วันนี้ (7 ก.พ.2565) กระทรวงพลังงาน ออกมาชี้สถานการณ์พลังงานโลกที่มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นทุกชนิด ทั้งราค

วันนี้ (31 พ.ค.2568) การประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ วาระพิจารณาเรื่องด่วน ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วงเงิน 3,780,600 ล้านบาท เพื่อลงมติในวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

วันนี้ (7 ก.พ.2565) กระทรวงพลังงาน ออกมาชี้สถานการณ์พลังงานโลกที่มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นทุกชนิด ทั้งราคาน้ำมัน ราคาแอลพีจี และเอ็นจีวี โดยราคาน้ำมันตลาดโลกปรับสูงขึ้นจากระดับ 20 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เมื่อช่วงปี 2563 จนต้นปี2565 ราคาขยับขึ้นแตะ 90 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันตลาดโลกช่วง 3 เดือนนี้ จะอยู่ที่ 88-93 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และทั้งปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 78-80 ดอลลาร์สหรัฐต่อลบาร์เรล และยังต้องติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดอีกครั้ง โดยกระทรวงพลังงานเตรียมมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพผู้มีรายได้น้อย เช่น การช่วยเหลือก๊าซหุ้งต้มแอลพีจีผ่านบัตรสวัสดิการ 100 บาทต่อคน กว่า 13 ล้านคน ซึ่งกระทรวงพลังงานจะรับภาระดูแล 55 บาทต่อคน ส่วนที่เหลือเป็นของกระทรวงคลัง ดังนั้น จะต้องแหล่งเงินเพิ่มเติม โดยจะหารือกับ สภาพัฒน์ ขอใช้งบกลางของสำนักงบประมาณ เพราะเงินกู้ 30,000 ล้านบาท จาก พ.ร.บ.เงินกู้ 500,000 ล้านบาท ที่จะเติมเงินเข้าในกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง คาดว่าจะได้เงินช่วงเดือน เม.ย.นี้ จะไม่เพียงพอ เนื่องจากjokerสล็อตฟรีเครดิตnumberต้องใช้ดูแลราคาน้ำมันดีเซล ก๊าซหุ้งต้มเอ็นจีวี และแอลพีจี ที่จะตรึงราคาถึงแค่สิ้นเดือน มี.ค.นี้ คาดว่าจะสรุปมาตรการทั้งหมดได้ไม่เกินสิ้นเดือน ก.พ.2565 ส่วนกรณีที่กลุ่มรถบรรทุกจะเดินทางมายังกระทรวงพลังงาน เพื่อกดดันให้ดูแลราคาน้ำมันเหลือ 25 บาทต่อลิตร อยากขอความเห็นใจ เพราะไม่สามารถทำได้ เนื่องจากปัจจุบันเงินกองทุนฯ ติดลบกว่า 14,000 ล้านบาท และยังมีภาระตรึงราคาน้ำมันต่อเนื่อง ส่วนราคาก๊าซฯแอลพีจี เมื่อหมดมาตรการช่วยเหลือที่ 318 บาทต่อถัง จาก 432 บาทต่อถัง จำเป็นต้องทยอยขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.นี้ เป็น 333 บาทต่อถัง และจะปรับขึ้นอีก เป็น 363 บาทต่อถัง จะช่วยลดภาระเงินกองทุนเฉลี่ย 270-280 ล้านบาทต่อเดือน อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง นายกฯ วอนเข้าใจสถานการณ์ "ราคาน้ำมัน" ระบุเดือดร้อนกันทุกภาคส่วน

วันนี้ (15 ม.ค.2568) ศาลรัฐธรรมนูญ ออกเอกสารข่าวผลการประชุม โดยมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องของนายวินิจ จินใจ ไว้พิจารณา โดยคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 213 ว่าการ