วันนี้ (29 พ.ย.2567) ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส ลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.สงขลา โดยเจ้าหน้าที่ใช้เรือท้องแบนอพยพเคลื่อนย้ายพระสงฆ์วัดมหัตมังคลาราม หรือวัดหาดใหญ่ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่ออำนวยความ
วันที่ 22 ม.ค.2568 ได้กลายเป็นหมุดหมายสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากกฎหมายใหม่ที่แก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มีผลบังคับใช้ ซึ่งผ่านมา 120 วันนับจากการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาช่วงปลายปี 2567 นี่เป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กฎหมายลักษณะนี้เกิดขึ้น ถือเป็นก้าวสำคัญในการเฉลิมฉลองความรักและมิตรภาพในความหลากหลายทางเพศ และเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะมองไปข้างหน้าถึง "ก้าวต่อไป" เนื้อหาในกฎหมายฉบับใหม่นี้ได้ปรับแก้ไขมาตรากว่า 70 มาตราในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยลบคำที่แสดงถึงเพศแบบทวิลักษณ์ (ชาย-หญิง) เช่น "ชาย-หญิง" "สามี-ภรรยา" และ "คู่หมั้นชาย-หญิง" และแทนที่ด้วยคำที่เป็นกลางทางเพศ เช่น "บุคคล" "คู่สมรส" และ "คู่หมั้น" ส่งผลให้ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมในเรื่องการสมรสโดยไม่คำนึงถึงเพศ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวครอบคลุมหลายด้าน เช่น การหมั้นและการสมรส ความสัมพันธ์และความรับผิดชอบระหว่างคู่สมรส การจัดการทรัพย์สิน การเลิกสมรส การรับบุตรบุญธรรม และสิทธิในมรดก ทั้งนี้ กฎหมายยังได้ปรับอายุขั้นต่ำในการสมรสจาก 17 ปี เป็น 18 ปี อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นคำถามที่น่าสนใจเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายใหม่นี้ เช่น กฎหมายใหม่นี้ครอบคลุมถึงสิทธิของชาวต่างชาติที่ต้องการจดทะเบียนสมรสในประเทศไทยหรือไม่ ? สิทธิของคู่รักชาวต่างชาติ คู่รักชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นเพศใด สามารถจดทะเบียนสมรสในประเทศไทยได้ แต่ต้องแสดงหลักฐานว่ายังไม่มีการสมรสมาก่อน อย่างไรก็ตาม การมีคู่สมรสมากกว่า 1 คน (bigamy) เป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศไทย ยกเว้นบางกรณีใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ คำที่แบ่งแยกเพศแบบทวิลักษณ์ถูกลบออกไปทั้งหมดแล้วหรือยัง ? การลบคำแบ่งแยกเพศ ยังคงมีคำแบ่งแยกเพศในบางมาตรา เช่น มาตรา 1453 ของประมวลกฎหมายที่ระบุว่า หากสามีเสียชีวิตหรือการสมรสสิ้นสุดลง ภรรยาไม่สามารถแต่งงานใหม่ได้จนกว่าจะผ่านไป 310 วัน ยกเว้นในกรณีพิเศษ เช่น การแตบอล รวย่งงานใหม่กับสามีเดิม หรือมีหลักฐานยืนยันว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ กฎหมายนี้มีผลบังคับใช้ใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ ที่มีกฎหมายอิสลามควบคุมเรื่องครอบครัวและมรดกของชาวมุสลิมหรือไม่ ? กฎหมายใหม่นี้ไม่ครอบคลุม 4 จังหวัดชายแดนใต้ (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ สตูล) ซึ่งมีกฎหมายอิสลามใช้บังคับในเรื่องครอบครัวและมรดกของชาวมุสลิม จะต้องมีการแก้ไขกฎหมายอื่นอีกกี่ฉบับเพื่อลดการเลือกปฏิบัติทางเพศในอนาคต ? คาดว่ามีกฎหมายประมาณ 50 ฉบับที่ต้องแก้ไขเพื่อปรับให้สอดคล้องกับความเป็นกลางทางเพศ เช่น กฎหมายสัญชาติ และกฎหมายแรงงาน กฎหมายอุ้มบุญ กฎหมายปี 2558 ที่เกี่ยวกับการคุ้มครองเด็กที่เกิดจากเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ (ART) ยังคงจำกัดสิทธิในเรื่องการอุ้มบุญเชิงพาณิชย์ โดยอนุญาตเฉพาะ "อุ้มบุญแบบไม่แสวงหากำไร" (Altruistic Surrogacy) ซึ่งคู่สมรสต้องเป็นชายหญิงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถือสัญชาติไทยและแต่งงานไม่น้อยกว่า 3 ปี ไข่และอสุจิต้องเป็นของคู่สมรสเท่านั้น และผู้รับอุ้มบุญต้องเป็นญาติของคู่สมรส การแก้ไขกฎหมายนี้จึงจำเป็นเพื่อเปิดโอกาสให้คู่รักเพศเดียวกันสามารถเข้าถึงสิทธิในการอุ้มบุญได้ การยอมรับอัตลักษณ์ทางเพศ กฎหมายควรอนุญาตให้บุคคลข้ามเพศสามารถเปลี่ยนข้อมูลเพศในเอกสารราชการได้ โดยไม่จำเป็นต้องผ่านการผ่าตัดแปลงเพศหรือการประเมินทางจิตเวช ซึ่งเป็นแนวทางที่ประเทศต่าง ๆ เช่น อาร์เจนตินา และมอลตา ได้นำไปใช้ ประเทศไทยกำลังมุ่งหน้าสู่การสร้างความเท่าเทียมทางเพศในเชิงกฎหมาย แม้จะมีความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจ แต่ยังมีความท้าทายที่ต้องเผชิญ การแก้ไขเพิ่มเติมและสร้างความครอบคลุมในทุกด้านจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะสร้างสังคมที่ยอมรับความหลากหลายของมนุษยชาติอย่างแท้จริง วิฑิต มันตาภรณ์ศาสตราจารย์กิตติคุณ คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วันนี้ (12 ก.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่หนุ่ม กรรชัย พิธีกรข่าวชื่อดังประกาศผ่านทางรายการโหนกระแสว่า ผลตรวจหาเชื้อ COVID-19 ของพระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต พระนักเทศน์ชื่อดังผลออกมาเป็นบวก โดยระบุว
วันนี้ (7 พ.ค.2567) นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ก
- บอล รวย
- งวด 16 มกราคม 2564
- skillbet88 pg skillbet88 pg
- betshoots
- เดิมพันฟรี คาสิโนลา
- pgslot dragon pgslot dragon
นิยายชีวิต โดย : Maria Christina
เรื่องและภาพโดย : Maria Christina
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..