นักท่องเที่ยวทั้งชาวลพบุรีและต่างจังหวัดต่างสวมบท เจ้าพระยาวิชเยนทร์ หรือ คอนสแตนติน ฟอลคอน และ ท้าวทองกีบม้า ต้อนรับแขกจากต่างแดน ย้อนยุคไปเป็นฝรั่ง ที่เข้ามาสมัยพระนารายณ์ หรือ ใครแต่งไทย ก็ไม่มีเขิ

เมื่อดูจากแผนการลงทุนเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมปี 2565 นี้ กทม. มีแผนและเครื่องมือแก้ไขน้ำท่วมอยู่หลายเครื่องมือ ยกตัวอย่างให้เห็นได้ เช่น- ติดตามพยากรณ์อากาศ เตรียมคน 24 ชั่วโมง - ใช้ระบบโทรมาตร ตรวจระดับน้ำ จากสถานีเครือข่าย - มีระบบการตรวจวัดระดับน้ำ ในเจ้าพระยาและคลอง 255 แห่ง - ระบบตรวจวัดปริมาณฝน 130 แห่ง - ระบบตรวจวัดน้ำท่วมถนน 100 แห่ง - ระบบตรวจวัดน้ำท่วมอุโมงค์ทางลอด 8 แห่ง- ตรวจสอบประสิทธิภาพของอุโมงค์ระบายน้ำ 4 แห่ง - ตรวจสถานีสูบน้ำ 190 แห่ง - มีประตูระบายน้ำ 244 แห่ง - บ่อสูบน้ำ 316 แห่ง - ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ชั่วคราวในพื้นที่จุดเสี่ยง และจุดเฝ้าระวังน้ำท่วม- มีแผนเตรียมลดระดับน้ำ ในคูคลองและบ่อสูบน้ำต่าง ๆ - ล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำ - ขุดลอกคูคลอง เปิดทางน้ำไหล - จัดเก็บขยะวัชพืช - เตรียมเครื่องสูบน้ำชนิดเคลื่อนที่ พร้อมรถเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรอง เครื่องมือสำคัญ ที่เปรียบเสมือนเป็นท่าไม้ตาย เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมให้ กทม. คือ ระบบระบายน้ำด้วยอุโมงค์ยักษ์ เมื่อศึกษาจากข้อมูลในช่วงเวลา 8 ปี การลงทุนเพื่อใช้เงินเป็นไปตามแผนงานเพื่อแก่ไขน้ำท่วมของ กทม. เนื่องจากเป็นที่ยอมรับกันว่า น้ำท่วมเป็นปัญหาใหญ่ให้คนในเมืองใหญ่ อย่างกรุงเทพฯ มาอย่างยาวนาน และปัญหาน้ำท่วมก็มีแนวโน้มมากขึ้น ดังนั้นการลงทุนด้วยงบประมาณ เพื่อก่อสร้าง “อุโมงค์ยักษ์” เป็นหนทางหนึ่งเพื่อลดความเสียหายจากน้ำท่วม ในรอบ 8 ปี พบการใช้งบประมาณไปกับอุโมงค์ยักษ์ คืออุโมงค์ยักษ์ มูลค่า 8,200 ล้านบาท ระบายน้ำคลองเปรมประชากร จากคลองบางบัว ไปแม่น้ำเจ้าพระยา ในปีงบประมาณ 2564 ที่ผู้ชนะการประมูลคือ กิจการร่วมค้าไอทีดี-เอ็นดับเบิลยูอาร์ อีกโครงการใช้งบประมาณ ไตรมาสแรก ปี 2565 เป็นอุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบจากอุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบและคลองลาดพร้าวถึงบริเวณซอยลาดพร้าว 130 มูลค่าประมาณ 1,700 ล้านบาท ผู้ชนะการประมูล คือ กิจการร่วมค้า เอสจี-พีซีอี เมื่อพูดถึงอุโมงค์ระบายน้ำ ซึ่งน่าจะเป็นโครงการขนาดใหญ่ทาง เข้า ufa1919เว็บ แทง บอล ฝาก ขั้น ต่ํา 100 ใช้งบประมาณจำนวนมาก แต่แนวทางระบายน้ำแก้ไขปัญหา น้ำท่วม กทม. ยังมีเครื่องมือระบายน้ำอีกหลายวิธี ประเด็นที่จะกล่าวถึงคือ แต่ละเครื่องมือของการระบายน้ำ กทม.ใช้งบประมาณไปกับโครงการอะไรบ้าง จะยกตัวอย่างจากเครื่องมือที่ใช้งบประมาณที่ ค้นหาเพื่อให้เป็นที่น่าสังเกต โดยเฉพาะบ่อพักกับท่อระบายน้ำ ไม่ใช่แค่อุโมงค์ยักษ์ ที่กทม. ลงทุนไปเพื่อการแก้ปัญหาน้ำท่วม แต่กทม. ยังมีโครงการ ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาน้ำท่วมอีกมาก ทั้งการลงทุน เพื่อจัดการกับบ่อพัก และท่อระบายน้ำ ในช่วงระยะ 8 ปี (ปี 2558-2565) มีจำนวน 212 โครงการ ซึ่งมากที่สุดเกิดจากโครงการที่เกี่ยวข้องกับบ่อพักและท่อระบายน้ำ ซึ่งจะเรียงลำดับการใช้งบประมาณ 10 อันดับ ที่ใช้งบประมาณตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไป มีตัวอย่างดังนี้ - โครงการระบบระบายน้ำบริเวณถนน งบประมาณ กว่า 600 ล้านบาท (694,726,000)- โครงการบริหารจัดการอุโมงค์ระบายน้ำ งบประมาณ 590 ล้านบาท (590,000,000)- โครงการทำความสะอาดท่อระบายน้ำ งบประมาณ 494 ล้านบาท (494,952,865)- โครงการบ่อหน่วงน้ำใต้ดิน งบประมาณ 355 ล้านบาท (355,000,000)- โครงการประตูระบายน้ำ งบประมาณ 308 ล้านบาท (308,169,306)- โครงการปรับปรุงรางระบายน้ำ งบประมาณ 227 ล้านบาท (227,139,200)- โครงการบ่อสูบน้ำ งบประมาณ 222 ล้านบาท (222,567,768)- โครงการปรับปรุงระบบระบายน้ำ งบประมาณ 196 ล้านบาท (196,095,000)- โครงการบำรุงรักษาศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร งบประมาณ 149 ล้านบาท (149,960,000)- โครงการท่อส่งน้ำ (Column Pipe) งบประมาณ 109 ล้านบาท (109,683,471) ไม่ใช่แค่อุโมงค์หรือบ่อพักและท่อระบายน้ำ แต่ กทม.ยังลงทุนไปกับการจัดการระบบบำบัดน้ำเสียด้วย รวมทั้งการจัดการเพื่อการขุดลอกคูคลองและการระบายน้ำต่าง ๆ ก็เพื่อทำให้คน กทม. ได้รับความเสียหายให้น้อยที่สุด จากน้ำท่วมแต่ละปี แต่ก็เป็นคำถามกลับไปที่ กทม.ว่า ลงทุนมากมายขนาดนี้ แต่ทำไมยังคงมีน้ำท่วม และเป็นข้อเรียกร้องให้คน กทม.ได้ทุกปี หรือเกือบทุกครั้ง เมื่อมีฝนตก น้ำท่วม และต้องรอการระบาย กลายเป็นคำถามว่า กทม. ลงทุนไปถูกต้อง ถูกวิธี และคุ้มค่ากับการใช้เงินหรือไม่ มาดูกันว่า กทม. ลงทุนจัดการเรื่องขุดลอกคูคลอง ท่อระบายน้ำอย่างไร งบประมาณ 8 ปีสำหรับโครงการ ที่เกี่ยวน้องกับการขุดลอกคลอง และทำความสะอาดท่อระบายน้ำ ใช้งบประมาณ ไปกว่า 1,200 ล้านบาท (1,243,075,840) ประกอบไปด้วย ขุดลอกคลอง ,ขุดลอกคูน้ำ ,ขุดลอกบึง ,ขุดลอกบึง ,ขุดลอกลำกระโดง ,ขุดลอกลำราง ,ทำความสะอาดท่อระบายน้ำ ฯลฯ มาดูตัวเลขการใช้เงินครับว่า หน่วยงานไหนในสังกัด กทม. ใช้เงินมากที่สุด ใน 10 อันดับ อันดับ 1 เป็นสำนักการระบายน้ำ เพราะอาจถือได้ว่า เป็นหน่วยงานหลักที่ต้องทำหน้าที่ เกี่ยวกับการระบายน้ำ ตามชื่อที่ตั้งของหน่วยงาน ใช้เงินไป 8 ปี ( ปี 2558-2565) 391 ล้านบาท (391,637,860) และปีที่ใช้เงินมากที่สุด คือในปี 2563 ประมาณ 104 ล้านบาท (104,548,600) อันดับ 2 เป็นสำนักงานเขตหนองจอก 68 ล้านบาท (68,149,178)อันดับ 3 สำนักงานเขตจอมทอง 55 ล้านบาท (55,676,100)อันดับ 4 สำนักงานเขตบางแค 49 ล้านบาท (49,324,600)อันดับ 5 สำนักงานเขตมีนบุรี 48 ล้านบาท (48,892,600)อันดับ 6 สำนักงานเขตภาษีเจริญ 43 ล้านบาท (43,078,800)อันดับ 7 สำนักงานเขตสายไหม 41 ล้านบาท (41,139,200)อันดับ 8 สำนักงานเขตบางกอกใหญ่ 32 ล้านบาท (32,120,418)อันดับ 9 สำนักงานเขตบางกะปิ 31 ล้านบาท (31,060,239)อันดับ 10 สำนักงานเขตบางเขน 30 ล้านบาท (30,110,871)

กรณีเหตุการณ์นักท่องเที่ยวหญิงถูกช้างป่าทำร้ายเสียชีวิต บนอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย ซึ่งเป็นเส้นทางระหว่างทางเดินจากองค์พระพุทธเมตตาไปน้ำตกเพ็ญพบใหม่ และพบช้างป่าตกมันยังวนเวียนในพื้นที่ ด่วน! ปิดข

วันนี้ (15 พ.ย.2567) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง เดินทางม

นิยายชีวิต โดย : Fernan Rahadi
เรื่องและภาพโดย : Fernan Rahadi
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..