วันนี้ (17 ก.พ.2568) ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กล

วันนี้ (18 มี.ค.2566) ตำรวจหน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (EOD) พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน สน.สายไหม สำนักงานเขตสายไหม และเจ้าหน้าที่กลุ่มสายไหมต้องรอด ร่วมกันตรวจสอบภายในบ้านพักของพ.ต.ท.กิตติกานต์

วันนี้ (17 ก.พ.2568) ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า จากรายงาน Climate Risk Index 2025 โดย Germanwatch ซึ่งเผยแพร่เมื่อ 12 ก.พ.ได้ระบุว่าในช่วงปี 2536-2565 ภัยพิบัติทางธรรมชาติคร่าชีวิตคนกว่า 765,000 คน และสร้างความเสียหายเกือบ 4.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วมากกว่า 9,400 ครั้ง อ่านข่าว ฤดูร้อนมาช้า! แต่มาแน่ปลาย ก.พ.-พ.เว็บ พนัน รองรับ true walletเว็บ บอล หวยทีเด็ด ทุก ลีกค.อุณหภูมิแตะ 43 องศาฯ รายงานฉบับดังกล่าว ระบุว่า ผลกระทบที่สำคัญที่สุดจากเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว ได้แก่ พายุ 35% คลื่นความร้อน 30% และอุทกภัย 27% ที่เป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิต โดยอุทกภัยส่งผลกระทบต่อประชากรมากที่สุด คิดเป็นครึ่งหนึ่งของผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด ขณะที่พายุก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจมากที่สุด คิดเป็น 56% ของมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจทั้งหมด หรือประมาณ 2.33 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาคือ อุทกภัย คิดเป็น 32% หรือ 1.33 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ รายงานฉบับนี้ ระบุว่า ในปี 2565 ประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากเหตุการณ์สภาพอากาศรุนแรง 10 อันดับ ได้แก่ ปากีสถาน เบลีซ อิตาลี กรีซ สเปน เปอร์โตริโก สหรัฐอเมริกา ไนจีเรีย โปรตุเกส และบัลแกเรีย ซึ่งทุกประเทศล้วนเผชิญกับพายุ น้ำท่วม และคลื่นความร้อนที่รุนแรง น้ำท่วมปี 2567 ในพื้นที่ภาคเหนือ น้ำท่วมปี 2567 ในพื้นที่ภาคเหนือ ในกรณีของปากีสถานเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,700 คน และสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ส่วนอิตาลีและกรีซ ต้องเผชิญกับคลื่นความร้อนที่ ทำให้อุณหภูมิพุ่งสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และเกิดไฟป่าขนาดใหญ่ที่สร้างความเสียหายอย่างหนัก สำหรับดัชนีความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศระยะยาว (2536-2565) ประเทศที่มีความเสี่ยงมากที่สุด แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วที่เกิดขึ้นอย่างผิดปกติอย่างรุนแรง เช่น โดมินิกา ฮอนดูรัส เมียนมา และวานูอาตู ส่วนประเทศที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ เช่น จีน อินเดีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งรายงานเตือนว่า แนวโน้มสภาพอากาศสุดขั้วกำลังกลายเป็น “ความปกติใหม่” โดยเหตุการณ์ที่เคยถูกมองว่าเป็นเรื่องผิดปกติ กำลังกลายเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยขึ้น และรุนแรงขึ้นนอกจากนี้ ได้ระบุว่า ในปี 2565 ประเทศไทยมีค่าดัชนีความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศ อยู่ในอันดับที่ 72 แสดงถึงผลกระทบจากเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วของไทยลดลง เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่อยู่ในอันดับ 34 ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ในขณะที่ค่าดัชนีความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศระยะยาว ที่ประเมินผลกระทบจากเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วในช่วงระยะเวลา 30 ปี (2536-2565) พบว่าประเทศไทยอยู่ในอันดับ 30 แสดงถึงผลกระทบจากเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วของไทยในระยะยาว ลดลงเมื่อเทียบกับ 4 ปีที่แล้วที่อยู่ในอันดับ 9 โดยขณะนั้นเป็นการประเมินผลกระทบจากเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วในช่วงระยะเวลา 20 ปี (2543-2562) สาเหตุที่อันดับของประเทศไทยลดลงอย่างมาก มาจากหลายปัจจัย เช่น ตลอดช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ประเทศอื่น ๆ เผชิญกับความสูญเสีย และความเสียหายจากภัยพิบัติทางสภาพอากาศที่รุนแรงกว่า สำหรับผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยลดลง เนื่องจากการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น การปรับปรุงวิธีการประเมินดัชนีความเสี่ยง ซึ่งเพิ่มตัวชี้วัดจำนวนประชากรที่ได้รับผลกระทบ และปรับเปลี่ยนช่วงระยะเวลาที่นำมาใช้ในการประเมินดัชนีความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศระยะยาว จากเดิม 20 ปี เป็น 30 ปี ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะไม่ติดอันดับต้น ๆ ของประเทศที่มีความเสี่ยงสูงแล้ว แต่ประเทศไทยจะยังคงเผชิญกับผลกระทบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น อุณหภูมิที่สูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงฤดูร้อน ภัยแล้ง ปริมาณฝนที่ตกหนักผิดปกติ จนส่งผลให้เกิดน้ำท่วม ดินถล่ม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเตรียมความพร้อมรับมือ และการปรับตัวให้เข้ากับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพระบบเตือนภัยล่วงหน้า ให้มีความแม่นยำ การสื่อสารที่เข้าถึงประชาชนอย่างทันท่วงที การพัฒนาระบบการบริหารจัดการน้ำ รวมถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อช่วยลดอุณหภูมิโลก ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยและคนไทยมีภูมิคุ้มกันต่อภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง ท่ามกลางภัยพิบัติที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในอนาคต อ่านข่าว มหาภัยพิบัติ หายนะโลกปี'67 ป่วนสุดขั้วใกล้ตัว "มนุษยชาติ" ฝนตกหนักในกทม.ปี 2567 ฝนตกหนักในกทม.ปี 2567 ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าการประกาศเข้าสู่ “ฤดูร้อน” ของไทย มีปัจจัยหลักอยู่ 2 ปัจจัย คืออุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยที่มากกว่า 35 องศาเซลเซียสขึ้นไปบริเวณประเทศไทยตอนบนโดยทั่วไปก็จะร้อนขึ้น นายสมควร ต้นจาน ผอ.กองพยากรณ์อากาศ และรองโฆษกกรมอุตุนิยมวิทยากล่าวถึงเกณฑ์และเงื่อนไขการเข้าสู่ฤดูร้อน กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 11-16 ก.พ.นี้ บริเวณความกดอากาศสูง กำลังปานกลางปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ภาคเหนือในระยะครึ่งแรกของสัปดาห์ โดยอากาศตอนบนของไทย ทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง กทม.และปริมณฑลตอนนี้ เริ่มมีอากาศร้อนในหลายพื้นที่ 35-38 องศาเซลเซียส คาดการณ์อุณหภูมิสูงในช่วงสัปดาห์ 11-17 ก.พ.นี้ (ภาพกรมอุตุนิยมวิทยา) คาดการณ์อุณหภูมิสูงในช่วงสัปดาห์ 11-17 ก.พ.นี้ (ภาพกรมอุตุนิยมวิทยา) นายสมควร กล่าวอีกว่า แต่เนื่องจากในช่วงของการเปลี่ยนฤดูกาล จะทำให้มีอากาศแปรปรวนสูงในช่วง 17-24 ก.พ.นี้ โดยจะมีมวลอากาศเย็นแผ่ลงมาภาคอีสานตอนล่าง ภาคตะวันออกและภาคกลาง และลมเป็นลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาทำให้มีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง โดยจะมีฝนเพิ่ม ทั้งนี้กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายฤดูร้อนของไทยมาช้า 2 สัปดาห์ในช่วง ปลาย ก.พ.-กลาง พ.ค.นี้ อุณหภูมิสูงที่สุด 42-43 องศาเซลเซียส ในภาคเหนือ-ภาคอีสาน ส่วนกทม.ค่าเฉลี่ย 34-36 องศาเซลเซียส อ่านข่าว ไขคำตอบ! ฤดูฝนอากาศร้อนจัด "สุโขทัย" แตะ 39 องศาฯ

วันนี้ (9 ธ.ค.2565) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม นำประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านคอร์รัปชันในงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล ช่วงหนึ่งว่า ประเทศไทยในฐานะประเทศสมาชิกขององค์การสหประชาชาติให