอภิปรายเสร็จสิ้น นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ได้เสนอให้ที่ประชุมแยกลงมติรายฉบับ เนื่องจากร่างกฎหมายที่เสนอโดยนายเซียนั้น มีเนื้อหาที่ไม่เหมือนฉบับอื่น แต่ น.ส.วรรณวิภา ได้เสนอให้ที่ประชุมลงมติพร้อมกันในคราวเดียว 3 ฉบับ เนื่องจากเนื้อหาของกฎหมายเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อคุ้มครองแรงงาน แต่ที่สุดแล้วที่ประชุมมีมติเสียงข้างมาก 255 เสียง ต่อ 149 เสียง ให้ลงมติแยกรายฉบับ ผลการลงมติร่างกฎหมายคุ้มครองแรงงานทั้ง 3 ฉบับ ปรากฏว่า ที่ประชุมมีมติเสียงข้างมาก 252 เสียง ต่อ 149 เสียง "ไม่รับหลักการ" ร่างกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ที่เสนอโดยนายเซีย และมีมติ "รับหลักการ" ร่างกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ที่เสนอโดย น.ส.วรรณวิภา ด้วยมติเอกฉันท์ 394 เสียง รวมทั้งมีมติเอกฉัน 401 เสียง ให้ "รับหลักการ" ร่างกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ที่เสนอโดยนายวรศิษฏ์ โดยขั้นตอนหลังจากนี้ที่ประชุมได้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อพิจารณาปรับแก้ ก่อนเสนอให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาต่อในวาระที่ 2 และ 3 พิจารณาตามขั้นตอนอีกครั้ง โดยให้ใช้ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานที่เสนอโดยนายวรศิษฎ์ พรรคภูมิใจไทย เป็นร่างหลักในการพิจารณา
จากกรณีคำพิพากษาศาลแขวงปทุมวัน คดีแฟลชม็อบ จำคุก 4 เดือนโดยรอลงอาญา 2 ปี ต่อแกนนำพรรคก้าวไกลและคณะก้
วันนี้ (5 ส.ค.2567) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของปลาหมอคา
วันที่ 6 มี.ค.2567 การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีวาระสำคัญในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน จำ
วันที่ 6 มี.ค.2567 การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีวาระสำคัญในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน จำนวน 4 ฉบับ ที่นายเซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล, น.ส.วรรณวิภา ไม้สน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล, นายวรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์ สส.สตูล พรรคภูมิใจไทย เป็นผู้เสนอ ในวาระแรก ร่างกฎหมายคุ้มครองแรงงานที่เสนอโดยนายเซียนั้น มีสาระสำคัญ เช่น การเพิ่มคำนิยามการจ้างงานรายเดือน, การให้การจ้างงานมีความเท่าเทียมทุกด้าน และให้นายจ้างปฏิบัติต่อลูกจ้างอย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่เลือกปฏิบัติ ไม่แสดงออกถึงการกีดกัน แบ่งแยก จำกัดสิทธิ หรือทำการอื่นใดให้ผู้อื่นไม่ได้รับสิทธิอันพึงได้ตามกฎหมาย รวมถึงการแก้ไขเพิ่มเติมให้เวลาทำงานของลูกจ้าง เมื่อรวมเวลาทำงานทั้งสิ้นแล้ว สัปดาห์หนึ่งต้องไม่เกิน 40 ชั่วโมง เว้นแต่เป็นงานอันตราย ที่จะต้องไม่เกิน 35 ชั่วโมง พร้อมเพิ่มบทบัญญัติที่นายจ้างจะต้องจ้างงานเป็นรายเดือนทั้งหมด โดยไม่เลือกปฏิบัติ เว้นแต่งานที่มีความเฉพาะไม่มีความต่อเนื่อง หรือไม่ใช่ธุรกิจหลักของนายจ้าง ให้ใช้ระบบสัญญาจ้างงานแบบกำหนดระยะเวลาโดยรับรองรายรับ ไม่ต่ำกว่าค่าจ้างขั้นต่ำ และให้ได้รับสวัสดิการเท่าเทียมกับพนักงานระบบอื่นของนายจ้าง นอกจากนั้น ยังกำหนดให้ลูกจ้างที่ทำงานติดต่อกันมาแล้วครบ 120 วัน มีวันหยุดพักผ่อนประจำปีได้ไม่น้อยกว่า 10 วันต่อปี และมีสิทธิให้ลูกจ้าง มีสิทธิลาไปดูแลครอบครัวที่ป่วยได้ปีละไม่เกิน 15 วัน รวมถึงจะต้องมีห้องให้นมบุตร หรือเก็บน้ำนมในที่ทำงาน พร้อมการแก้ไขหลักเกณฑ์การปรับค่าจ้างให้เหมาะต่อค่าครองชีพ และเพียงพอต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ตามการประกาศของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรืออัตราเงินเฟ้อของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อเปลี่ยนชีวิตแรงงานให้ "มีเวลาทำงาน พักผ่อน และใช้ชีวิต" ส่วนร่างกฎหมายคุ้มครองแรงงานของ น.ส.วรรณวิภา เสนอแก้ไขให้แรงงานสามารถใช้สิทธิลาคลอดจาก 98 วัน เป็น 180 วัน โดยได้รับค่าจ้างไม่น้อยกว่า 90 วัน และสิทธิประกันสังคมเพิ่มเติมอีก 90 วัน ขณะที่ร่างกฎหมายคุ้มครองแรงงานที่พรรคภูมิใจไทยเสนอนั้น มีการแก้ไขเพียงวันลาคลอดได้ ไม่เกิน 98 วัน โดยให้รวมวันลาตรวจครรภ์ก่อนลาคลอดด้วย และให้นายจ้างจ่ายค่าแรงเต็มตลอดระยะเวลาที่ลา แต่ไม่เกิน 49 วัน แต่ให้ลูกจ้างชายมีสิทธิลาเพื่อช่วยเหลือภรรยาที่ลาคลอด ตามที่ตกลงในสัญญาจ้างงานด้วย สำหรับการอภิปรายของ สส.นั้น สส.ฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคก้าวไกล ต่างสนับสนุนให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร รับหลักการร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานทั้ง 3 ฉบับ ที่จะช่วยให้แรงงานได้รับความเท่าเทียม ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายจ้าง ทั้งการให้แรงงานทั้งชาย และหญิง สามารถลางานเพื่อเลี้ยงลูกได้ รวมถึงการการันตีปรับค่าจ้างเพิ่มขึ้นทุกปี หลังจากปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของไทยที่ผ่านมาไม่เป็นธรรม จนเกิดความเหลื่อมล้ำ หนี้ครัวเรือน และเด็กเกิดน้อยขึ้น ซึ่งค่าแรงขั้นต่ำปัจจุบัน ไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิต และไม่สามารถฝากความคาดหวังได้ เพราะคณะกรรมการปรับอัตราค่าจ้าง ยังใช้สูตรการคำนวณเดิม จนทำให้ค่าแรงถูกปรับขึ้นน้อยกว่าที่ควรจะเป็น แต่การอภิปรายของ สส.พรรคร่วมรัฐบาลส่วนใหญ่ กลับไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหเว็บ บอล 1688มายคุ้มครองแรงงาน ที่เสนอโดยพรรคก้าวไกล โดยเห็นว่านวัตกรรมในร่างกฎหมายที่พรรคก้าวไกลเสนอ หากฟังแล้วอาจดูดี เป็นประโยชน์ต่อแรงงานทั้งประเทศ แต่อาจกลัยกลายเป็นลูกกวาดอาบยาพิษ หรือเป็นเพียงเหรียญด้านเดียว ที่มาตรการตามกฎหมายที่พรรคก้าวไกลเสนอมานั้น ทั้งวันลาไปเยี่ยมญาติพี่น้องที่ป่วยได้ จะกลายเป็นภาระให้กับผู้ประกอบการรายเล็ก-รายน้อย SMEs ร้านอาหาร หรือโรงแรม ที่จะต้องแบกรับต้นทุนวันหยุดของแรงงาน ที่เป็นต้นทุนกว่า 20% จนอาจกระทบต่อกิจการ และต้องปิดตัวลง และแรงงานอาจจะถูก Disruption เพราะผู้ประกอบการหันไปใช้เทคโนโลยีมากขึ้น กระทบต่อขีดการแข่งขันของประเทศด้วย เพราะแรงงานตกงาน โดยพรรคภูมิใจไทย ระบุว่าอยากเห็นกฎหมายแรงงานที่คุ้มครองสิทธิแรงงานให้ดีมากขึ้น และไม่ใช่การซ้ำเติมผู้ประกอบการรายย่อยจนอาจต้องล้มละลาย ด้าน น.ส.จิรัชยา สัพโส สส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย แสดงความกังวลถึงการกำหนดค่าจ้างรายเดือน และขึ้นค่าจ้างทุกปี หรือลดชั่วโมงการทำงาน จะเกิดผลกระทบที่เกิดขึ้นตามมาต่อผู้ประกอบการรายย่อย ที่สภาพการเงินอาจไม่คล่องตัว รวมถึงอาจมีผลกระทบต่อการลงทุนจากบริษัทต่างประเทศด้วย เพราะการแข่งขันจากประเทศเพื่อนบ้านสูง จนอาจทำให้ประเทศไทยเสียโอกาส และอาจกระทบต่ออัตราการจ้างงานคนไทย ทั้งนี้ ภายหลังการอภิปรายเสร็จสิ้น นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ได้เสนอให้ที่ประชุมแยกลงมติรายฉบับ เนื่องจากร่างกฎหมายที่เสนอโดยนายเซียนั้น มีเนื้อหาที่ไม่เหมือนฉบับอื่น แต่ น.ส.วรรณวิภา ได้เสนอให้ที่ประชุมลงมติพร้อมกันในคราวเดียว 3 ฉบับ เนื่องจากเนื้อหาของกฎหมายเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อคุ้มครองแรงงาน แต่ที่สุดแล้วที่ประชุมมีมติเสียงข้างมาก 255 เสียง ต่อ 149 เสียง ให้ลงมติแยกรายฉบับ ผลการลงมติร่างกฎหมายคุ้มครองแรงงานทั้ง 3 ฉบับ ปรากฏว่า ที่ประชุมมีมติเสียงข้างมาก 252 เสียง ต่อ 149 เสียง "ไม่รับหลักการ" ร่างกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ที่เสนอโดยนายเซีย และมีมติ "รับหลักการ" ร่างกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ที่เสนอโดย น.ส.วรรณวิภา ด้วยมติเอกฉันท์ 394 เสียง รวมทั้งมีมติเอกฉัน 401 เสียง ให้ "รับหลักการ" ร่างกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ที่เสนอโดยนายวรศิษฏ์ โดยขั้นตอนหลังจากนี้ที่ประชุมได้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อพิจารณาปรับแก้ ก่อนเสนอให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาต่อในวาระที่ 2 และ 3 พิจารณาตามขั้นตอนอีกครั้ง โดยให้ใช้ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานที่เสนอโดยนายวรศิษฎ์ พรรคภูมิใจไทย เป็นร่างหลักในการพิจารณา
วันนี้ (20 พ.ค.2568) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องต่อ กกต.เพื่อพิจารณาส่งเรื่