อ่านข่าวอื่นๆ แนะตรุษจีนปีนี้เลือกซื้อสินค้า "ปศุสัตว์ OK" งดจัด "ตรุษจีนเยาวราช" หวั่นแพร่ระบาดโควิด "พาณิชย์" ตรวจตลาดสี่มุมเมือง ชี้ราคาผัก-ผลไม้ขึ้นลงตามฤดูกาล
วันนี้ (12 มิ.ย.2566) พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ชี้แจงกรณีการจัดกิจกรรมของขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ ที่มีการจัดพิมพ์บัตรสอบถามความเห็นประชาชนผ่านสื่อโซเชียล สอบถามเรื่อง
วันนี้ (12 มิ.ย.2566) พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ชี้แจงกรณีการจัดกิจกรรมของขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ ที่มีการจัดพิมพ์บัตรสอบถามความเห็นประชาชนผ่านสื่อโซเชียล สอบถามเรื่องให้ประชาชนชาวปัตตานีสามารถออกเสียงประชามติแยกตัวเป็นเอกราชได้ถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่คณะรัฐศาสตร์ มอ.ปัตตานี โดยระบุว่า กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และตำรวจภูธรภาค 9 อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริง เนื้อหาสาระกิจกรรมที่จัด ผู้เกี่ยวข้องทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง รวมถึงข้อมูลที่ปรากฏต่อสังคม ทั้งที่เป็นข่าว และการเผยแพร่ทางโซเชียล ว่ามีการกระทำที่ผิดกฎหมายเรื่องใดบ้าง พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ข้อมูลเบื้องต้นจะเกี่ยวข้องกับการแยกตัวเป็นเอกราช ซึ่งขัดรัฐธรรมนูญและผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสืบสวนและตรวจสอบข้อมูลโดยละเอียด ยืนยันว่าจะดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเปิดเผย ยุติธรรม ชเครดิต ฟรี joker ไม่ ต้อง ฝากฝาก 20 รับ 100 ไม่ ต้อง ทํา เทิ ร์ นัดเจน และตรวจ สอบว่ามีความผิดหรือไม่ ก่อนดำเนินการตามกฎหมายเท่าที่จำเป็น พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีกลไกลในการรับฟังความเห็นประชาชนในพื้นที่ ทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สภาสันติสุข รวมถึงอาศัยกลไกในทุกเวที ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลพยายามทำความเข้าใจถึงเหตุผลความจำเป็นการดำเนินการต่าง ๆ ต้องการให้ประชาชนในพื้นที่อยู่ดีกินดี ปลอดภัย ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสนับสนุนในสิ่งที่พื้นที่ต้องการทั้งด้านสังคม ศาสนา วัฒนธรรม และการศึกษา พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า การลงประชามติเรื่องของเอกราชนั้น รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดเจน ส่วนจะผิดกฎหมายมาตราย่อยอะไรบ้าง ต้องไปดูพฤติกรรม หลักฐาน สภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง กอ.รมน.เป็นหน่วยงานเจ้าภาพที่จะดำเนินการ โดยเชิญกระทรวงยุติธรรม สำนักอัยการ มาพูดคุยและให้ข้อเสนอแนะ พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีความพยายามสนับสนุนให้ประชาชนทุกกลุ่มได้แสดงความคิดเห็น ความต้องการ ภายใต้กรอบของกฎหมาย เพื่อให้คนในพื้นที่สามจังหวัด เข้าใจว่ารัฐบาลไม่ได้มีเจตนากดขี่ หรือบังคับ หรือมองว่าไม่ใช่ประชาชนคนไทย เพราะมองว่าท่านเป็นคนไทย และพยายามให้แสดงออกภายใต้กฎหมาย เมื่อถามว่าต้องดูไปถึงการหาเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมืองที่ผ่านมาด้วยหรือไม่ เลขาฯ สมช. ตอบว่า หากสังเกตการหาเสียงเลือกตั้งค่อนข้างสุดโต่ง และ สมช.มีข้อกังวลในหลายเรื่อง แต่หลังผลการเลือกตั้ง พบว่าฝ่ายการเมืองมีความนุ่มนวลของนโยบายที่จะทำต่อไป และนโยบายส่วนใหญ่สอดคล้องกับสิ่งที่เราทำอยู่ ส่วนจะเอาผิดพรรคการเมืองได้หรือไม่นั้น ยังตอบไม่ได้ ขณะนี้ยังไม่พบแรงสนับสนุนจากนอกประเทศ แต่ไม่ได้ตัดประเด็นนี้ เพราะทุกวันนี้มีการพูดคุยกับต่างประเทศทั้งในระดับนโยบาย ฝ่ายต่างประเทศ และองค์กรที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศ ได้พยายามพูดคุยให้รับทราบสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนใต้ ส่วนกรณีองค์กรต่างประเทศประสงค์ลงพื้นที่ชายแดนใต้นั้น เลขาฯ สมช. อธิบายขั้นตอนว่า ต้องแจ้งกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) จากนั้น กต.จะพูดคุยกับ สมช.ถึงวัตถุ ประสงค์ หากไม่กระทบเรื่องใด ๆ ที่เป็นปัญหาต่อประเทศ จะให้ ศอ.บต.พูดคุยกับหน่วยงานความมั่นคงอื่น ๆ ก่อนให้องค์กรฯ ลงพื้นที่ได้ "เราไม่ได้ต้องการไปต่อสู้ หรือปิดกั้นความคิด แต่ต้องดูบริบทของในพื้นที่ว่าจังหวัดชายแดนภาคใต้เดินหน้าแก้ปัญหามาถึงจุดนี้แล้ว แม้มีบางเรื่องที่ยังต้องปรับปรุง และพัฒนาแนวทางให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น แต่คิดว่าเดินมาถูกทาง ทั้งความพยายามสร้างความสงบ พัฒนาพื้นที่ให้ตรงความต้องการประชาชน ให้กินดีอยู่ดี มีสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ดี มีศักยภาพในการประกอบอาชีพ มีรายได้" นอกจากนี้ ยังมีความพยายามพูดคุยกับผู้เห็นต่างทางการเมืองมาโดยตลอด และยกระดับการพูดคุยให้กว้างขวางมากขึ้น ไม่เฉพาะกลุ่ม BRN รวมทั้งพยายามเชิญนักการเมืองมาพูดคุยทำความเข้าใจ และช่วยกันแก้ปัญหา เมื่อถามว่าฝ่ายความมั่นคงทำงานลำบากหรือไม่ในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล เลขาฯ สมช. กล่าวว่า ไม่ลำบาก ในฐานะที่ สมช.ดูแลนโยบายความมั่นคงภาพรวม ได้พูดกันชัดเจนว่าต้องทำงานบนพื้นฐานข้อเท็จจริง ตามข้อมูลการวิเคราะห์แผนการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาล ก็ต้องเสนอข้อมูลตามบทบาทหน้าที่และกฎหมาย
แม้อาจมองว่า “กระเช้าไฟฟ้า” นำพาความสะดวกสบายให้นักท่องเที่ยว คนที่เดินเท้าไม่ไหว เด็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ ฯลฯ ที่อยากขึ้นไปเที่ยวภูกระดึง รวมไปถึงการขนย้ายสิ่งของต่าง ๆ แต่ก็มีคำถามถึงผลกระทบต่อทรัพยา
ระดมกำลัง จนท.1,600 นาย คุมเวทีฟังความเห็นโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา เวทีรับฟังความคิดเห็นผู้มีส่วนได้เสียโ