Home
|
เว็บ หวย meฝาก 10 รับ 100 joker ล่าสุด

วานนี้ (21 ธ.ค.2564) สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเ

เว็บ หวย meฝาก 10 รับ 100 joker ล่าสุด

ภัยแล้งส่งผลให้เกิดความเดือดร้อนกับชาวบ้านกว่า 1,500 ครัวเรือน ใน อ.เบตง จ.ยะลา หลังจากฝายน้ำในพื้นที่แห้งขอด น้ำไม่พอผลิตประปา และยังส่งผลถึงสวนทุเรียน ขาดน้ำที่จะไปดูแลผลผลิต อ่านข่าว : ร้อนฉ่า! ไทย

การเลือกตั้เว็บ หวย meฝาก 10 รับ 100 joker ล่าสุดง อบต.28 พ.ย.นี้ นอกจากความพิเศษที่เป็นการเลือกตั้งครั้งแรกหลังจากต้องว่างเว้นไปนานถึง 8 ปี ยังมีอีกเรื่องที่น่าสนใจคือ มีความคืบหน้าในการถ่ายโอนภารกิจตาม “แผนและขั้นตอนกระจายอำนา

การเลือกตั้เว็บ หวย meฝาก 10 รับ 100 joker ล่าสุดง อบต.28 พ.ย.นี้ นอกจากความพิเศษที่เป็นการเลือกตั้งครั้งแรกหลังจากต้องว่างเว้นไปนานถึง 8 ปี ยังมีอีกเรื่องที่น่าสนใจคือ มีความคืบหน้าในการถ่ายโอนภารกิจตาม “แผนและขั้นตอนกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” โดยเฉพาะภารกิจด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ต้องปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ปัญหาที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ไทยพีบีเอสพูดคุยกับ นายธนพร ศรียากูล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อหาคำตอบว่า ทำไมการมี อบต.ที่มาจากการเลือกตั้งจึงสำคัญต่อสถานการณ์ปัญหาด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภารกิจอะไรบ้างที่ถ่ายโอนไปแล้ว ภารกิจอะไรที่ยังรออยู่ และหากการเมืองเปลี่ยนจะมีผลต่อกระบวนการกระจายอำนาจหรือไม่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ก็คือการจัดการโดยรัฐในรูปแบบหนึ่ง ปกติการจัดการของรัฐมี 2 รูปแบบ หนึ่งคือ การจัดการโดยรัฐส่วนกลาง คือ กระทรวง ทบวง กรม และอย่างที่สองคือ รัฐส่วนกลางแบ่งอำนาจไปให้จังหวัด และผู้ปฏิบัติการจริงๆ ก็คือ อปท. ดังนั้น หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น จะมีความสำคัญกับเรื่องทรัพยากรธรรชาติและสิ่งแวดล้อมมาก เพราะเป็นหน่วยที่อยู่ใกล้ชิดปัญหาที่สุด สมมุติเกิดเหตุไฟป่า หรือเกิดเหตุน้ำเสีย กว่าที่ ทสจ. หรือ คพ. จะรู้เรื่อง คนที่รู้เรื่องก่อนคือ อปท. เพราะเวลาชาวบ้านเดือดร้อน เขาก็ต้องร้องไปที่เทศบาลหรือ อบต. ก่อน และการที่ อบต.มาจากการเลือกตั้ง นั่นหมายความว่าเขาอยู่เป็นวาระละ 4 ปี เขาก็ต้องทำงานเหมือนรัฐบาล ถ้าบริหารจัดการท้องถิ่นนั้นได้ดี ทรัพยากรธรรชาติดี สนองตอบความต้องการ และท้องถิ่นนั้นมีความยั่งยืน ประชาชนก็อาจจะมอบความไว้วางใจต่อ แต่ถ้าบริหารจัดการได้ไม่ดี ก็เป็นโอกาสของกลุ่มใหม่ที่ประชาชนก็อาจจะเลือกเข้ามาทำหน้าที่แทน อบต.จึงเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นหน่วยงานของรัฐเพียงหน่วยงานเดียวที่อยู่ในพื้นที่และใกล้ชิดปัญหาทรัพยากรธรรมชาติมากที่สุด นี่คือหลักการ ซึ่งสอดคล้องกับการจัดการสิ่งแวดล้อมที่หน่วยที่อยู่ในพื้นที่คือหน่วยที่รู้ดีที่สุด และทรัพยากรธรรมชาติเป็นสิ่งที่ต้องตอบสนองต่อความต้องการและความยั่งยืนของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ นี่คือหลักการโดยทั่วไป “แผนกำหนดขั้นตอนกระจายอำนาจให้ อบต.” เป็นไปตามพ.ร.บ.กําหนดแผนและขั้นตอนการกระจาย อํานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 กฎหมายฉบับนี้ มีศักดิ์เป็นกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญของฉบับปี 2540 ตามกระแสธงเขียวของรัฐธรรมนูญปี 2540 ต้องกระจายอำนาจให้ท้องถิ่น โดยเฉพาะการกระจายอำนาจด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แผนฯ ฉบับที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมที่เข้มๆ คือ แผนฉบับที่ 2 ซึ่งออกมาใช้ตั้งแต่ปี 2551 ถึงปัจจุบัน ใช้มา 13 ปีแล้ว ปรากฏว่ามีการถ่ายโอนภารกิจต่างๆ ไปให้ อปท. หลายอย่าง เช่น การจ่ายเบี้ยยังชีพ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก รพสต. แต่ปรากฏว่าด้านทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม กลับไม่ค่อยมีใครพูดถึง ทั้งๆ ที่เป็นภารกิจและบทบาทของ อบต.โดยแท้ ส่วนราชการที่รับผิดชอบไม่มีใครอยากจะสูญเสียอำนาจนี้ เพราะส่วนราชการจะอยู่ได้ต้องมีบุคลากรและมีภารกิจ เพราะจะไปผูกพันกับงบประมาณที่หน่วยงานจะได้รับ คำถามคือ ถ้ากระจายอำนาจส่วนนี้มาให้ท้องถิ่น ตัวเองก็มีความจำเป็นลดน้อยลง ความสำคัญของตัวเองก็ลดน้อยลง ก็จะมีผลต่องบประมาณที่ได้รับการจัดสรรจากสำนักงบก็ลดน้อยลง เพราะภารกิจไม่ได้อยู่กับตัวเองได้ แต่ไปอยู่กับท้องถิ่น แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ประสิทธิผล อย่างเรื่องพื้นที่ป่าก็ลดลงตลอด ไม่ว่าจะเป็นกรมอุทยานหรือกรมป่าไม้ วันนี้เหตุการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว การทำงานในรูปแบบเดิมมันไม่ตอบโจทย์ปัญหาด้านทรัพยากร ธรรมชาติ โดยเฉพาะปัญหาในยุคโลกร้อน เพราะมันตามมาด้วยความเทอะทะและอุ้ยอ้าย สิ่งที่ได้ทำไปแล้ว เรื่องแรกคือ “ไฟป่า” ฤดูแล้งมาทุกปี และเป็นสาเหตุของปัญหาฝุ่น PM 2.5 หลายคนอาจจะไม่ทราบว่า การถ่ายโอนภารกิจบริหารจัดการไฟป่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติได้ถ่ายโอนมาให้ อบต. นานแล้ว แต่ปัญหาคือ ถ่ายโอนแต่งาน แต่ไม่ได้ถ่ายโอนงบประมาณให้ กรมป่าไม้พอถ่ายโอนมาแล้ว หน่วยงานก็ไม่มีสิทธิไปตั้งงบขอ เพราะสำนักงบประมาณบอกว่าภารกิจนี้ถ่ายโอนไปให้ อบต.แล้ว สิ่งที่คณะกรรมการกระจายอำนาจฯ ทำก็คือ ตั้งแต่ปีงบฯ 2566 เป็นต้นไป การกำหนดให้รัฐบาลต้องจัดสรรเงินอุดหนุนด้านการบริหารจัดการไฟป่าให้กับ อบต.และเทศบาลตำบลที่รับผิดชอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ อบต.เล็ก รับผิดชอบพื้นที่ ก็ได้เงินอุดหนุนเยอะ อบต.ไหนมีพื้นที่รับผิดชอบน้อย ก็ได้น้อยไปตามสัดส่วน ไม่ใช้วิธีการหารเท่า แต่ใช้วิธีดูตามพื้นที่รับผิดชอบจริงๆ กรณีอุบัติเหตุไฟไหม้โรงงานหมิงตี้ที่ จ.สมุทรปราการ หลายคนอาจไม่ทราบว่าโรงงานนั้นตั้งอยู่ในพื้นที่ อบต. ดังนั้นการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมโดยอบต. จึงมีความสำคัญจะต้องเพิ่มความสามารถในการเข้าไปกำกับดูแลตรงนี้ให้ อบต. สมมุติว่า มีโรงงานอยู่ในพื้นที่แล้ววงรอบในการที่รัฐจะต้องเข้าไปดูโรงงาน เช่น ถ้ารอให้หน่วยงานระดับจังหวัดมาตรวจ บางทีก็ 3 เดือนหรือ 5 เดือน ตรวจที แต่ท้องถิ่นเขาอยู่ใกล้ที่สุด เขาตรวจได้ทุกอาทิตย์ ดังนั้น กรณีโรงงานเคมีที่มีอุบัติเหตุที่ จ.สมุทรปราการ มันจะเกิดขึ้นน้อยลง ถ้าเรามีการถ่ายโอนภารกิจเรื่องการกำกับดูแลโรงงานอุตสาหกรรมพวกนี้ โอนงบประมาณ โอนบุคลากรมาให้ อบต. แต่ต้องยอมรับว่า อบต.อาจจะยังไม่มีความชำนาญเพียงพอ กรมโรงงานก็ต้องเป็นพี่เลี้ยง ไม่ใช่ว่าถ่ายโอนแล้วก็ปล่อยเขาลอยแพ สิ่งที่กรมโรงงานต้องทำคือ เมื่อถ่ายโอนแล้ว ก็ต้องไปเป็นพี่เลี้ยงให้ก่อน เมื่อเขาแข็งแรงก็ค่อยๆ ปล่อย เชื่อว่าภายใน 3-5 ปี อบต.ก็สามารถรับช่วงงานต่อจากกรมโรงงานได้ ถามว่าการเมืองเปลี่ยนจะมีผลไหม คงมีผลคือประธานเปลี่ยน เพราะประธานคือรองนายกรัฐมนตรีที่นายกฯ มอบหมาย แต่คิดว่าวันนี้ คำว่า “กระจายอำนาจ” มันเป็นทิศทางหลักของโลก ผมไม่ค่อยกังวลและไม่รู้สึกว่าจะเป็นเรื่องประหลาดอะไร ถ้าเกิดรัฐบาลเปลี่ยน ตัวบุคคลที่มาดำรงตำแหน่งประธานจะเปลี่ยน ก็เป็นเรื่องปกติ แต่เชื่อมั่นว่า ทิศทางของการกระจายอำนาจเป็นทิศทางหลักของโลก บุคลากรอาจเปลี่ยนไปตามวาระและโอกาส แต่ทิศทางมันไม่เปลี่ยน ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีตัวกฎหมายที่รองรับอย่างชัดเจน ทุกอย่างก็ยังเดินหน้าไปได้ และเชื่อว่านับวันการกระจายอำนาจจะถูกทำให้เข้มข้นขึ้นไปอีก จะเห็นว่าวันนี้ทุกพรรคที่กำลังจะหาเสียงเลือกตั้งในรอบหน้า พรรคไหนไม่พูดเรื่องกระจายอำนาจ พรรคนั้นถือว่าล้าสมัย การเลือกตั้งวันที่ 28 พ.ย. นี้ จะมีทิศทางใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย หนึ่ง บุคลากรใหม่ๆ ที่มีความรู้ความสามารถ กลับไปทำงานรับใช้ท้องถิ่นมากขึ้น สอง กระแสการกระจายอำนาจ สาม นโยบายกระจายอำนาจก็สอดคล้องกัน สี่ การที่เว้นวรรคการเลือกตั้งมา 8 ปี ปัญหาต่างๆ ไม่ได้หยุดตาม ไม่ได้ถูกแช่แข็งตามตำแหน่งนายก อบต. จึงต้องการรูปแบบใหม่ในการบริหารจัดการ ซึ่ง อบต.ในยุคใหม่ เขารู้ดีว่าปัญหาที่เขาต้องเข้ามาเผชิญ มันซับซ้อนขึ้นแค่ไหน และเมื่อสิ่งเขาเผชิญมันซับซ้อน แต่เขาต้องจัดการมันให้ได้ เขาก็ต้องใช้ความสามารถที่มีอยู่ จะสอดรับกับการที่มีการถ่ายโอนภารกิจต่างๆ ให้อบต.เพิ่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชน อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง เปิดหีบ "เลือกตั้ง อบต. 2564" ปชช.ทั่วประเทศทยอยใช้สิทธิ เลือกตั้ง อบต.ที่ "เชียงราย" บัตรลงคะแนนหาย 1 เล่ม เพื่อนบ้านบุกทำร้าย "สจ.อดิศักดิ์" ผู้สมัคร อบต.เขต 1 มหาสารคาม

พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำใ

เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.2566 บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชัน จำกัด (มหาชน) ส่งหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งปร

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ประชาชนผู้ที่มีภูมิคุ้มกันโรคโควิด-

การเลือกตั้เว็บ หวย meฝาก 10 รับ 100 joker ล่าสุดง อบต.28 พ.ย.นี้ นอกจากความพิเศษที่เป็นการเลือกตั้งครั้งแรกหลังจากต้องว่างเว้นไปนานถึง 8 ปี ยังมีอีกเรื่องที่น่าสนใจคือ มีความคืบหน้าในการถ่ายโอนภารกิจตาม “แผนและขั้นตอนกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” โดยเฉพาะภารกิจด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ต้องปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ปัญหาที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ไทยพีบีเอสพูดคุยกับ นายธนพร ศรียากูล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อหาคำตอบว่า ทำไมการมี อบต.ที่มาจากการเลือกตั้งจึงสำคัญต่อสถานการณ์ปัญหาด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภารกิจอะไรบ้างที่ถ่ายโอนไปแล้ว ภารกิจอะไรที่ยังรออยู่ และหากการเมืองเปลี่ยนจะมีผลต่อกระบวนการกระจายอำนาจหรือไม่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ก็คือการจัดการโดยรัฐในรูปแบบหนึ่ง ปกติการจัดการของรัฐมี 2 รูปแบบ หนึ่งคือ การจัดการโดยรัฐส่วนกลาง คือ กระทรวง ทบวง กรม และอย่างที่สองคือ รัฐส่วนกลางแบ่งอำนาจไปให้จังหวัด และผู้ปฏิบัติการจริงๆ ก็คือ อปท. ดังนั้น หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น จะมีความสำคัญกับเรื่องทรัพยากรธรรชาติและสิ่งแวดล้อมมาก เพราะเป็นหน่วยที่อยู่ใกล้ชิดปัญหาที่สุด สมมุติเกิดเหตุไฟป่า หรือเกิดเหตุน้ำเสีย กว่าที่ ทสจ. หรือ คพ. จะรู้เรื่อง คนที่รู้เรื่องก่อนคือ อปท. เพราะเวลาชาวบ้านเดือดร้อน เขาก็ต้องร้องไปที่เทศบาลหรือ อบต. ก่อน และการที่ อบต.มาจากการเลือกตั้ง นั่นหมายความว่าเขาอยู่เป็นวาระละ 4 ปี เขาก็ต้องทำงานเหมือนรัฐบาล ถ้าบริหารจัดการท้องถิ่นนั้นได้ดี ทรัพยากรธรรชาติดี สนองตอบความต้องการ และท้องถิ่นนั้นมีความยั่งยืน ประชาชนก็อาจจะมอบความไว้วางใจต่อ แต่ถ้าบริหารจัดการได้ไม่ดี ก็เป็นโอกาสของกลุ่มใหม่ที่ประชาชนก็อาจจะเลือกเข้ามาทำหน้าที่แทน อบต.จึงเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นหน่วยงานของรัฐเพียงหน่วยงานเดียวที่อยู่ในพื้นที่และใกล้ชิดปัญหาทรัพยากรธรรมชาติมากที่สุด นี่คือหลักการ ซึ่งสอดคล้องกับการจัดการสิ่งแวดล้อมที่หน่วยที่อยู่ในพื้นที่คือหน่วยที่รู้ดีที่สุด และทรัพยากรธรรมชาติเป็นสิ่งที่ต้องตอบสนองต่อความต้องการและความยั่งยืนของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ นี่คือหลักการโดยทั่วไป “แผนกำหนดขั้นตอนกระจายอำนาจให้ อบต.” เป็นไปตามพ.ร.บ.กําหนดแผนและขั้นตอนการกระจาย อํานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 กฎหมายฉบับนี้ มีศักดิ์เป็นกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญของฉบับปี 2540 ตามกระแสธงเขียวของรัฐธรรมนูญปี 2540 ต้องกระจายอำนาจให้ท้องถิ่น โดยเฉพาะการกระจายอำนาจด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แผนฯ ฉบับที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมที่เข้มๆ คือ แผนฉบับที่ 2 ซึ่งออกมาใช้ตั้งแต่ปี 2551 ถึงปัจจุบัน ใช้มา 13 ปีแล้ว ปรากฏว่ามีการถ่ายโอนภารกิจต่างๆ ไปให้ อปท. หลายอย่าง เช่น การจ่ายเบี้ยยังชีพ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก รพสต. แต่ปรากฏว่าด้านทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม กลับไม่ค่อยมีใครพูดถึง ทั้งๆ ที่เป็นภารกิจและบทบาทของ อบต.โดยแท้ ส่วนราชการที่รับผิดชอบไม่มีใครอยากจะสูญเสียอำนาจนี้ เพราะส่วนราชการจะอยู่ได้ต้องมีบุคลากรและมีภารกิจ เพราะจะไปผูกพันกับงบประมาณที่หน่วยงานจะได้รับ คำถามคือ ถ้ากระจายอำนาจส่วนนี้มาให้ท้องถิ่น ตัวเองก็มีความจำเป็นลดน้อยลง ความสำคัญของตัวเองก็ลดน้อยลง ก็จะมีผลต่องบประมาณที่ได้รับการจัดสรรจากสำนักงบก็ลดน้อยลง เพราะภารกิจไม่ได้อยู่กับตัวเองได้ แต่ไปอยู่กับท้องถิ่น แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ประสิทธิผล อย่างเรื่องพื้นที่ป่าก็ลดลงตลอด ไม่ว่าจะเป็นกรมอุทยานหรือกรมป่าไม้ วันนี้เหตุการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว การทำงานในรูปแบบเดิมมันไม่ตอบโจทย์ปัญหาด้านทรัพยากร ธรรมชาติ โดยเฉพาะปัญหาในยุคโลกร้อน เพราะมันตามมาด้วยความเทอะทะและอุ้ยอ้าย สิ่งที่ได้ทำไปแล้ว เรื่องแรกคือ “ไฟป่า” ฤดูแล้งมาทุกปี และเป็นสาเหตุของปัญหาฝุ่น PM 2.5 หลายคนอาจจะไม่ทราบว่า การถ่ายโอนภารกิจบริหารจัดการไฟป่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติได้ถ่ายโอนมาให้ อบต. นานแล้ว แต่ปัญหาคือ ถ่ายโอนแต่งาน แต่ไม่ได้ถ่ายโอนงบประมาณให้ กรมป่าไม้พอถ่ายโอนมาแล้ว หน่วยงานก็ไม่มีสิทธิไปตั้งงบขอ เพราะสำนักงบประมาณบอกว่าภารกิจนี้ถ่ายโอนไปให้ อบต.แล้ว สิ่งที่คณะกรรมการกระจายอำนาจฯ ทำก็คือ ตั้งแต่ปีงบฯ 2566 เป็นต้นไป การกำหนดให้รัฐบาลต้องจัดสรรเงินอุดหนุนด้านการบริหารจัดการไฟป่าให้กับ อบต.และเทศบาลตำบลที่รับผิดชอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ อบต.เล็ก รับผิดชอบพื้นที่ ก็ได้เงินอุดหนุนเยอะ อบต.ไหนมีพื้นที่รับผิดชอบน้อย ก็ได้น้อยไปตามสัดส่วน ไม่ใช้วิธีการหารเท่า แต่ใช้วิธีดูตามพื้นที่รับผิดชอบจริงๆ กรณีอุบัติเหตุไฟไหม้โรงงานหมิงตี้ที่ จ.สมุทรปราการ หลายคนอาจไม่ทราบว่าโรงงานนั้นตั้งอยู่ในพื้นที่ อบต. ดังนั้นการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมโดยอบต. จึงมีความสำคัญจะต้องเพิ่มความสามารถในการเข้าไปกำกับดูแลตรงนี้ให้ อบต. สมมุติว่า มีโรงงานอยู่ในพื้นที่แล้ววงรอบในการที่รัฐจะต้องเข้าไปดูโรงงาน เช่น ถ้ารอให้หน่วยงานระดับจังหวัดมาตรวจ บางทีก็ 3 เดือนหรือ 5 เดือน ตรวจที แต่ท้องถิ่นเขาอยู่ใกล้ที่สุด เขาตรวจได้ทุกอาทิตย์ ดังนั้น กรณีโรงงานเคมีที่มีอุบัติเหตุที่ จ.สมุทรปราการ มันจะเกิดขึ้นน้อยลง ถ้าเรามีการถ่ายโอนภารกิจเรื่องการกำกับดูแลโรงงานอุตสาหกรรมพวกนี้ โอนงบประมาณ โอนบุคลากรมาให้ อบต. แต่ต้องยอมรับว่า อบต.อาจจะยังไม่มีความชำนาญเพียงพอ กรมโรงงานก็ต้องเป็นพี่เลี้ยง ไม่ใช่ว่าถ่ายโอนแล้วก็ปล่อยเขาลอยแพ สิ่งที่กรมโรงงานต้องทำคือ เมื่อถ่ายโอนแล้ว ก็ต้องไปเป็นพี่เลี้ยงให้ก่อน เมื่อเขาแข็งแรงก็ค่อยๆ ปล่อย เชื่อว่าภายใน 3-5 ปี อบต.ก็สามารถรับช่วงงานต่อจากกรมโรงงานได้ ถามว่าการเมืองเปลี่ยนจะมีผลไหม คงมีผลคือประธานเปลี่ยน เพราะประธานคือรองนายกรัฐมนตรีที่นายกฯ มอบหมาย แต่คิดว่าวันนี้ คำว่า “กระจายอำนาจ” มันเป็นทิศทางหลักของโลก ผมไม่ค่อยกังวลและไม่รู้สึกว่าจะเป็นเรื่องประหลาดอะไร ถ้าเกิดรัฐบาลเปลี่ยน ตัวบุคคลที่มาดำรงตำแหน่งประธานจะเปลี่ยน ก็เป็นเรื่องปกติ แต่เชื่อมั่นว่า ทิศทางของการกระจายอำนาจเป็นทิศทางหลักของโลก บุคลากรอาจเปลี่ยนไปตามวาระและโอกาส แต่ทิศทางมันไม่เปลี่ยน ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีตัวกฎหมายที่รองรับอย่างชัดเจน ทุกอย่างก็ยังเดินหน้าไปได้ และเชื่อว่านับวันการกระจายอำนาจจะถูกทำให้เข้มข้นขึ้นไปอีก จะเห็นว่าวันนี้ทุกพรรคที่กำลังจะหาเสียงเลือกตั้งในรอบหน้า พรรคไหนไม่พูดเรื่องกระจายอำนาจ พรรคนั้นถือว่าล้าสมัย การเลือกตั้งวันที่ 28 พ.ย. นี้ จะมีทิศทางใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย หนึ่ง บุคลากรใหม่ๆ ที่มีความรู้ความสามารถ กลับไปทำงานรับใช้ท้องถิ่นมากขึ้น สอง กระแสการกระจายอำนาจ สาม นโยบายกระจายอำนาจก็สอดคล้องกัน สี่ การที่เว้นวรรคการเลือกตั้งมา 8 ปี ปัญหาต่างๆ ไม่ได้หยุดตาม ไม่ได้ถูกแช่แข็งตามตำแหน่งนายก อบต. จึงต้องการรูปแบบใหม่ในการบริหารจัดการ ซึ่ง อบต.ในยุคใหม่ เขารู้ดีว่าปัญหาที่เขาต้องเข้ามาเผชิญ มันซับซ้อนขึ้นแค่ไหน และเมื่อสิ่งเขาเผชิญมันซับซ้อน แต่เขาต้องจัดการมันให้ได้ เขาก็ต้องใช้ความสามารถที่มีอยู่ จะสอดรับกับการที่มีการถ่ายโอนภารกิจต่างๆ ให้อบต.เพิ่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชน อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง เปิดหีบ "เลือกตั้ง อบต. 2564" ปชช.ทั่วประเทศทยอยใช้สิทธิ เลือกตั้ง อบต.ที่ "เชียงราย" บัตรลงคะแนนหาย 1 เล่ม เพื่อนบ้านบุกทำร้าย "สจ.อดิศักดิ์" ผู้สมัคร อบต.เขต 1 มหาสารคาม

วันนี้(12 เม.ย.)เวลา 10.30 น. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้สมัคร ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ และประธานยุทธ