Home
|
แจก เครดิต 50 pg slotkub

วันนี้ (13 ก.ค.2564) เฟซบุ๊ก สำนักงานประชาสัมพันธ์

แจก เครดิต 50 pg slotkub

นายธีรวัฒน์ ทะนันไธสง, น.ส.อนุสรา แก้วเหมือน และนายสมราน สุดดี หน่วยงานหอพรรณไม้ สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช ร่วมกับ ผศ.ดร.สไว มัฐผา อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ผู

PeopleLens อุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้ายแว่นตา ใช้สวมใส่บริเวณศีรษะของผู้ใช้งาน พัฒนาขึ้นโดยบริษัท Microsoft ด้วยเทคโนโลยี AI และ AR เพื่อช่วยให้เด็กที่มีปัญหาด้านการมองเห็นสามารถสื่อสารกับคนปกติได้ แม้ว่าจ

ต่อเนื่องจากการเคลื่อนไหวในการประชุมเอเปคป่าไม้ ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 23-25 ส.ค.2565 ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรม เลอ เมอริเดียน เชียงใหม่ โดยในวันนั้นสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) ในนามสมาชิกพีมูฟ ได้ประกาศจะเคลื่อนไหวในการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค ในวันที่ 17-19 พ.ย. ที่จะถึงนี้ เมื่อวันที่ 14 ต.ค.2565 ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ออกแถลงการณ์ เรื่อง “จุดยืนไม่เห็นด้วยกับการประชุม APEC และโมเดล BCG ในเงื้อมมือรัฐบาลเผด็จการและรัฐราชการอำนาจนิยม ที่เป็นปฏิปักษ์ประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม” เนื้อหาในแถลงการณ์ระบุว่า เวทีความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation : APEC) ที่ประเทศไทยกำลังจะจัดให้มีการประชุมในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565 รัฐบาลไทยได้พยายามนำเสนอหัวข้อหลักในการประชุมคือ “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สมดุล” หรือ“Open. Connect. Balance” โดยชูแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ- เศรษฐกิจหมุนเวียน- เศรษฐกิจสีเขียว หรือ Bio-Circular- Green- Economy Model (BCG) นั้น ล้วนเป็นเป้าหมายที่เลื่อนลอยและตรงกันข้ามกับสิ่งที่เกิดขึ้นภายใต้รัฐบาลไทย โดยเฉพาะเกือบหนึ่งทศวรรษภายใต้อำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และหน่วยงานราชการไทยที่อาศัยกลไกที่พวกเขามองว่า เป็นรัฐเผด็จการสร้างเครื่องมือทางนโยบาย กฎหมายที่มุ่งการผูกขาดอำนาจและสร้างผลกระทบมหาศาลต่อสังคมไทย หากพิจารณาการผลักดัน “โมเดลเศรษฐกิจ BCG” ซึ่งเป็นหนึ่งเป้าหมายสำคัญในการประชุม APEC ครั้งนี้ มีการระบุสาระสำคัญหลัก 4 ประการ ประกอบด้วย 1.การจัดกแจก เครดิต 50 pg slotkubารปัญหาสภาพภูมิอากาศที่รวมถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) 2.การค้าและการลงทุนที่ยั่งยืน 3.การบริหารจัดการทรัพยากรที่ยั่งยืนและอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ และ 4.การลดและบริหารจัดการของเสีย จะเห็นได้ว่า เป็นสิ่งที่สวนทางกับผลงานภาพรวมของรัฐบาลที่ได้ส่งประเทศไทย ขึ้นแท่นอันดับ 1 ประเทศแห่งความเหลื่อมล้ำสูงที่สุดของโลก โดยเฉพาะในมิติเศรษฐกิจและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ที่มีกลุ่มทุนน้อยใหญ่และเครือข่ายชนชั้นนำที่ต่างพากันเจริญเติบโตสั่งสมความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน บนการผูกขาดอำนาจทางเศรษฐกิจบนทรัพยากรส่วนรวม รัฐบาลมุ่งอนุมัติโครงการน้อยใหญ่ที่มีกลุ่มทุนและรัฐราชการเป็นศูนย์กลางบนข้ออ้างประโยชน์สาธารณะท่ามกลางการสูญเสียฐานทรัพยากรส่วนรวมอย่างถาวร โดยตัดการมีส่วนร่วมของประชาชนผู้รับผลกระทบ ที่แบกรับความสูญเสียไม่ต่างจากยุคอดีต ขณะเดียวกันกลับไม่สนใจต่อการดำเนินนโยบาย กฎหมายที่ละเมิดสิทธิการอยู่อาศัยทำกิน แย่งชิง กีดกัน ขับไล่ประชาชนและกลุ่มชาติพันธุ์-ชนเผ่าพื้นเมืองออกจากที่ดิน ผืนป่าและท้องทะเล พร้อมจะตีตราให้ประชาชนที่ด้อยอำนาจเป็นดัง “แพะรับบาป” ในกระแสสิ่งแวดล้อมอย่างไม่เป็นธรรม ขปส. เห็นว่า ด้วยทิศทางการใช้อำนาจของรัฐบาลไทยเต็มไปด้วยปัญหาธรรมาภิบาล ความโปร่งใสและขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงต่อเนื่องขณะนี้ จะไม่ก่อประโยชน์แท้จริงแก่ประชาชนคนไทยและประชาคมโลกความพยายามผลักดันโมเดล BCG ภายใต้เงื้อมมือรัฐบาลและรัฐอำนาจนิยมของไทยในเวทีประชาคม APEC ในครั้งนี้ จึงไม่ต่างจากการหลอกลวงประชาคมโลก “คงเป็นได้เพียงเครื่องมือสร้างความชอบธรรม ที่กำลังจะผลักดันให้ที่ดินและฐานทรัพยากรธรรมชาติที่ประชาชนต่างร่วมดูแลรักษาที่สัมพันธ์กับคุณค่าการดำรงชีวิตให้กลายเป็นสินค้าในระบบตลาดเศรษฐกิจทุนนิยมที่ผูกขาดโดยกลุ่มทุนน้อยใหญ่และอำนาจรัฐราชการยุคเผด็จการ แย่งยึดสิทธิบนฐานทรัพยากรส่วนร่วมเพื่อค้ากำไร สร้างกลไก “ฟอกเขียว” ให้กลุ่มทุนอุตสาหกรรมและกลุ่มผู้สร้างมลพิษรายใหญ่ สามารถดำเนินกิจกรรมทำลายสิ่งแวดล้อมได้ต่อไป โดยอาศัยข้ออ้างด้าน “คาร์บอนเครดิต” ปู้ยี่ปู้ยำระบบนิเวศจนกลายเป็นการสร้างโศกนาฏกรรมทางสังคมและสิ่งแวดล้อมยุคใหม่” แถลงการณ์ระบุ ดังนั้น ขปส. ในนามเครือข่ายประชาชนที่ขับเคลื่อนเรื่องสิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติรวมถึงสิทธิในที่อยู่อาศัย และสิทธิของกลุ่มชาติพันธุ์ จึงขอประกาศจุดยืนไม่เห็นด้วยต่อการประชุม APEC และความพยายามผลักดันโมเดล BCG โดยรัฐบาลไทย และขอเชิญชวนประชาชนทั้งหลายให้ร่วมกันจับตาและคัดค้านอย่างถึงที่สุด รวมถึงส่งเสียงถึงประชาคมโลกว่าอย่าได้ร่วมมือและเป็นเครื่องมือรัฐบาลเผด็จการในการคุกคามและยึดกุมระบบเศรษฐกิจ ฐานทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนไทยเป็นอันขาด

วันนี้ (18 ส.ค.2564) สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ (สงร.) และสถาบันการเงินสมาชิก 4 แห่ง ที่มีสาขาให้บริกา

ต่อเนื่องจากการเคลื่อนไหวในการประชุมเอเปคป่าไม้ ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 23-25 ส.ค.2565 ซึ่งจัดขึ้นที่

วันนี้ (19 ก.ย.2565) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยึดคืนรถยนต์หรู จำนวน 26 คัน จากโชว์รูมหลายแห่งในปร

ต่อเนื่องจากการเคลื่อนไหวในการประชุมเอเปคป่าไม้ ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 23-25 ส.ค.2565 ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรม เลอ เมอริเดียน เชียงใหม่ โดยในวันนั้นสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) ในนามสมาชิกพีมูฟ ได้ประกาศจะเคลื่อนไหวในการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค ในวันที่ 17-19 พ.ย. ที่จะถึงนี้ เมื่อวันที่ 14 ต.ค.2565 ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ออกแถลงการณ์ เรื่อง “จุดยืนไม่เห็นด้วยกับการประชุม APEC และโมเดล BCG ในเงื้อมมือรัฐบาลเผด็จการและรัฐราชการอำนาจนิยม ที่เป็นปฏิปักษ์ประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม” เนื้อหาในแถลงการณ์ระบุว่า เวทีความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation : APEC) ที่ประเทศไทยกำลังจะจัดให้มีการประชุมในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565 รัฐบาลไทยได้พยายามนำเสนอหัวข้อหลักในการประชุมคือ “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สมดุล” หรือ“Open. Connect. Balance” โดยชูแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ- เศรษฐกิจหมุนเวียน- เศรษฐกิจสีเขียว หรือ Bio-Circular- Green- Economy Model (BCG) นั้น ล้วนเป็นเป้าหมายที่เลื่อนลอยและตรงกันข้ามกับสิ่งที่เกิดขึ้นภายใต้รัฐบาลไทย โดยเฉพาะเกือบหนึ่งทศวรรษภายใต้อำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และหน่วยงานราชการไทยที่อาศัยกลไกที่พวกเขามองว่า เป็นรัฐเผด็จการสร้างเครื่องมือทางนโยบาย กฎหมายที่มุ่งการผูกขาดอำนาจและสร้างผลกระทบมหาศาลต่อสังคมไทย หากพิจารณาการผลักดัน “โมเดลเศรษฐกิจ BCG” ซึ่งเป็นหนึ่งเป้าหมายสำคัญในการประชุม APEC ครั้งนี้ มีการระบุสาระสำคัญหลัก 4 ประการ ประกอบด้วย 1.การจัดกแจก เครดิต 50 pg slotkubารปัญหาสภาพภูมิอากาศที่รวมถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) 2.การค้าและการลงทุนที่ยั่งยืน 3.การบริหารจัดการทรัพยากรที่ยั่งยืนและอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ และ 4.การลดและบริหารจัดการของเสีย จะเห็นได้ว่า เป็นสิ่งที่สวนทางกับผลงานภาพรวมของรัฐบาลที่ได้ส่งประเทศไทย ขึ้นแท่นอันดับ 1 ประเทศแห่งความเหลื่อมล้ำสูงที่สุดของโลก โดยเฉพาะในมิติเศรษฐกิจและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ที่มีกลุ่มทุนน้อยใหญ่และเครือข่ายชนชั้นนำที่ต่างพากันเจริญเติบโตสั่งสมความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน บนการผูกขาดอำนาจทางเศรษฐกิจบนทรัพยากรส่วนรวม รัฐบาลมุ่งอนุมัติโครงการน้อยใหญ่ที่มีกลุ่มทุนและรัฐราชการเป็นศูนย์กลางบนข้ออ้างประโยชน์สาธารณะท่ามกลางการสูญเสียฐานทรัพยากรส่วนรวมอย่างถาวร โดยตัดการมีส่วนร่วมของประชาชนผู้รับผลกระทบ ที่แบกรับความสูญเสียไม่ต่างจากยุคอดีต ขณะเดียวกันกลับไม่สนใจต่อการดำเนินนโยบาย กฎหมายที่ละเมิดสิทธิการอยู่อาศัยทำกิน แย่งชิง กีดกัน ขับไล่ประชาชนและกลุ่มชาติพันธุ์-ชนเผ่าพื้นเมืองออกจากที่ดิน ผืนป่าและท้องทะเล พร้อมจะตีตราให้ประชาชนที่ด้อยอำนาจเป็นดัง “แพะรับบาป” ในกระแสสิ่งแวดล้อมอย่างไม่เป็นธรรม ขปส. เห็นว่า ด้วยทิศทางการใช้อำนาจของรัฐบาลไทยเต็มไปด้วยปัญหาธรรมาภิบาล ความโปร่งใสและขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงต่อเนื่องขณะนี้ จะไม่ก่อประโยชน์แท้จริงแก่ประชาชนคนไทยและประชาคมโลกความพยายามผลักดันโมเดล BCG ภายใต้เงื้อมมือรัฐบาลและรัฐอำนาจนิยมของไทยในเวทีประชาคม APEC ในครั้งนี้ จึงไม่ต่างจากการหลอกลวงประชาคมโลก “คงเป็นได้เพียงเครื่องมือสร้างความชอบธรรม ที่กำลังจะผลักดันให้ที่ดินและฐานทรัพยากรธรรมชาติที่ประชาชนต่างร่วมดูแลรักษาที่สัมพันธ์กับคุณค่าการดำรงชีวิตให้กลายเป็นสินค้าในระบบตลาดเศรษฐกิจทุนนิยมที่ผูกขาดโดยกลุ่มทุนน้อยใหญ่และอำนาจรัฐราชการยุคเผด็จการ แย่งยึดสิทธิบนฐานทรัพยากรส่วนร่วมเพื่อค้ากำไร สร้างกลไก “ฟอกเขียว” ให้กลุ่มทุนอุตสาหกรรมและกลุ่มผู้สร้างมลพิษรายใหญ่ สามารถดำเนินกิจกรรมทำลายสิ่งแวดล้อมได้ต่อไป โดยอาศัยข้ออ้างด้าน “คาร์บอนเครดิต” ปู้ยี่ปู้ยำระบบนิเวศจนกลายเป็นการสร้างโศกนาฏกรรมทางสังคมและสิ่งแวดล้อมยุคใหม่” แถลงการณ์ระบุ ดังนั้น ขปส. ในนามเครือข่ายประชาชนที่ขับเคลื่อนเรื่องสิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติรวมถึงสิทธิในที่อยู่อาศัย และสิทธิของกลุ่มชาติพันธุ์ จึงขอประกาศจุดยืนไม่เห็นด้วยต่อการประชุม APEC และความพยายามผลักดันโมเดล BCG โดยรัฐบาลไทย และขอเชิญชวนประชาชนทั้งหลายให้ร่วมกันจับตาและคัดค้านอย่างถึงที่สุด รวมถึงส่งเสียงถึงประชาคมโลกว่าอย่าได้ร่วมมือและเป็นเครื่องมือรัฐบาลเผด็จการในการคุกคามและยึดกุมระบบเศรษฐกิจ ฐานทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนไทยเป็นอันขาด

วันที่ (18 ม.ค. 2566) เวลา 18.20 น. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต ร่วมกับ การท่าอากาศยาน