Home
|
แทง บอล ออนไลน์ ฟรี

เมื่อวันที่ 3 มี.ค.2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมน

แทง บอล ออนไลน์ ฟรี

วันนี้ (5 มิ.ย.2568) เวลา 17.00 น.รัฐบาลไทยออกแถลงการณ์กรณีสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา โดยมีเนื้อหาดังนี้ แถลงการณ์รัฐบาล "กรณีสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา" นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปะทะที่บริเวณช่องบก

ประวัติศาสตร์การควบคุมสุรา การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศไทย มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยในสมัยสุโขทัย การผลิตสุราเป็นแหล่งรายได้สำคัญของรัฐผ่านระบบส่วยและอากรสุรา ในสมัยกรุงศรีอยุธยา การเก็บอากรสุ

ประวัติศาสตร์การควบคุมสุรา การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศไทย มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยในสมัยสุโขทัย การผลิตสุราเป็นแหล่งรายได้สำคัญของรัฐผ่านระบบส่วยและอากรสุรา ในสมัยกรุงศรีอยุธยา การเก็บอากรสุราถูกนำมาใช้จากผู้ผลิตและผู้ขาย และในสมัยพระนารายณ์มีการกำหนดพิกัดอากรสุรา แต่ยังมีข้อจำกัดในการจัดเก็บ ทำให้เกิดระบบ "เจ้าอากรนายอากร" ที่ให้เอกชนประมูลสิทธิผูกขาดการเก็บภาษีสุราเป็นรายปี ในสมัยรัชกาลที่ 1 มีการสร้างโรงงานสุราบางยี่ขัน ซึ่งเป็นโรงกลั่นสุราของรัฐบาลแห่งแรก และนับตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 2 เป็นต้นมา การเก็บอากรสุรากลายเป็นรายได้สำคัญของประเทศ ในสมัยรัชกาลที่ 5 การส่งเสริมอบายมุขเป็นนโยบายหลักเพื่อสร้างรายได้แผ่นดินและดึงแรงงานกุลีจีนไว้ในไทย ไม่ให้ย้ายไปสิงคโปร์ รัฐบาลจึงอนุญาตให้กุลีจีนบริโภคสุราได้อย่างเสรี อย่างไรก็ตาม ได้มีการควบคุมการผลิตโดยรัฐเป็นผู้อนุญาตให้เอกชนดำเนินการผ่านระบบสัมปทาน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยรัฐ ในปี พ.ศ. 2452 (ปลายรัชกาลที่ 6) รัฐบาลเริ่มยกเลิกสิทธิผูกขาดนายอากร และรัฐเป็นผู้จัดเก็บภาษีสุราเอง เนื่องจากนายอากรไม่ส่งเงินให้รัฐตามที่ประมูลได้ ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 7 กรมสรรพสามิตเริ่มผลิตสุราที่โรงงานบางยี่ขัน และยอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 9 ต่อปี แม้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 การบริโภคสุราในไทยไม่ได้ลดลง สุราแม่โขง ซึ่งกรมสรรพสามิตเริ่มผลิตในปี พ.ศ. 2484 กลายเป็นที่ต้องการของประชาชน ต่อมาในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม มีการออกกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเข้มงวดมากขึ้น โดยกำหนดมาตรฐานในการผลิตสุราและจำกัดสิทธิในการจำหน่าย ในช่วงทศวรรษ 2520-2530 มีการรณรงค์ใหแทง บอล ออนไลน์ ฟรี้ลดการบริโภคแอลกอฮอล์เพื่อลดปัญหาสังคม และในปี พ.ศ.2535 ได้มีการออก พ.ร.บ.สุรา พ.ศ.2535 ซึ่งเป็นกฎหมายหลักในการควบคุมการผลิตและจำหน่ายสุราในประเทศไทย ก่อนจะพัฒนาไปสู่ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ที่มีมาตรการควบคุมที่เข้มงวดมากขึ้น มาตรการควบคุมแอลกอฮอล์ภายใต้กฎหมายปัจจุบันในปี พ.ศ.2551 ประเทศไทยประกาศใช้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 โดยมีมาตรการสำคัญ เช่น ห้ามขายแอลกอฮอล์ในเวลาที่กำหนด ห้ามโฆษณา และจำกัดพื้นที่จำหน่าย หนึ่งในข้อกำหนดสำคัญของ พ.ร.บ. นี้ คือ การห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลา ได้แก่ การกำหนดช่วงเวลาห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้เกิดขึ้นโดยไม่มีเหตุผล แต่เป็นมาตรการที่อ้างอิงจากหลักฐานทางวิชาการและแนวปฏิบัติในระดับสากล ซึ่งพบว่าการจำกัดช่วงเวลาจำหน่ายสามารถช่วยลดปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้อย่างมีนัยสำคัญ ช่วงเวลาที่ห้ามจำหน่ายสอดคล้องกับ ช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุทางถนนสูง โดยเฉพาะช่วงเย็นถึงค่ำ (17.00-24.00 น.) ซึ่งเป็นเวลาที่คนเดินทางกลับจากที่ทำงานและเริ่มเข้าสู่ช่วงสังสรรค์ ในขณะที่ช่วงกลางวัน (11.00-14.00 น.) เป็นช่วงพักกลางวันของพนักงานและนักศึกษา หากสามารถลดโอกาสการดื่มในช่วงนี้ได้ จะช่วยลดปัญหาอุบัติเหตุและการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์ ผลการวิจัยพบว่า การจำกัดเวลาจำหน่ายช่วยลดโอกาสที่เยาวชนจะเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะในช่วงกลางวัน ซึ่งเป็นเวลาที่นักเรียน นักศึกษา และวัยทำงานออกมารับประทานอาหาร หากอนุญาตให้มีการจำหน่ายอย่างเสรี อาจทำให้เกิดการดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจากเว็บไซต์สุราไทยว่า ในประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 253 พบว่ามีการจำกัดเวลาขายสุรา เนื่องจากข้าราชการในสมัยนั้น นิยมไปนั่งดื่มสุราสังสรรค์กันตั้งแต่มื้อกลางวัน แล้วก็ติดลมไปจนบ่ายคล้อย ไม่เป็นอันทำงานทำการ เพื่อป้องกันข้าราชการเถลไถล จึงออกประกาศของคณะปฏิวัติดังกล่าว โดยในข้อ 2 วรรคหนึ่ง ระบุว่า… ห้ามมิให้ผู้ได้รับอนุญาตขายสุราประเภทที่ 3 ถึงประเภทที่ 6 ตามความในกฎหมายว่าด้วยสุรา หรือบุคคลใดซึ่งกระทำการเพื่อประโยชน์ของผู้ได้รับใบอนุญาตขายสุราดังกล่าว จำหน่ายสุราทุกชนิดในเวลาอื่น นอกจากตั้งแต่เวลา 11.00 นาฬิกา ถึงเวลา 14.00 นาฬิกา และตั้งแต่เวลา 17.00 นาฬิกา ถึงเวลา 24.00 นาฬิกา เว้นแต่ได้รับใบอนุญาตจากอธิบดีกรมตำรวจสำหรับนครหลวงกรุงเทพธนบุรี หรือผู้ว่าราชการจังหวัดสำหรับจังหวัดอื่น ต่อมาแม้จะมีการตรากฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 นำการอนุญาตขายสุราประเภทที่ 3-6 ออกไป ให้เหลือเพียงแค่ประเภทที่ 1 และ 2 และยังมีการปรับปรุงรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย แต่เรื่องของการจำกัดเวลาทั้ง 2 ช่วง ยังคงถูกนำมาใช้บังคับอยู่ การกำหนดช่วงเวลาห้ามจำหน่าย ช่วยป้องกันพฤติกรรมการดื่มต่อเนื่องยาวนาน ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะมึนเมารุนแรงและพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การทะเลาะวิวาท อาชญากรรม และการล่วงละเมิดทางเพศ ช่วงเวลาห้ามจำหน่ายในตอนกลางวัน (11.00-14.00 น.) มีเป้าหมายเพื่อลดการบริโภคแอลกอฮอล์ในกลุ่มคนทำงานและนักศึกษา เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่และเรียนหนังสือได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากอนุญาตให้ซื้อได้อย่างเสรีในช่วงกลางวัน อาจทำให้บางคนเลือกดื่มระหว่างเวลางาน ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน การจำกัดเวลาจำหน่าย ช่วยให้ประชาชนมีพฤติกรรมการบริโภคที่เป็นระบบมากขึ้น ไม่สามารถซื้อได้ตลอดเวลา ซึ่งแตกต่างจากประเทศที่ไม่มีการกำหนดเวลาห้ามจำหน่าย พบว่าประชาชนมีแนวโน้มดื่มมากขึ้นและส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว ผลที่ได้จากมาตรการควบคุมเวลา หลังการบังคับใช้พบว่า อัตราอุบัติเหตุจากแอลกอฮอล์ลดลง โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางวันและเย็น, การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในที่สาธารณะลดลง เนื่องจากไม่สามารถซื้อสุราได้อย่างเสรี และประชาชนเริ่มเข้าใจและยอมรับมาตรการนี้มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงมีข้อถกเถียง โดยเฉพาะภาคธุรกิจที่เห็นว่า ข้อจำกัดนี้ส่งผลกระทบต่อรายได้ของร้านค้า ร้านอาหาร และสถานบันเทิง ขณะที่บางคนมองว่า เป็นการละเมิดสิทธิของผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังมีการตั้งคำถามว่ามาตรการดังกล่าว มีประสิทธิภาพจริงหรือไม่ เนื่องจากในทางปฏิบัติยังพบว่ามีร้านค้าบางแห่งฝ่าฝืนกฎหมาย และผู้บริโภคบางส่วนหันไปซื้อจากช่องทางอื่น เช่น ตลาดมืด แหล่งที่มา : องค์การอนามัยโลก (WHO), ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), หนังสือ "1 ทศวรรษ พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551", พ.ร.บ.สุรา 2535, พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2551 อ่านข่าวอื่น : หุ้นร่วงหนัก! ทรัมป์แถลงสภาฯ ยืนยันขึ้นภาษี ตัดงบ จุดยืนยูเครน Air Show ยิ่งใหญ่เหนือน่านฟ้าดอนเมือง 5-8 มี.ค. ปรับเกณฑ์ขายเหล้าวันพระใหญ่ ผู้ประกอบการตอบรับชี้ลดข้อจำกัดด้านท่องเที่ยว มติบอร์ดแอลกอฮอล์ "ผ่อนปรน" ขายเหล้าวันพระใหญ่บางพื้นที่

การผลิตแคดเมียมมีมานานแล้ว เป็นโลหะหนัก มีสัญลักษณ์คือ Cd พบปนอยู่กับแร่ธาตุอื่นๆ เช่น แร่สังกะสี แร

ในเดือนกันยายน 2567 ท้องฟ้ายามค่ำคืนจะมีปรากฏการณ์ทาง "ดาราศาสตร์" ที่น่าสนใจเกิดขึ้นบ้างสถาบันวิจัย

วันนี้ (19 ก.พ.2568) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวน พล.ต.อ

ประวัติศาสตร์การควบคุมสุรา การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศไทย มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยในสมัยสุโขทัย การผลิตสุราเป็นแหล่งรายได้สำคัญของรัฐผ่านระบบส่วยและอากรสุรา ในสมัยกรุงศรีอยุธยา การเก็บอากรสุราถูกนำมาใช้จากผู้ผลิตและผู้ขาย และในสมัยพระนารายณ์มีการกำหนดพิกัดอากรสุรา แต่ยังมีข้อจำกัดในการจัดเก็บ ทำให้เกิดระบบ "เจ้าอากรนายอากร" ที่ให้เอกชนประมูลสิทธิผูกขาดการเก็บภาษีสุราเป็นรายปี ในสมัยรัชกาลที่ 1 มีการสร้างโรงงานสุราบางยี่ขัน ซึ่งเป็นโรงกลั่นสุราของรัฐบาลแห่งแรก และนับตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 2 เป็นต้นมา การเก็บอากรสุรากลายเป็นรายได้สำคัญของประเทศ ในสมัยรัชกาลที่ 5 การส่งเสริมอบายมุขเป็นนโยบายหลักเพื่อสร้างรายได้แผ่นดินและดึงแรงงานกุลีจีนไว้ในไทย ไม่ให้ย้ายไปสิงคโปร์ รัฐบาลจึงอนุญาตให้กุลีจีนบริโภคสุราได้อย่างเสรี อย่างไรก็ตาม ได้มีการควบคุมการผลิตโดยรัฐเป็นผู้อนุญาตให้เอกชนดำเนินการผ่านระบบสัมปทาน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยรัฐ ในปี พ.ศ. 2452 (ปลายรัชกาลที่ 6) รัฐบาลเริ่มยกเลิกสิทธิผูกขาดนายอากร และรัฐเป็นผู้จัดเก็บภาษีสุราเอง เนื่องจากนายอากรไม่ส่งเงินให้รัฐตามที่ประมูลได้ ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 7 กรมสรรพสามิตเริ่มผลิตสุราที่โรงงานบางยี่ขัน และยอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 9 ต่อปี แม้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 การบริโภคสุราในไทยไม่ได้ลดลง สุราแม่โขง ซึ่งกรมสรรพสามิตเริ่มผลิตในปี พ.ศ. 2484 กลายเป็นที่ต้องการของประชาชน ต่อมาในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม มีการออกกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเข้มงวดมากขึ้น โดยกำหนดมาตรฐานในการผลิตสุราและจำกัดสิทธิในการจำหน่าย ในช่วงทศวรรษ 2520-2530 มีการรณรงค์ใหแทง บอล ออนไลน์ ฟรี้ลดการบริโภคแอลกอฮอล์เพื่อลดปัญหาสังคม และในปี พ.ศ.2535 ได้มีการออก พ.ร.บ.สุรา พ.ศ.2535 ซึ่งเป็นกฎหมายหลักในการควบคุมการผลิตและจำหน่ายสุราในประเทศไทย ก่อนจะพัฒนาไปสู่ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ที่มีมาตรการควบคุมที่เข้มงวดมากขึ้น มาตรการควบคุมแอลกอฮอล์ภายใต้กฎหมายปัจจุบันในปี พ.ศ.2551 ประเทศไทยประกาศใช้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 โดยมีมาตรการสำคัญ เช่น ห้ามขายแอลกอฮอล์ในเวลาที่กำหนด ห้ามโฆษณา และจำกัดพื้นที่จำหน่าย หนึ่งในข้อกำหนดสำคัญของ พ.ร.บ. นี้ คือ การห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลา ได้แก่ การกำหนดช่วงเวลาห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้เกิดขึ้นโดยไม่มีเหตุผล แต่เป็นมาตรการที่อ้างอิงจากหลักฐานทางวิชาการและแนวปฏิบัติในระดับสากล ซึ่งพบว่าการจำกัดช่วงเวลาจำหน่ายสามารถช่วยลดปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้อย่างมีนัยสำคัญ ช่วงเวลาที่ห้ามจำหน่ายสอดคล้องกับ ช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุทางถนนสูง โดยเฉพาะช่วงเย็นถึงค่ำ (17.00-24.00 น.) ซึ่งเป็นเวลาที่คนเดินทางกลับจากที่ทำงานและเริ่มเข้าสู่ช่วงสังสรรค์ ในขณะที่ช่วงกลางวัน (11.00-14.00 น.) เป็นช่วงพักกลางวันของพนักงานและนักศึกษา หากสามารถลดโอกาสการดื่มในช่วงนี้ได้ จะช่วยลดปัญหาอุบัติเหตุและการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์ ผลการวิจัยพบว่า การจำกัดเวลาจำหน่ายช่วยลดโอกาสที่เยาวชนจะเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะในช่วงกลางวัน ซึ่งเป็นเวลาที่นักเรียน นักศึกษา และวัยทำงานออกมารับประทานอาหาร หากอนุญาตให้มีการจำหน่ายอย่างเสรี อาจทำให้เกิดการดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจากเว็บไซต์สุราไทยว่า ในประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 253 พบว่ามีการจำกัดเวลาขายสุรา เนื่องจากข้าราชการในสมัยนั้น นิยมไปนั่งดื่มสุราสังสรรค์กันตั้งแต่มื้อกลางวัน แล้วก็ติดลมไปจนบ่ายคล้อย ไม่เป็นอันทำงานทำการ เพื่อป้องกันข้าราชการเถลไถล จึงออกประกาศของคณะปฏิวัติดังกล่าว โดยในข้อ 2 วรรคหนึ่ง ระบุว่า… ห้ามมิให้ผู้ได้รับอนุญาตขายสุราประเภทที่ 3 ถึงประเภทที่ 6 ตามความในกฎหมายว่าด้วยสุรา หรือบุคคลใดซึ่งกระทำการเพื่อประโยชน์ของผู้ได้รับใบอนุญาตขายสุราดังกล่าว จำหน่ายสุราทุกชนิดในเวลาอื่น นอกจากตั้งแต่เวลา 11.00 นาฬิกา ถึงเวลา 14.00 นาฬิกา และตั้งแต่เวลา 17.00 นาฬิกา ถึงเวลา 24.00 นาฬิกา เว้นแต่ได้รับใบอนุญาตจากอธิบดีกรมตำรวจสำหรับนครหลวงกรุงเทพธนบุรี หรือผู้ว่าราชการจังหวัดสำหรับจังหวัดอื่น ต่อมาแม้จะมีการตรากฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 นำการอนุญาตขายสุราประเภทที่ 3-6 ออกไป ให้เหลือเพียงแค่ประเภทที่ 1 และ 2 และยังมีการปรับปรุงรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย แต่เรื่องของการจำกัดเวลาทั้ง 2 ช่วง ยังคงถูกนำมาใช้บังคับอยู่ การกำหนดช่วงเวลาห้ามจำหน่าย ช่วยป้องกันพฤติกรรมการดื่มต่อเนื่องยาวนาน ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะมึนเมารุนแรงและพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การทะเลาะวิวาท อาชญากรรม และการล่วงละเมิดทางเพศ ช่วงเวลาห้ามจำหน่ายในตอนกลางวัน (11.00-14.00 น.) มีเป้าหมายเพื่อลดการบริโภคแอลกอฮอล์ในกลุ่มคนทำงานและนักศึกษา เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่และเรียนหนังสือได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากอนุญาตให้ซื้อได้อย่างเสรีในช่วงกลางวัน อาจทำให้บางคนเลือกดื่มระหว่างเวลางาน ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน การจำกัดเวลาจำหน่าย ช่วยให้ประชาชนมีพฤติกรรมการบริโภคที่เป็นระบบมากขึ้น ไม่สามารถซื้อได้ตลอดเวลา ซึ่งแตกต่างจากประเทศที่ไม่มีการกำหนดเวลาห้ามจำหน่าย พบว่าประชาชนมีแนวโน้มดื่มมากขึ้นและส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว ผลที่ได้จากมาตรการควบคุมเวลา หลังการบังคับใช้พบว่า อัตราอุบัติเหตุจากแอลกอฮอล์ลดลง โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางวันและเย็น, การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในที่สาธารณะลดลง เนื่องจากไม่สามารถซื้อสุราได้อย่างเสรี และประชาชนเริ่มเข้าใจและยอมรับมาตรการนี้มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงมีข้อถกเถียง โดยเฉพาะภาคธุรกิจที่เห็นว่า ข้อจำกัดนี้ส่งผลกระทบต่อรายได้ของร้านค้า ร้านอาหาร และสถานบันเทิง ขณะที่บางคนมองว่า เป็นการละเมิดสิทธิของผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังมีการตั้งคำถามว่ามาตรการดังกล่าว มีประสิทธิภาพจริงหรือไม่ เนื่องจากในทางปฏิบัติยังพบว่ามีร้านค้าบางแห่งฝ่าฝืนกฎหมาย และผู้บริโภคบางส่วนหันไปซื้อจากช่องทางอื่น เช่น ตลาดมืด แหล่งที่มา : องค์การอนามัยโลก (WHO), ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), หนังสือ "1 ทศวรรษ พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551", พ.ร.บ.สุรา 2535, พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2551 อ่านข่าวอื่น : หุ้นร่วงหนัก! ทรัมป์แถลงสภาฯ ยืนยันขึ้นภาษี ตัดงบ จุดยืนยูเครน Air Show ยิ่งใหญ่เหนือน่านฟ้าดอนเมือง 5-8 มี.ค. ปรับเกณฑ์ขายเหล้าวันพระใหญ่ ผู้ประกอบการตอบรับชี้ลดข้อจำกัดด้านท่องเที่ยว มติบอร์ดแอลกอฮอล์ "ผ่อนปรน" ขายเหล้าวันพระใหญ่บางพื้นที่

สุดสัปดาห์นี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.จะออกข้อกำหนด กฎ กติกาว่าด้วยข้อต้องปฏิบัติและข้อห้ามต