วิเคราะห์บอล fifa-ตำรวจไซเบอร์ เตือน 3 ภัยออนไลน์ "วัยเกษียณ"

วันนี้ (3 ก.พ.64) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.รายงานสถานการณ์ COVID-19 ไทยพบผู้ป่วยเพิ่ม 795 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 783 คน จากต่างประเทศ 12 คน รวมผู้ป่วยยืนยันสะสม 21, 249 คน รักษาหายเพิ่ม 784
วันนี้ (30 มิ.ย.2567) มีการเผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณสามแยกลาซาล ตัดถนนแบบริ่ง เมื่อเวลาประมาณ
โครงการก่อสร้างโรงงานแปรรูปยางพารา จ.บึงกาฬ ใช้งบประมาณกว่า 170 ล้านบาท แต่กลับสร้างในที่ดินของชุมนุมสหกรณ์ฯ ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่ขาดทุน และมีคำสั่งถูกยุบ ที่ดินแปลงนี้ต้องถูกขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ แต่อาคารโรงงานบนที่ดินกลับเป็นทรัพย์สินของกรมธนารักษ์ เรื่องนี้กำลังเป็นปัญหาที่ซับซ้อน อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานอัยการสูงสุด ล่าสุด ป.ป.ช.ประจำ จ.บึงกาฬ อยู่ระหว่างตรวจข้อมูลและเชิญผู้ร้องเรียนว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนในการทุจริตชุมนุมสหกรณ์ ฯ และการก่อสร้างโรงงานแปรรูปยางพารา เข้าให้ถ้อยคำในเดือน ต.ค.นี้ หลังยื่นหนังสือร้องเรียนเมื่อปลายปี 2565 ซึ่งภาคประชาชนต้านทุจริตมองว่า ต้องติดตามต่อว่าคำร้องนี้จะมีมูลจนนำไปสู่การเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐได้หรือไม่ รายละเอียดหนังสือ ขอเชิญไปให้ถ้อยคำออกโดย ป.ป.ช.ประจำ จ.บึงกาฬ ระบุว่า อ้างถึง หนังสือร้องเรียน ฉบับลงวันที่ 21 พ.ย.2565 จำนวน 1 ฉบับ ตามหนังสือที่อ้างถึง ท่านได้กล่าวหาร้องเรียนเจ้าหน้าที่ของรัฐ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ เป็นผู้มีส่วนในการทุจริตชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนยางและการก่อสร้างโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางพาราของจังหวัดบึงกาฬ และโรงงานดังกล่าวไม่สามารถใช้งานเครื่องจักรได้เพราะไม่มีไฟฟ้า น้ำประปา และบ่อบำบัดน้ำเสีย จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบทำให้เกิดความเสียหาย อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จ.บึงกาฬ มีกรณีจำเป็นจะต้องขอทราบข้อเท็จจริงบางประการจากท่านเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต่อไป จึงขอให้ท่านไปให้ถ้อยคำต่อหัวหน้าพนักงานไต่สวนพร้อมคณะ ส่วนสภาพที่ดินของชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยาง จ.บึงกาฬ เนื้อที่ 37 ไร่ ตั้งอยู่ที่บ้านตาลเดี่ยว ต.ท่าสะอาด อ.เซกา ปัจจุบันชุมนุมสหกรณ์แห่งนี้ถูกสั่งเลิก หรือถูกยุบเพราะขาดทุน มีหนี้สิน ก่อนหน้านี้ ที่ดินของชุมนุมสหกรณ์ซึ่งเป็นนิติบุคคล แปลงนี้ถูกนำไปค้ำประกันเงินกู้ จึงต้องขายทอดตลาดตามขั้นตอนการชำระบัญชี หลังชุมนุมสหกรณ์ถูกยุบ แต่ปัญหาที่ยังประกาศขายไม่ได้ คือมีกลุ่มอาคารโรงงานแปรรูปยางพารา 8 หลัง พร้อมเครื่องจักร ที่สร้างด้วยงบประมาณกลุ่มจังหวัดอีสานตอนบน 173 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2560 ได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินของกรมธนารักษ์ แม้จะเข้าสู่ปีที่ 6 การก่อสร้างโรงงานยังไม่แล้วเสร็จ ไม่มีระบบไฟฟ้าเชื่อมต่อเข้าสูวิเคราะห์บอล fifa่อาคาร ไม่มีระบบสูบน้ำเพื่อใช้การผลิต และที่สำคัญไม่มีระบบบำบัดน้ำเสีย เกษตรกรในจังหวัดบึงกาฬ ได้แต่ตั้งความหวังว่าโรงงานแห่งนี้จะสามารถดำเนินกิจการ ไทยพีบีเอสติดตามปัญหาการก่อสร้างโรงงานแปรรูปยางพารา จ.บึงกาฬ พบข้อมูลปัญหาและความพยามแก้ไขให้โรงงานเดินหน้าต่อได้ ตามลำดับเวลา ดังนี้ -ปี 2560 กลุ่มจังหวัดอีสานตอนบน อนุมัติงบประมาณกว่า 193 ล้านบาท สร้างโรงงานแปรรูปยางพารา ในที่ดินของชุมนุมสหกรณ์ฯ เพื่อให้ชุมนุมหกรณ์ฯบริหารงาน แก้ปัญหายางพาราราคาตกต่ำ โครงการนี้ ถูกเสนอโดยเกษตรและสหกรณ์จังหวัด และอนุมัติโดยผู้ว่าฯ บึงกาฬ ขณะนั้น -ปี 2562 พบว่า ชุมนุมสหกรณ์ฯมีภาระหนี้สินกว่า 7 ล้านบาท ถูกฟ้องร้อง หากไม่ชำระหนี้สิน ที่ดินทั้ง 37 ไร่ ที่มีการสร้างโรงงาน จะถูกยึดเพื่อขายทอดตลาด ไทยพีบีเอสพบข้อมูลว่า ปี 2559 ถึง 2561 ชุมนุมสหกรณ์ฯ ขาดทุน มาโดยตลอด ข้อมูลที่ระบุว่า ปี 2560 ชุมนุมสหกรณ์ฯ ขาดทุนกว่า 3,500,000 บาท เป็นปีเดียวกับที่ ภาครัฐอนุมัติงบประมาณมาสร้างโรงงาน แต่ครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่า ชุมนุมสหกรณ์ฯ ขาดทุนเพราะถูกโกง จึงต้องช่วยเหลือให้ดำเนินกิจการได้ -ปี 2563 พบการก่อสร้างล่าช้าพบปัญหาการออกแบบก่อสร้าง อาคารบางจุด ไม่ได้เขียนแบบให้มีการตอกเสาเข็มตั้งแต่แรก แต่เมื่อลงมือก่อสร้างจริง พบปัญหาสภาพพื้นที่ถูกถมดินใหม่ ต้องแก้แบบให้มีการตอกเสาเข็ม และใช้งบประมาณเพิ่ม การแก้ไขแบบแปลนการก่อสร้าง ทำให้การก่อสร้างล่าช้า โดยเฉพาะการแก้แบบระบบบำบัดน้ำเสีย ทำให้ดำเนินการจัดหาผู้รับจ้างไม่ทันตามกรอบระยะเวลา งบส่วนนี้ถูกตัด โรงงานนี้จึงยังไม่มีระบบบำบัดน้ำเสียสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเข้าตรวจสอบ และตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัดแก้ปัญหา -ปี 2564 มีการสร้างอาคารโรงงานติดตั้งเครื่องจักรจนแล้วเสร็จ ใช้งบประมาณ 173 ล้านบาท แต่ขาดระบบไฟฟ้า ระบบน้ำ และระบบบำบัดน้ำเสีย หากจะเปิดใช้งานโรงงานได้ต้องใช้งบประมาณอีกกว่า 60 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่การยางแห่งประเทศไทย หรือ กยท. ให้ข้อมูลว่า ได้เสนอ ต่อบอร์ด กยท. ให้สนับสนุบงบประมาณ 60 ล้านบาท เพื่อเดินหน้าก่อสร้างโรงงานแปรรูปยางพาราต่อ แต่ต้องรอแนวทางการดำเนินการที่ถูกต้องตามกฎหมาย และอาจให้เอกชนที่เป็น สมาชิก กยท.เช่าโรงงาน -ปี 2565-2566 ชุมนุมสหกรณ์ฯ ถูกยุบ ที่ดินต้องถูกขายทอดตลาด ตามขั้นตอนกระบวนการชำระบัญชี เจ้าหนี้ที่ประสงค์จะเรียกร้องหนี้ ให้ยื่นคำทวงหนี้โดยทำเป็นหนังสือพร้อมหลักฐานแห่งหนี้ ยื่นต่อผู้ชำระบัญชี สำนักงานสหกรณ์จังหวัดบึงกาฬ -เจ้าหน้าที่สำนักงานสหกรณ์จังหวัดบึงกาฬ ทำหนังสือไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาแนวทางดำเนินการ เนื่องจากเป็นการขายที่ดินของนิติบุคคล แต่จะขายอย่างไรให้ถูกกฎหมาย เพราะมีทรัพย์สินกรมธนารักษ์ตั้งอยู่ -ผู้ที่จะซื้อที่ดินแปลงนี้ ต้องยื่นจดสิทธิเหนือพื้นดิน ข้อนี้ทำให้ตั้งข้อสังเกตุได้ว่า ข้อมูลจากภาคประชาชนตั้งข้อสังเกตว่า โครงการที่มีปัญหาลักษณะนี้ อาจเกิดจากการเร่งรัดทำโครงการ และขาดการศึกษาที่รอบคอบ ทำให้การออกแบบมีปัญหาส่งผลต่อการก่อสร้างล่าช้า รวมทั้งขาดการตรวจสอบศักยภาพในการบริหารธุรกิจของชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยางจังหวัดบึงกาฬอย่างละเอียดและโปร่งใส เพราะถูกกำหนดให้เป็นผู้บริหารโรงงานที่สร้างด้วยงบประมาณแผ่นดิน แต่สุดท้ายกลับขาดทุน ดำเนินกิจการไม่ได้ ต้องขายที่ดินซึ่งใช้สร้างโรงงาน เพื่อจ่ายหนี้สิน
โครงการก่อสร้างโรงงานแปรรูปยางพารา จ.บึงกาฬ ใช้งบประมาณกว่า 170 ล้านบาท แต่กลับสร้างในที่ดินของชุมนุมสหกรณ์ฯ ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่ขาดทุน และมีคำสั่งถูกยุบ ที่ดินแปลงนี้ต้องถูกขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาใช้