วันนี้ (30 มิ.ย.2567) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธา

วันนี้ (13 ก.พ.2564) นายอดิศักดิ์ ภูสิทธิ์วงศานุยุต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า หลังจากวันนี้เป็นวันแรก ที่ปิดการท่องเที่ยวจุดลานกางเต็นท์ลำตะคอง บนอุทยานแห่งชาติเขาให
เสนอตั้งกรรมการสอบอัยการสูงสุดถอนฟ้องพระธัมมชโย ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอให้นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ตั้งคณะทำงานร่วมฝ่ายคฤหัสถ์และบรรพชิต พิจารณากรณีปาราชิกขดู บอล สด บ้าน ผล บอล สดองเจ้าอาวาสวั
เสนอตั้งกรรมการสอบอัยการสูงสุดถอนฟ้องพระธัมมชโย ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอให้นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ตั้งคณะทำงานร่วมฝ่ายคฤหัสถ์และบรรพชิต พิจารณากรณีปาราชิกขดู บอล สด บ้าน ผล บอล สดองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายกรณีซื้อที่ดินวัดเป็นชื่อตัวเอง พร้อมขอให้ตั้งกรรมการตรวจสอบอดีตอัยการสูงสุดที่สั่งถอนฟ้องกรณีดังกล่าวว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไ เสนอตั้งกรรมการสอบอัยการสูงสุดถอนฟ้องพระธัมมชโย นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน แถลงผลการตรวจสอบกรณีพระสุวิทย์ ธีรธัมโม หรือพระพุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม และนางวิรังรอง ทัพพะรังสี ประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูปประเทศ (มปปท.) ร้องเรียนขอให้ตรวจสอบกรณีที่อัยการสูงสุดในขณะนั้น มีคำสั่งถอนฟ้องคดีที่พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ถูกฟ้องคดีต่อศาลอาญาในความผิดเกี่ยวกับการลงชื่อตนเองเป็นเจ้าของในการซื้อขายที่ดินเมื่อปี 2549 โดยกรณีดังกล่าวผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาแล้วเห็นว่า การลงชื่อซื้อขายที่ดินในนามตนเองของพระธัมมชโย เข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ แม้ต่อมาจะมีการคืนทรัพย์สินดังกล่าวให้เป็นของวัด แต่ก็ล่วงเลยไปถึง 7 ปี เป็นเพียงการพยายามบรรเทาผลร้ายแห่งความผิดเท่านั้น ถือว่าการกระทำครบองค์ประกอบความผิด ดังนั้น ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงมีหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ให้พิจารณาตั้งคณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานพิจารณาว่าการที่อัยการสูงสุดในขณะนั้นมีคำสั่งให้ถอนฟ้อง เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ส่วนข้อร้องเรียนกรณีผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในฐานะเลขาธิการมหาเถรสมาคม ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ไม่บรรจุวาระการประชุมเกี่ยวกับการปาราชิกของพระธัมมชโย ซึ่งผู้ร้องเรียนระบุว่าไม่เป็นไปตามพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช ผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่า พระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชถือว่าเป็นกฎหมายตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการให้เป็นไปตามพระลิขิต แต่ไม่ได้มีการดำเนินการ ถือได้ว่าละเลยไม่ใส่ใจต่อการประพฤติผิดพระธรรมวินัยของพระสงฆ์บางรูป จึงมีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เพื่อขอให้ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 44 ตั้งคณะกรรมการร่วม 2 ฝ่าย ประกอบด้วยฝ่ายคฤหัสถ์และบรรพชิต เพื่อศึกษาประเด็นทางพระธรรมวินัยที่ยังไม่ได้ข้อยุติและพระธรรมชโยต้องอาบัติปาราชิกตามพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราชหรือไม่ สำหรับคณะทำงานการตรวจสอบ ผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่าอาจประกอบด้วยพระเถระชั้นผู้ใหญ่ ผู้แทนจากสำนักงานพระพุทธศาสนา ผู้แทนจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สภาปฏิรูปแห่งชาติและผู้แทนจากสำนักนายกรัฐมนตรี นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน แถลงผลการตรวจสอบกรณีพระสุวิทย์ ธีรธัมโม หรือพระพุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม และนางวิรังรอง ทัพพะรังสี ประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูปประเทศ (มปปท.) ร้องเรียนขอให้ตรวจสอบกรณีที่อัยการสูงสุดในขณะนั้น มีคำสั่งถอนฟ้องคดีที่พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ถูกฟ้องคดีต่อศาลอาญาในความผิดเกี่ยวกับการลงชื่อตนเองเป็นเจ้าของในการซื้อขายที่ดินเมื่อปี 2549 โดยกรณีดังกล่าวผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาแล้วเห็นว่า การลงชื่อซื้อขายที่ดินในนามตนเองของพระธัมมชโย เข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ แม้ต่อมาจะมีการคืนทรัพย์สินดังกล่าวให้เป็นของวัด แต่ก็ล่วงเลยไปถึง 7 ปี เป็นเพียงการพยายามบรรเทาผลร้ายแห่งความผิดเท่านั้น ถือว่าการกระทำครบองค์ประกอบความผิด ดังนั้น ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงมีหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ให้พิจารณาตั้งคณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานพิจารณาว่าการที่อัยการสูงสุดในขณะนั้นมีคำสั่งให้ถอนฟ้อง เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ส่วนข้อร้องเรียนกรณีผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในฐานะเลขาธิการมหาเถรสมาคม ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ไม่บรรจุวาระการประชุมเกี่ยวกับการปาราชิกของพระธัมมชโย ซึ่งผู้ร้องเรียนระบุว่าไม่เป็นไปตามพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช ผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่า พระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชถือว่าเป็นกฎหมายตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการให้เป็นไปตามพระลิขิต แต่ไม่ได้มีการดำเนินการ ถือได้ว่าละเลยไม่ใส่ใจต่อการประพฤติผิดพระธรรมวินัยของพระสงฆ์บางรูป จึงมีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เพื่อขอให้ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 44 ตั้งคณะกรรมการร่วม 2 ฝ่าย ประกอบด้วยฝ่ายคฤหัสถ์และบรรพชิต เพื่อศึกษาประเด็นทางพระธรรมวินัยที่ยังไม่ได้ข้อยุติและพระธรรมชโยต้องอาบัติปาราชิกตามพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราชหรือไม่ สำหรับคณะทำงานการตรวจสอบ ผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่าอาจประกอบด้วยพระเถระชั้นผู้ใหญ่ ผู้แทนจากสำนักงานพระพุทธศาสนา ผู้แทนจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สภาปฏิรูปแห่งชาติและผู้แทนจากสำนักนายกรัฐมนตรี
วันนี้ ( 12 ธ.ค.2567) เว็บไซต์ "ฮั่วเซ่งเฮง" ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา ราคาทองคำมีแรงเทขายทำกำไร
การใช้โครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ ทำให้ ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าว ส่งผลกระทบ
วันนี้ (29 ก.ค.2564) นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสนับสนุนงา
เสนอตั้งกรรมการสอบอัยการสูงสุดถอนฟ้องพระธัมมชโย ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอให้นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ตั้งคณะทำงานร่วมฝ่ายคฤหัสถ์และบรรพชิต พิจารณากรณีปาราชิกขดู บอล สด บ้าน ผล บอล สดองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายกรณีซื้อที่ดินวัดเป็นชื่อตัวเอง พร้อมขอให้ตั้งกรรมการตรวจสอบอดีตอัยการสูงสุดที่สั่งถอนฟ้องกรณีดังกล่าวว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไ เสนอตั้งกรรมการสอบอัยการสูงสุดถอนฟ้องพระธัมมชโย นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน แถลงผลการตรวจสอบกรณีพระสุวิทย์ ธีรธัมโม หรือพระพุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม และนางวิรังรอง ทัพพะรังสี ประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูปประเทศ (มปปท.) ร้องเรียนขอให้ตรวจสอบกรณีที่อัยการสูงสุดในขณะนั้น มีคำสั่งถอนฟ้องคดีที่พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ถูกฟ้องคดีต่อศาลอาญาในความผิดเกี่ยวกับการลงชื่อตนเองเป็นเจ้าของในการซื้อขายที่ดินเมื่อปี 2549 โดยกรณีดังกล่าวผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาแล้วเห็นว่า การลงชื่อซื้อขายที่ดินในนามตนเองของพระธัมมชโย เข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ แม้ต่อมาจะมีการคืนทรัพย์สินดังกล่าวให้เป็นของวัด แต่ก็ล่วงเลยไปถึง 7 ปี เป็นเพียงการพยายามบรรเทาผลร้ายแห่งความผิดเท่านั้น ถือว่าการกระทำครบองค์ประกอบความผิด ดังนั้น ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงมีหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ให้พิจารณาตั้งคณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานพิจารณาว่าการที่อัยการสูงสุดในขณะนั้นมีคำสั่งให้ถอนฟ้อง เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ส่วนข้อร้องเรียนกรณีผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในฐานะเลขาธิการมหาเถรสมาคม ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ไม่บรรจุวาระการประชุมเกี่ยวกับการปาราชิกของพระธัมมชโย ซึ่งผู้ร้องเรียนระบุว่าไม่เป็นไปตามพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช ผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่า พระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชถือว่าเป็นกฎหมายตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการให้เป็นไปตามพระลิขิต แต่ไม่ได้มีการดำเนินการ ถือได้ว่าละเลยไม่ใส่ใจต่อการประพฤติผิดพระธรรมวินัยของพระสงฆ์บางรูป จึงมีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เพื่อขอให้ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 44 ตั้งคณะกรรมการร่วม 2 ฝ่าย ประกอบด้วยฝ่ายคฤหัสถ์และบรรพชิต เพื่อศึกษาประเด็นทางพระธรรมวินัยที่ยังไม่ได้ข้อยุติและพระธรรมชโยต้องอาบัติปาราชิกตามพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราชหรือไม่ สำหรับคณะทำงานการตรวจสอบ ผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่าอาจประกอบด้วยพระเถระชั้นผู้ใหญ่ ผู้แทนจากสำนักงานพระพุทธศาสนา ผู้แทนจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สภาปฏิรูปแห่งชาติและผู้แทนจากสำนักนายกรัฐมนตรี นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน แถลงผลการตรวจสอบกรณีพระสุวิทย์ ธีรธัมโม หรือพระพุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม และนางวิรังรอง ทัพพะรังสี ประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูปประเทศ (มปปท.) ร้องเรียนขอให้ตรวจสอบกรณีที่อัยการสูงสุดในขณะนั้น มีคำสั่งถอนฟ้องคดีที่พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ถูกฟ้องคดีต่อศาลอาญาในความผิดเกี่ยวกับการลงชื่อตนเองเป็นเจ้าของในการซื้อขายที่ดินเมื่อปี 2549 โดยกรณีดังกล่าวผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาแล้วเห็นว่า การลงชื่อซื้อขายที่ดินในนามตนเองของพระธัมมชโย เข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ แม้ต่อมาจะมีการคืนทรัพย์สินดังกล่าวให้เป็นของวัด แต่ก็ล่วงเลยไปถึง 7 ปี เป็นเพียงการพยายามบรรเทาผลร้ายแห่งความผิดเท่านั้น ถือว่าการกระทำครบองค์ประกอบความผิด ดังนั้น ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงมีหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ให้พิจารณาตั้งคณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานพิจารณาว่าการที่อัยการสูงสุดในขณะนั้นมีคำสั่งให้ถอนฟ้อง เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ส่วนข้อร้องเรียนกรณีผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในฐานะเลขาธิการมหาเถรสมาคม ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ไม่บรรจุวาระการประชุมเกี่ยวกับการปาราชิกของพระธัมมชโย ซึ่งผู้ร้องเรียนระบุว่าไม่เป็นไปตามพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช ผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่า พระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชถือว่าเป็นกฎหมายตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการให้เป็นไปตามพระลิขิต แต่ไม่ได้มีการดำเนินการ ถือได้ว่าละเลยไม่ใส่ใจต่อการประพฤติผิดพระธรรมวินัยของพระสงฆ์บางรูป จึงมีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เพื่อขอให้ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 44 ตั้งคณะกรรมการร่วม 2 ฝ่าย ประกอบด้วยฝ่ายคฤหัสถ์และบรรพชิต เพื่อศึกษาประเด็นทางพระธรรมวินัยที่ยังไม่ได้ข้อยุติและพระธรรมชโยต้องอาบัติปาราชิกตามพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราชหรือไม่ สำหรับคณะทำงานการตรวจสอบ ผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่าอาจประกอบด้วยพระเถระชั้นผู้ใหญ่ ผู้แทนจากสำนักงานพระพุทธศาสนา ผู้แทนจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สภาปฏิรูปแห่งชาติและผู้แทนจากสำนักนายกรัฐมนตรี
วันนี้ (16 พ.ย.2565) ที่ สภ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย ได้เข้าพบ พ