Home
|
วิธี กด สล็อต ฟา โร

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. เตรียมขอศาลออกหมา

วิธี กด สล็อต ฟา โร

วันนี้ (26 มี.ค.2568) การตัดสินใจของอีลอน มัสก์ ที่เข้าไปมีบทบาทในวงการการเมือง โดยเฉพาะการเป็นหัวหน้าทีม DOGE ในรัฐบาลทรัมป์ ได้เปลี่ยนภาพลักษณ์ของ Tesla จากแบรนด์นวัตกรรมที่เป็นที่รักของกลุ่มเสรีนิย

วันนี้ (19 ธ.ค.2567) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ประชุมหารือติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบเจ้าหน้าที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กรณีออกเอกสารสิทธิหมิ่นเหม

รถบัสแบบแซสซี มีจุดอ่อนสำคัญ คือ ถ้าจุดชนเริ่มจากส่วนหัวด้านใดด้านหนึ่งและจุดที่ชนไม่ปะทะเข้ากับแซสซีโดยตรง จะทำให้เกิดการครูดด้านข้างของแซสซีจากหน้าสุดมาถึงตรงกลางรถ หรืออาจจะไปถึงหลังรถได้ เพราะไม่มีส่วนที่แข็งแรงของโครงสร้างมารองรับการปะทะไว้เลย โครงสร้างของรถบัสโดยสารในประเทศไทย คือ หนึ่งในปัจจัยใหญ่ที่ทำให้เกิดความสูญเสียเมื่อเกิดอุบัติเหตุกับรถบัส มุมมองของ วันชัย มีศิริ ผู้จัดการบริษัท บางกอกไฮแล็บ จำกัด ในฐานะนักวิศวกร วิเคราะห์ความสูญเสียจากเหตุรถโดยสารแบบ 2 ชั้น เส้นทาง กรุงเทพฯ-นาทวี(จ.สงขลา) พุ่งชนต้นไม้ที่บริเวณ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ช่วงรอยต่อคืนวันที่ 4-5 ธันวาคม 2566 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 15 คน โดยระบุว่า หากเปรีบเทียบโครงสร้างของรถบัสที่ประกอบในไทยพบว่ามีโอกาสเกิดความสูญเสียมากรถบัสที่ประกอบมาจากต่างประเทศ "หากวิเคราะห์สภาพรถบัสคันที่เกิดเหตุ เห็นได้ว่า คล้ายถูกผ่าออกเป็น 2 ซีก หลังจากที่พุ่งชนเข้ากับต้นไม้ข้างทาง สาเหตุเพราะรถ ใช้โครงสร้างแบบแซสซี (ดูภาพประกอบ) คือ มีลักษณะเป็นคานแข็งๆเหมือนกระดูกสันหลังอยู่ที่กลางตัวรถเพียงชิ้นเดียว ดังนั้นหากพุ่งเข้าชนด้านหน้า รถคันนี้จะมีส่วนที่แข็งแรงพอจะรับแรงปะทะได้เฉพาะช่วงกลางของตัวรถเท่านั้น แต่เหตุการณ์นี้รถฟุ่งเข้าชนต้นไม้จากหน้ารถด้านซ้าย ทำให้ฝั่งซ้ายเสียหายอย่างหนัก และผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ก็โดยสารที่ฝั่งซ้าย นั่นเป็นเพราะมีแซสซีตรงกลางรถรับแรงปะทะป้องกันฝั่งขวาไว้ได้มากกว่า” วันชัย อธิบาย วันชัย อธิบายสาเหตุที่รถบัสโดยสารในประเทศไทยยังคงใช้เทคโนโลยีเดิมๆในการประกอบรถว่า แม้จะมีเทคโนโลยีใหม่ที่ปลอดภัยกับผู้โดยสารมากกว่าแต่ผู้ประกอบการประกอบรถบัสใหญ่ ยังไม่พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง และไม่ได้หมายถึงเฉพาะรถบัส 2 ชั้น แต่รวมรถบัสทั้งหมด จริงๆการประกอบรถบัสก็มีพัฒนาการของโครงสร้างเพื่อความปลอดภัยเหมือนรถยนต์ คือ มี 2 รูปแบบ แบบที่หนึ่งเป็นรูปแบบเดิมที่ใช้โครงสร้างแบบแซสซีอย่างที่อธิบายไปแล้วว่ามีโอกาสจะเกิดความสูญเสียมากเมื่อเกิดการชนด้านหน้า เพราะเพียงแค่นำบอดี้รถมาครอบโครงสร้างที่เป็นคล้ายคานตัวเดียวอยู่ที่กลางรถเท่านั้น ตัวอย่างผังที่นั่ง ชนฝั่งซ้าย ฝั่งซ้ายจะตายเยอะ กรอบสีแดงตือ โครงแซสซี ตัวอย่างผังที่นั่ง ชนฝั่งซ้าย ฝั่งซ้ายจะตายเยอะ กรอบสีแดงตือ โครงแซสซี ส่วนอีกรูปแบบหนึ่ง เรียกว่า โครงสร้างรถบัสแบบ Monocoque หรือ ทำให้โครงสร้างเป็นลักษณะเดียวกับบอดี้รถที่ครอบคลุมเป็นชิ้นเดียวทั้งคัน เมื่อเกิดการชนก็จะมีส่วนที่แข็งไว้รองรับแรงปะทะอยู่ทุกส่วนของตัวรถ ซึ่งจะช่วยลดความสูญเสียจากที่เป็นอยู่ในปัจุบันไปได้มาก ... โดยเทคโนโลยีนี้ใช้กันมาประมาณ 15-20 ปีแล้วในหลายประเทศ แต่ไทยยังมีปัญหาในการเปลี่ยนผ่าน ปัญหาที่ วันชัย หมายถึงคือ ความพร้อมของโรงงานประกอบรถบัสในประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมาผู้ประกอบการกลุ่มนี้เกือบทั้งหมดมีสถานะเป็นกลุ่ม SME มีทุนอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านบาทเท่านั้น ทำให้ยังต้องใช้วิธีการประกอบรถบัสแบบดั้งเดิม เพราะหากจะเปลี่ยนไปผลิตหรือประกอบรถโดยใช้โครงสร้างแบบ Monocoque ก็จะต้องลงทุนสร้างโรงงานขึ้นมาใหม่เลย ซึ่งต้องมีทุนตั้งต้นในการสร้างโรงงานอย่างน้อยสูงถึง 3,000 ล้านบาท "ปัจจุบันผู้ประกอบการประกอบรถบัสในบ้านเรามีแต่ SME ก็ใช้วิธีที่ทำได้คือไปสั่งซื้อแซสซีเก่าของญี่ปุ่นมาจากเซียงกง แล้วนำมาประกอบ ตกแต่งเป็นรถใหม่ ส่วนการประกอบรถโดยใช้โครงสร้างแบบ Monocoque ก็มีอยู่บ้างในไทย แต่จะเหลือแต่ผู้ประกอบการรายใหญ่เพียง 2-3 รายเท่านั้นที่ทำได้ ซึ่งถ้าเราบังคับให้เปลี่ยนทันทีเลย ก็อาจจะกลายเป็นการผูกขาด" "และการเปลี่ยนผ่านก็มีความยากลำบาก เพราะความปลอดภัยมันยังวิ่งสวนทางกับศักยภาพของผู้ประกอบการ และหากรัฐบาลหรือหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบจะแก้ไขปัญหานี้ ก็ต้องวางแผนการเปลี่ยนผ่านระยะยาวให้ผู้ประกอบการได้ปรับตัว เพื่อให้เห็นรูปธรรมในอีก 5-10 ปี จากนี้ไป" วิศวกร วันชัย เสนอแนวทางระยะยาวที่รัฐบาลควรทำ แม้จะมองเห็นปัญหาในด้านความปลอดภัยจากโครงสร้างรถบัสแล้ว แต่ในเมื่อยังไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างของรถบัสโดยสารในประเทศไทยได้โดยเร็ว ในมุมมองทางวิศวกรรมของวันชัย จึงมีข้อเสนอที่ภาครัฐสามารถทำได้ทันทีเพื่อลดความสูญเสียจากเหตุการณ์เช่นนี้ได้ คือ การทำให้ "ไม่มีจุดปะทะ" อยู่ที่ข้างทาง "รถคันที่เกิดเหตุ พุ่งชนต้นไม้ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 92 เซนติเมตร ซึ่งเป็นต้นไม้ที่ขนาดใหญ่และเนื้อแข็งมาก เราจะเห็นได้ว่ารถบัสพังยับเยิน ถูกผ่าออกเป็น 2 ซีก แต่ต้นไม้ไม่เป็นอะไรเลย นั่นหมายความว่า ต้นไม้ใหญ่ข้างทางคล้ายเป็นกับดักที่ไปทำให้ความสูญเสียจากการที่รถไถลลงข้างมากมันรุนแรงขึ้นไปอีกมาก ซึ่งตามหลักวิศวกรรมการจราจรขนส่งแล้ว ไม่ควรมีต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง หรือวัตถุแข็งๆอยู่ที่ข้างทาง ซึ่งรถบัสที่ใช้ก็ไม่สามารถรับการปะทะได้ เมื่อไปเจอกับต้นไม้ขนาดใหญ่อีก ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสสร้างความสูญเสียมากขึ้นไปอีกหลายเท่า แต่ถ้าเราเปลี่ยนต้นไม้ใหญ่เหล่านี้ เป็นพุ่มไม้เตี้ยๆ ไม่มีลำต้นแข็งๆ ยังให้ความเป็นสีเขียวได้เหมือนเดิม แต่วิธี กด สล็อต ฟา โรหากมีรถไถลลงข้างทางไปแบบนี้ แล้วไถลลงไปโดยไม่เกิดการชน ก็จะเกิดความสูญเสียต่อผู้โดยสารน้อยกว่านี้มาก" วันชัย บอกว่า อยากขอเสนอให้ปลูกไม้พุ่มเสริมก่อน แล้วค่อยๆทยอยนำต้นไม้ใหญ่ออกไป ที่ผ่านมาเคยมีข้อเสนอให้นำต้นไม้ใหญ่ออกจากข้างทางมานานแล้วแต่ทำไม่สำเร็จ เพราะหน่วยงานนรัฐมักจะไปตัดต้นไม้ใหญ่ออกทีเดียวหมดทำให้ประชาชนไม่เข้าใจและออกมาต่อต้าน ดังนั้นหากจะเปลี่ยนแปลงพื้นที่ข้างทางให้ปลอดภัยเพิ่มขึ้น ก็ต้องทำอย่างมีกลยุทธ์และสร้างความเข้าใจกับประชาชนด้วย นอกจากนี้ ควรเพิ่มศักยภาพการรับแรงปะทะของรถ และกำจัดจุดที่มีโอกาสทำให้เกิดการปะทะออกจากเส้นทาง คือ ความปลอดภัยมากขึ้นของผู้โดยสารรถบัส ไม่ว่าจะเป็นรถประจำทางหรือรถทัศนาจร ข้อเสนอทั้ง 2 ประเด็นนี้ ยังเป็นข้อเสนอจากมุมมองทางวิศวกรรมที่มีโอกาสทำให้การเดินทางโดยรถบัสโดยสารของคนไทย มีความปลอดภัยมากขึ้นได้จริง หากมีแรงขับเคลื่อนทางนโยบายมาจากรัฐบาล

วันนี้ (6 มี.ค.2567) นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ นายอภิชาติ ศิริสุนทร ปร

รถบัสแบบแซสซี มีจุดอ่อนสำคัญ คือ ถ้าจุดชนเริ่มจากส่วนหัวด้านใดด้านหนึ่งและจุดที่ชนไม่ปะทะเข้ากับแซสซ

วันนี้ (19 มี.ค.2567) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า กรณีที่ท

รถบัสแบบแซสซี มีจุดอ่อนสำคัญ คือ ถ้าจุดชนเริ่มจากส่วนหัวด้านใดด้านหนึ่งและจุดที่ชนไม่ปะทะเข้ากับแซสซีโดยตรง จะทำให้เกิดการครูดด้านข้างของแซสซีจากหน้าสุดมาถึงตรงกลางรถ หรืออาจจะไปถึงหลังรถได้ เพราะไม่มีส่วนที่แข็งแรงของโครงสร้างมารองรับการปะทะไว้เลย โครงสร้างของรถบัสโดยสารในประเทศไทย คือ หนึ่งในปัจจัยใหญ่ที่ทำให้เกิดความสูญเสียเมื่อเกิดอุบัติเหตุกับรถบัส มุมมองของ วันชัย มีศิริ ผู้จัดการบริษัท บางกอกไฮแล็บ จำกัด ในฐานะนักวิศวกร วิเคราะห์ความสูญเสียจากเหตุรถโดยสารแบบ 2 ชั้น เส้นทาง กรุงเทพฯ-นาทวี(จ.สงขลา) พุ่งชนต้นไม้ที่บริเวณ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ช่วงรอยต่อคืนวันที่ 4-5 ธันวาคม 2566 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 15 คน โดยระบุว่า หากเปรีบเทียบโครงสร้างของรถบัสที่ประกอบในไทยพบว่ามีโอกาสเกิดความสูญเสียมากรถบัสที่ประกอบมาจากต่างประเทศ "หากวิเคราะห์สภาพรถบัสคันที่เกิดเหตุ เห็นได้ว่า คล้ายถูกผ่าออกเป็น 2 ซีก หลังจากที่พุ่งชนเข้ากับต้นไม้ข้างทาง สาเหตุเพราะรถ ใช้โครงสร้างแบบแซสซี (ดูภาพประกอบ) คือ มีลักษณะเป็นคานแข็งๆเหมือนกระดูกสันหลังอยู่ที่กลางตัวรถเพียงชิ้นเดียว ดังนั้นหากพุ่งเข้าชนด้านหน้า รถคันนี้จะมีส่วนที่แข็งแรงพอจะรับแรงปะทะได้เฉพาะช่วงกลางของตัวรถเท่านั้น แต่เหตุการณ์นี้รถฟุ่งเข้าชนต้นไม้จากหน้ารถด้านซ้าย ทำให้ฝั่งซ้ายเสียหายอย่างหนัก และผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ก็โดยสารที่ฝั่งซ้าย นั่นเป็นเพราะมีแซสซีตรงกลางรถรับแรงปะทะป้องกันฝั่งขวาไว้ได้มากกว่า” วันชัย อธิบาย วันชัย อธิบายสาเหตุที่รถบัสโดยสารในประเทศไทยยังคงใช้เทคโนโลยีเดิมๆในการประกอบรถว่า แม้จะมีเทคโนโลยีใหม่ที่ปลอดภัยกับผู้โดยสารมากกว่าแต่ผู้ประกอบการประกอบรถบัสใหญ่ ยังไม่พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง และไม่ได้หมายถึงเฉพาะรถบัส 2 ชั้น แต่รวมรถบัสทั้งหมด จริงๆการประกอบรถบัสก็มีพัฒนาการของโครงสร้างเพื่อความปลอดภัยเหมือนรถยนต์ คือ มี 2 รูปแบบ แบบที่หนึ่งเป็นรูปแบบเดิมที่ใช้โครงสร้างแบบแซสซีอย่างที่อธิบายไปแล้วว่ามีโอกาสจะเกิดความสูญเสียมากเมื่อเกิดการชนด้านหน้า เพราะเพียงแค่นำบอดี้รถมาครอบโครงสร้างที่เป็นคล้ายคานตัวเดียวอยู่ที่กลางรถเท่านั้น ตัวอย่างผังที่นั่ง ชนฝั่งซ้าย ฝั่งซ้ายจะตายเยอะ กรอบสีแดงตือ โครงแซสซี ตัวอย่างผังที่นั่ง ชนฝั่งซ้าย ฝั่งซ้ายจะตายเยอะ กรอบสีแดงตือ โครงแซสซี ส่วนอีกรูปแบบหนึ่ง เรียกว่า โครงสร้างรถบัสแบบ Monocoque หรือ ทำให้โครงสร้างเป็นลักษณะเดียวกับบอดี้รถที่ครอบคลุมเป็นชิ้นเดียวทั้งคัน เมื่อเกิดการชนก็จะมีส่วนที่แข็งไว้รองรับแรงปะทะอยู่ทุกส่วนของตัวรถ ซึ่งจะช่วยลดความสูญเสียจากที่เป็นอยู่ในปัจุบันไปได้มาก ... โดยเทคโนโลยีนี้ใช้กันมาประมาณ 15-20 ปีแล้วในหลายประเทศ แต่ไทยยังมีปัญหาในการเปลี่ยนผ่าน ปัญหาที่ วันชัย หมายถึงคือ ความพร้อมของโรงงานประกอบรถบัสในประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมาผู้ประกอบการกลุ่มนี้เกือบทั้งหมดมีสถานะเป็นกลุ่ม SME มีทุนอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านบาทเท่านั้น ทำให้ยังต้องใช้วิธีการประกอบรถบัสแบบดั้งเดิม เพราะหากจะเปลี่ยนไปผลิตหรือประกอบรถโดยใช้โครงสร้างแบบ Monocoque ก็จะต้องลงทุนสร้างโรงงานขึ้นมาใหม่เลย ซึ่งต้องมีทุนตั้งต้นในการสร้างโรงงานอย่างน้อยสูงถึง 3,000 ล้านบาท "ปัจจุบันผู้ประกอบการประกอบรถบัสในบ้านเรามีแต่ SME ก็ใช้วิธีที่ทำได้คือไปสั่งซื้อแซสซีเก่าของญี่ปุ่นมาจากเซียงกง แล้วนำมาประกอบ ตกแต่งเป็นรถใหม่ ส่วนการประกอบรถโดยใช้โครงสร้างแบบ Monocoque ก็มีอยู่บ้างในไทย แต่จะเหลือแต่ผู้ประกอบการรายใหญ่เพียง 2-3 รายเท่านั้นที่ทำได้ ซึ่งถ้าเราบังคับให้เปลี่ยนทันทีเลย ก็อาจจะกลายเป็นการผูกขาด" "และการเปลี่ยนผ่านก็มีความยากลำบาก เพราะความปลอดภัยมันยังวิ่งสวนทางกับศักยภาพของผู้ประกอบการ และหากรัฐบาลหรือหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบจะแก้ไขปัญหานี้ ก็ต้องวางแผนการเปลี่ยนผ่านระยะยาวให้ผู้ประกอบการได้ปรับตัว เพื่อให้เห็นรูปธรรมในอีก 5-10 ปี จากนี้ไป" วิศวกร วันชัย เสนอแนวทางระยะยาวที่รัฐบาลควรทำ แม้จะมองเห็นปัญหาในด้านความปลอดภัยจากโครงสร้างรถบัสแล้ว แต่ในเมื่อยังไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างของรถบัสโดยสารในประเทศไทยได้โดยเร็ว ในมุมมองทางวิศวกรรมของวันชัย จึงมีข้อเสนอที่ภาครัฐสามารถทำได้ทันทีเพื่อลดความสูญเสียจากเหตุการณ์เช่นนี้ได้ คือ การทำให้ "ไม่มีจุดปะทะ" อยู่ที่ข้างทาง "รถคันที่เกิดเหตุ พุ่งชนต้นไม้ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 92 เซนติเมตร ซึ่งเป็นต้นไม้ที่ขนาดใหญ่และเนื้อแข็งมาก เราจะเห็นได้ว่ารถบัสพังยับเยิน ถูกผ่าออกเป็น 2 ซีก แต่ต้นไม้ไม่เป็นอะไรเลย นั่นหมายความว่า ต้นไม้ใหญ่ข้างทางคล้ายเป็นกับดักที่ไปทำให้ความสูญเสียจากการที่รถไถลลงข้างมากมันรุนแรงขึ้นไปอีกมาก ซึ่งตามหลักวิศวกรรมการจราจรขนส่งแล้ว ไม่ควรมีต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง หรือวัตถุแข็งๆอยู่ที่ข้างทาง ซึ่งรถบัสที่ใช้ก็ไม่สามารถรับการปะทะได้ เมื่อไปเจอกับต้นไม้ขนาดใหญ่อีก ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสสร้างความสูญเสียมากขึ้นไปอีกหลายเท่า แต่ถ้าเราเปลี่ยนต้นไม้ใหญ่เหล่านี้ เป็นพุ่มไม้เตี้ยๆ ไม่มีลำต้นแข็งๆ ยังให้ความเป็นสีเขียวได้เหมือนเดิม แต่วิธี กด สล็อต ฟา โรหากมีรถไถลลงข้างทางไปแบบนี้ แล้วไถลลงไปโดยไม่เกิดการชน ก็จะเกิดความสูญเสียต่อผู้โดยสารน้อยกว่านี้มาก" วันชัย บอกว่า อยากขอเสนอให้ปลูกไม้พุ่มเสริมก่อน แล้วค่อยๆทยอยนำต้นไม้ใหญ่ออกไป ที่ผ่านมาเคยมีข้อเสนอให้นำต้นไม้ใหญ่ออกจากข้างทางมานานแล้วแต่ทำไม่สำเร็จ เพราะหน่วยงานนรัฐมักจะไปตัดต้นไม้ใหญ่ออกทีเดียวหมดทำให้ประชาชนไม่เข้าใจและออกมาต่อต้าน ดังนั้นหากจะเปลี่ยนแปลงพื้นที่ข้างทางให้ปลอดภัยเพิ่มขึ้น ก็ต้องทำอย่างมีกลยุทธ์และสร้างความเข้าใจกับประชาชนด้วย นอกจากนี้ ควรเพิ่มศักยภาพการรับแรงปะทะของรถ และกำจัดจุดที่มีโอกาสทำให้เกิดการปะทะออกจากเส้นทาง คือ ความปลอดภัยมากขึ้นของผู้โดยสารรถบัส ไม่ว่าจะเป็นรถประจำทางหรือรถทัศนาจร ข้อเสนอทั้ง 2 ประเด็นนี้ ยังเป็นข้อเสนอจากมุมมองทางวิศวกรรมที่มีโอกาสทำให้การเดินทางโดยรถบัสโดยสารของคนไทย มีความปลอดภัยมากขึ้นได้จริง หากมีแรงขับเคลื่อนทางนโยบายมาจากรัฐบาล

เมื่อวันที่ 5 ก.ย.2566 ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐอเมริกา สำนักข่าว BBC รายงานว่า สายการบินเดลตา แอร์ไลนส์เ