วันนี้ (7 ส.ค. 2567) "บี" จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง กำ

“โบลท์” หมดสิทธิ์ป้องกันแชมป์วิ่ง 100 เมตรกรีฑาชิงแชมป์โลก 2011 “อูเซน โบลท์” เจ้าของสถิติโลกวิ่ง 100 เมตร หมดสิทธิ์ป้องกันแชมป์โลก หลังถูกจับดิส ควอลิฟายด์ ในการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์โลกที่ประเทศเกาหลี
วันนี้ (3 พ.ค.2568) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งแล้วหรือไม่ว่า ให้นายประเสริฐไปนั่งกระทรวงมหาดไทย ว่า
วันนี้ (16 ก.พ.2564) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรีว่า เศรษฐกิจไทยที่เคยแข็งแกร่ง เพียงแค่ระยะเวลา 7 ปี ที่ได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นนายกรัฐมนตรี เศรษฐกิจไทยกลับกลายมาอยู่ในฐานะล้มเหลวตกต่ำ ธุรกิจเอกชนปิดตัวอย่างต่อเนื่อง การตกงานสูงเป็นประวัติการณ์ ขณะเดียวกัน ประเทศไทยที่เป็นเสาหลักของภูมิภาค ต้องมากลายเป็นคนป่วย กลายเป็นภาระที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน แม้ว่านายกรัฐมนตรีจะอ้างว่าส่วนหนึ่งเกิดจากผลกระทบของ COVID-19 แต่มองว่าเป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัญหาเท่านั้น ขณะที่ตัวเลขทางเศรษฐกิจชี้ชัดว่าจะผลกระทบ COVID-19 ทั่วโลก ประเทศไทยรั้งท้ายขบวนในเรื่องของเศรษฐกิจ นายจุลพันธ์ ยังอ้างว่า พล.อ.ประยุทธ์ แอบมีความสุขกับการระบาดของ COVID-19 ไปทั่วโลก เพราะใช้เป็นข้ออ้างในการไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้มาโดยตลอด แต่ข้อเท็จจริงแล้ว ความตกต่ำของเศรษฐกิจไทยเกิดมาตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวไทยได้รับผลกระทบจาก COVID-19 เป็นอันดับ 4 ของโลก จากการที่การท่องเที่ยวเป็นพระเอกพยุงเศรษฐกิจมาตลอดตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นสู่อำนาจใหม่ๆ โดยในปี 2562 รายได้จากการท่องเที่ยว อยู่ที่ 1.9 ล้านล้านบาท ส่วนในปี 2563 เหลือเพียง 3 แสนล้านบาท ซึ่งมาตรการของรัฐในการกระตุ้นการใช้จ่ายและการท่องเที่ยวบางนโยบายถือว่าใช้ได้ เป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศที่ดี แต่รัฐบาลสอบตกในการสื่อสารกับประชาชน เป็นการบกพร่องอย่างชัดเจน นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังล้มเหลวในการสนับสนุนธุรกิจสร้างสรรค์ ในการสร้างบรรยากาศที่ส่งเสริมสนับสนุนสตาร์ทอัพต่างๆ การสร้างกิ๊ก อีโคโนมี ซึ่งสามารถแก้ไขและรองรับปัญหาของตลาดแรงงานในยุคใหม่ได้ แต่รัฐบาลไร้ความเข้าใจในตลาดของโลกยุคปัจจุบัน นายจุลพันธ์ อภิปรายเรื่องหนี้สาธารณะว่า นายกรัฐมนตรีใช้งบประมาณไปแล้ว 22 ล้านล้านบาท กู้มาเยอะมาก ซึ่งไม่รวม พ.ร.บ.กู้เงิน 1.9 ล้านล้านบาท ระดับหนี้สาธารณะไต่ตัวขึ้นเรื่อยๆ อีกไม่นานจะถึง 9 ล้านล้านบาท สถิตินี้ไม่มีใครทำลายได้โดยง่าย พล.อ.ประยุทธ์ ครองสถิติที่กู้เงินมากที่สุดในประวัติของประเทศไทย และยังจะครองต่อไปอีกยาวนาน ส่วนการที่สื่อญี่ปุ่นชี้ว่าเศรษฐกิจไทยหายนะแบบสโลว์โมชัน การเตือนครั้งนี้น่าห่วงมาก เพราะว่าด้วยการนำอย่างไร้วิสัยทัศน์ของ พล.อ.ประยุทธ์ เศรษฐกิจไทยจะทรุดหนักไปอย่างนี้ 10 ปี ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศคาดว่าหากวัคซีน COVID-19 เป็นไปตามคาดการณ์ เศรษฐกิจโลกจะเติบโต 5.2% แต่เศรษฐกิจไทยโตอย่างมากแค่ 2.7% ซึ่งต่างจากเศรษฐกิจโลกเท่าตัว ยิ่งรัฐบาลไม่อาจควบคุม COVID-19 ได้ สุดท้าตาราง บอล วัน นี้ บ้าน บอลยการฟื้นตัวของไทยยิ่งล่าช้าไปอีก ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ ลุกขึ้นมาชี้แจงกรณีเศรษฐกิจไทย ทั้งการส่งออก การลงทุนในประเทศ ต่างประเทศ ทุกอย่างกำลังเดินหน้าอยู่ขณะนี้ แม้จะมี COVID-19 ก็ตาม ซึ่งสิ่งที่ทำให้เศรษฐกิจไทยตกต่ำ เนื่องจากประเทศไทยพึ่งพาการส่งออกมาก ช่วงเวลาแบบนี้ไม่มีใครเที่ยวหรอก ขณะนี้ก็ยังรอวัคซีนป้องกัน COVID-19 อยู่ คาดว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ส่วนการกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้มีการตั้งโครงการต่างๆ เพื่อยกระดับด้านเกษตรกรรม สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่จากอุตสาหกรรมใหม่ เรื่องการล็อกดาวน์ตั้งแต่การแพร่ระบาดในระลอกแรก เราตัดสินใจก่อน ทำให้ตัวเลขลดลง แต่เราก็ต้องเจ็บ ซึ่งสงสารประชาชนอยู่แล้ว ใครจะอยากทำให้ประชาชนเดือดร้อน ที่กล่าวหาว่าผมมีความสุขกับ COVID-19 พูดได้อย่างไร จิตใจทำด้วยอะไร การแก้ไขเศรษฐกิจรัฐบาลก็ยังดำเนินการอยู่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า เรื่องการลงทุนจากต่างประเทศเขากลัวอย่างเดียว คือความขัดแย้งในประเทศไทย เราก็ต้องช่วยกัน เรื่องการส่งเสริมการลงทุน Unicorn ต่างๆ สนับสนุนทุน ก็ยังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน การที่เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบมาก เนื่องจากพึ่งพิงการท่องเที่ยวมาก ประเทศไทยจึงมีการปฏิรูปการท่องเที่ยว เพื่อให้การเตรียมพร้อมรอรับนักท่องเที่ยว หลังสถานการณ์ COVID-19 ต่อไป ส่วนอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย หากเปรียบเทียบรายปี คือในปี 2556 มีจีดีพี 2.7% ปี 2557 1.0%, ปี 2558 3.1%, ปี 2559 3.4%, ปี 2560 4.1%, ปี 2561 4.2% และปี 2562 เริ่มสงครามการค้า อยู่ที่ 2.4% ซึ่งตั้งแต่เข้ามาปี 2558 ก็มีการไต่ระดับขึ้นมาต่อเนื่อง สำหรับเรื่องการแก้ปัญหา COVID-19 คิดว่ามาถูกทางแล้ว และผมไม่มีความสุข ผมไม่เคยมีความสุขเลยตั้งแต่มาเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อผมเห็นประชาชนเดือดร้อน ผมก็ต้องหาคนที่มีความรู้มาถกแถลงกัน ผมทำงานแบบนั้น ไม่ได้ใช้อำนาจอย่างเดียว สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แถลงตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 4 ลดลง 4.2% ปรับตัวดีขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ที่ลดลง 6.4% ทำให้เศรษฐกิจปี 2563 ติดลบ 6.1% ถือว่าดีกว่าที่คาดไว้ การอุปโภคบริโภคเอกชนขยายตัว 0.9% จากมาตรการต่างๆ โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่ง ที่ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก
วันนี้ (16 ก.พ.2564) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุ
วันนี้ (28 ธ.ค.2565) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ
วันนี้ (10 ธ.ค.2564) สำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ ปรับเปลี่ยนการอนุมัติวัคซีนเข็มกระตุ้นของไฟเซอร์ให้ครอ
วันนี้ (16 ก.พ.2564) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรีว่า เศรษฐกิจไทยที่เคยแข็งแกร่ง เพียงแค่ระยะเวลา 7 ปี ที่ได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นนายกรัฐมนตรี เศรษฐกิจไทยกลับกลายมาอยู่ในฐานะล้มเหลวตกต่ำ ธุรกิจเอกชนปิดตัวอย่างต่อเนื่อง การตกงานสูงเป็นประวัติการณ์ ขณะเดียวกัน ประเทศไทยที่เป็นเสาหลักของภูมิภาค ต้องมากลายเป็นคนป่วย กลายเป็นภาระที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน แม้ว่านายกรัฐมนตรีจะอ้างว่าส่วนหนึ่งเกิดจากผลกระทบของ COVID-19 แต่มองว่าเป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัญหาเท่านั้น ขณะที่ตัวเลขทางเศรษฐกิจชี้ชัดว่าจะผลกระทบ COVID-19 ทั่วโลก ประเทศไทยรั้งท้ายขบวนในเรื่องของเศรษฐกิจ นายจุลพันธ์ ยังอ้างว่า พล.อ.ประยุทธ์ แอบมีความสุขกับการระบาดของ COVID-19 ไปทั่วโลก เพราะใช้เป็นข้ออ้างในการไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้มาโดยตลอด แต่ข้อเท็จจริงแล้ว ความตกต่ำของเศรษฐกิจไทยเกิดมาตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวไทยได้รับผลกระทบจาก COVID-19 เป็นอันดับ 4 ของโลก จากการที่การท่องเที่ยวเป็นพระเอกพยุงเศรษฐกิจมาตลอดตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นสู่อำนาจใหม่ๆ โดยในปี 2562 รายได้จากการท่องเที่ยว อยู่ที่ 1.9 ล้านล้านบาท ส่วนในปี 2563 เหลือเพียง 3 แสนล้านบาท ซึ่งมาตรการของรัฐในการกระตุ้นการใช้จ่ายและการท่องเที่ยวบางนโยบายถือว่าใช้ได้ เป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศที่ดี แต่รัฐบาลสอบตกในการสื่อสารกับประชาชน เป็นการบกพร่องอย่างชัดเจน นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังล้มเหลวในการสนับสนุนธุรกิจสร้างสรรค์ ในการสร้างบรรยากาศที่ส่งเสริมสนับสนุนสตาร์ทอัพต่างๆ การสร้างกิ๊ก อีโคโนมี ซึ่งสามารถแก้ไขและรองรับปัญหาของตลาดแรงงานในยุคใหม่ได้ แต่รัฐบาลไร้ความเข้าใจในตลาดของโลกยุคปัจจุบัน นายจุลพันธ์ อภิปรายเรื่องหนี้สาธารณะว่า นายกรัฐมนตรีใช้งบประมาณไปแล้ว 22 ล้านล้านบาท กู้มาเยอะมาก ซึ่งไม่รวม พ.ร.บ.กู้เงิน 1.9 ล้านล้านบาท ระดับหนี้สาธารณะไต่ตัวขึ้นเรื่อยๆ อีกไม่นานจะถึง 9 ล้านล้านบาท สถิตินี้ไม่มีใครทำลายได้โดยง่าย พล.อ.ประยุทธ์ ครองสถิติที่กู้เงินมากที่สุดในประวัติของประเทศไทย และยังจะครองต่อไปอีกยาวนาน ส่วนการที่สื่อญี่ปุ่นชี้ว่าเศรษฐกิจไทยหายนะแบบสโลว์โมชัน การเตือนครั้งนี้น่าห่วงมาก เพราะว่าด้วยการนำอย่างไร้วิสัยทัศน์ของ พล.อ.ประยุทธ์ เศรษฐกิจไทยจะทรุดหนักไปอย่างนี้ 10 ปี ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศคาดว่าหากวัคซีน COVID-19 เป็นไปตามคาดการณ์ เศรษฐกิจโลกจะเติบโต 5.2% แต่เศรษฐกิจไทยโตอย่างมากแค่ 2.7% ซึ่งต่างจากเศรษฐกิจโลกเท่าตัว ยิ่งรัฐบาลไม่อาจควบคุม COVID-19 ได้ สุดท้าตาราง บอล วัน นี้ บ้าน บอลยการฟื้นตัวของไทยยิ่งล่าช้าไปอีก ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ ลุกขึ้นมาชี้แจงกรณีเศรษฐกิจไทย ทั้งการส่งออก การลงทุนในประเทศ ต่างประเทศ ทุกอย่างกำลังเดินหน้าอยู่ขณะนี้ แม้จะมี COVID-19 ก็ตาม ซึ่งสิ่งที่ทำให้เศรษฐกิจไทยตกต่ำ เนื่องจากประเทศไทยพึ่งพาการส่งออกมาก ช่วงเวลาแบบนี้ไม่มีใครเที่ยวหรอก ขณะนี้ก็ยังรอวัคซีนป้องกัน COVID-19 อยู่ คาดว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ส่วนการกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้มีการตั้งโครงการต่างๆ เพื่อยกระดับด้านเกษตรกรรม สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่จากอุตสาหกรรมใหม่ เรื่องการล็อกดาวน์ตั้งแต่การแพร่ระบาดในระลอกแรก เราตัดสินใจก่อน ทำให้ตัวเลขลดลง แต่เราก็ต้องเจ็บ ซึ่งสงสารประชาชนอยู่แล้ว ใครจะอยากทำให้ประชาชนเดือดร้อน ที่กล่าวหาว่าผมมีความสุขกับ COVID-19 พูดได้อย่างไร จิตใจทำด้วยอะไร การแก้ไขเศรษฐกิจรัฐบาลก็ยังดำเนินการอยู่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า เรื่องการลงทุนจากต่างประเทศเขากลัวอย่างเดียว คือความขัดแย้งในประเทศไทย เราก็ต้องช่วยกัน เรื่องการส่งเสริมการลงทุน Unicorn ต่างๆ สนับสนุนทุน ก็ยังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน การที่เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบมาก เนื่องจากพึ่งพิงการท่องเที่ยวมาก ประเทศไทยจึงมีการปฏิรูปการท่องเที่ยว เพื่อให้การเตรียมพร้อมรอรับนักท่องเที่ยว หลังสถานการณ์ COVID-19 ต่อไป ส่วนอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย หากเปรียบเทียบรายปี คือในปี 2556 มีจีดีพี 2.7% ปี 2557 1.0%, ปี 2558 3.1%, ปี 2559 3.4%, ปี 2560 4.1%, ปี 2561 4.2% และปี 2562 เริ่มสงครามการค้า อยู่ที่ 2.4% ซึ่งตั้งแต่เข้ามาปี 2558 ก็มีการไต่ระดับขึ้นมาต่อเนื่อง สำหรับเรื่องการแก้ปัญหา COVID-19 คิดว่ามาถูกทางแล้ว และผมไม่มีความสุข ผมไม่เคยมีความสุขเลยตั้งแต่มาเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อผมเห็นประชาชนเดือดร้อน ผมก็ต้องหาคนที่มีความรู้มาถกแถลงกัน ผมทำงานแบบนั้น ไม่ได้ใช้อำนาจอย่างเดียว สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แถลงตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 4 ลดลง 4.2% ปรับตัวดีขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ที่ลดลง 6.4% ทำให้เศรษฐกิจปี 2563 ติดลบ 6.1% ถือว่าดีกว่าที่คาดไว้ การอุปโภคบริโภคเอกชนขยายตัว 0.9% จากมาตรการต่างๆ โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่ง ที่ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก
วันนี้ (15 ส.ค.2566) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมน ตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี