การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนที่จะจัดขึ้นในวันที่ 16 ต.ค.2565 นี้ ประเด็นที่ทั่วโลกจับตาคือ
วันนี้ (21 ก.ค.2565) ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักนานหลายชั่วโมงในพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เมื่อช่วงหัวค่ำวานนี้ หลายพื้นที่ถูกน้ำท่วมขัง เช้าวันนี้มหาวิทยาลัยรามคำแหง ประชาสัมพันธ์แจ้งให้นักศึกษาทราบว่า ได้งดบร
การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนที่จะจัดขึ้นในวันที่ 16 ต.ค.2565 นี้ ประเด็นที่ทั่วโลกจับตาคือ การประกาศผ่อนปรนนโยบายโควิดเป็นศูนย์ เพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจจีนกระเตื้อง หลังจากที่จีนยังอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวมาตลอดระยะเวลาการระบาดของโรคโควิด-19 อีก ส่วนอีกประเด็นใหญ่คือ การคัดเลือก “คณะกรรมการกรมการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (Politburo Standing Committee)” ซึ่งน่าจับตามองว่า “ทายาททางการเมือง” ของ สี จิ้นผิง จะเป็นคนยุคไหน คณะกรรมการกรมการเมือง (Politburo standing committee) จะถือว่าเป็นผู้ที่มีอำนาจสูงสุดซึ่งกุมอำนาจของเหล่าผู้มีอำนาจรองลงมาอีกที และจะเลือก “เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน” ในปัจจุบัน มีคณะกรรมการกรมการเมือง 7 คน รวมถึง สี จิ้นผิง ด้วย BBC ไทย รวบรวมรายชื่อผู้ชิงตำแหน่ง “คณะกรรมการกรมการเมือง” ทั้งหมด 9 คน ซึ่งทั้ง 9 คนนี้มีช่วงอายุตั้งแต่ 60-66 ปี สิ่งที่น่าสนใจคือ “สัดส่วนอายุของผู้ชิงตำแหน่ง” ผู้เชี่ยวชาญจีนกล่าวว่า ถ้าสัดส่วนจำนวนคนในกลุ่ม "คณะกรรมการกรมการเมือง" ค่อนไปทางอายุ 60 ต้นๆ มีความเป็นไปได้สูงที่ สี จิ้นผิง จะส่งต่อการปกครองให้คนรุ่นถัดไป แต่ต้องหมายถึงหลังจากนี้อีก 5 ปี ที่ ปธน.สี จะยอมลงจากตำแหน่งผู้นำสูงสุดของจีน แต่หากสัดส่วนจำนวนของ คณะกรรมการกรมการเมือง ค่อนไปทางอายุ 65 ปีขึ้นไป นั่นหมายถึง สี จิ้นผิง อาจต้องการเป็นประธานาธิบดีของจีนตลอดชีวิตของเขา เพื่อให้สอดคล้องกับการพยายามแก้รัฐธรรมนูญในปี ค.ศ.2018 เรื่องการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ที่สามารถเป็นได้ตลอดชีวิตของเขาเอง 1. เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งถือว่าเป็นผู้นำพรรค2. ประธานาธิบดี ผู้นำของรัฐบาลจีน3. ประธานคณะกรรมาธิการการสมัคร ขั้น ต่ํา 50ทหารส่วนกลาง ถือว่าเป็นผู้บัญชาการกองกำลังติดอาวุธของประเทศ นอกจากนั้น สี จิ้นผิง ยังเป็นที่รู้จักกันในนาม “ผู้นำสูงสุด” อีกด้วย โดย ปธน.สี จิ้นผิง ได้รับการอนุมัติจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน ถือเป็น “มติประวัติศาสตร์” ครั้งที่ 3 ของพรรค ที่ยกตำแหน่งนี้ให้ สี จิ้นผิง ต่อจากผู้นำสูงสุด เหมา เจ๋อตุง และ เติ้ง เสี่ยวผิง ที่มา : BBC
การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลภายใต้ยุทธการ “เด็ดหัว สอยนั่งร้าน” ที่เปิดฉากมาตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. ผ่านมาแล้ว 3 วัน คอการเมืองที่นั่งฟังมาเกือบ 40 ชั่วโมงไม่ผิดหวัง ทั้งวิวาทะที่ทั้งพรรคฝ่ายค้าน ผู้ถูกอ