UID: 17286

เครือข่ายค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินชี้เปิดเวที ค.3 ไม่ชอบธรรม เครือข่ายประชาชนคนสงขลา-ปัตตานีไม่เอาถ่านหิน

การประกาศวางมือทางการเมืองของ “นริศ ขำนุรักษ์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และอดีต ส.ส.พัทลุง ใ

เครือข่ายค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินชี้เปิดเวที ค.3 ไม่ชอบธรรม เครือข่ายประชาชนคนสงขลา-ปัตตานีไม่เอาถ่านหิน เปิดเวทีคู่ขนานกับเวทีรับฟังความเห็น ค.3 โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน อ.เทพา จ.สงขลา ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยกลุ่มคัดค้านยืนยันว่าการเปิดรับฟังความเห็นทั้ง 3 ครั้งที่ผ่านมาไม่มีความชอบธรรม เครือข่ายค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินชี้เปิดเวที ค.3 ไม่ชอบธรรม เครือข่ายพลเมืองสงขลา-ปัตตานีไม่เอาถ่านหิน จัดเวทีคู่ขนานคัดค้านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ครั้งที่ 3 หรือ ค.3 ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า การรับฟังความเห็นของ กฟผ.ทั้ง 3 ครั้งไม่ชอบธรรมเพราะประชาชนเจ้าของพื้นที่ไม่มีส่วนแสดงความคิดเห็น นอกจากนี้ยังเปิดเผยข้อมูลด้วยว่าเวทีที่ผ่านมามีเพียงการมาแจ้งให้ชาวบ้านเดินทางไปรับข้าวสารฟรี โดยไม่ได้แจ้งว่าเป็นการเข้าร่วมเวทีรับความคิดเห็น ส่วนเวทีรับฟังความเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียครั้งที่ 3 หรือ ค.3 นายพล คงเสือ ผู้ชผล นิ เค อิ ย้อน หลัง 62่วยผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า 3 กฟผ. ระบุว่า การเปิดรับฟังความเห็นทั้ง 2 วันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุการณ์ความวุ่นวายเกิดขึ้น โดยข้อกังวลและข้อเสนอแนะจากชุมชนจะนำไปศึกษาหามาตรการป้องกัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นสิ่งที่ กฟผ.เตรียมการไว้อยู่แล้ว ด้านนายสมพร ช่วยอารีย์ อาจารย์คณะวิทยาศาตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เปิดเผยหลังการเข้าร่วมรับฟังและแสดงความคิดเห็นในเวที ค.3 ว่าการจัดเวทีตั้งแต่ ค.1 จนถึง ค.3 ควรมีความรอบคอบมากกว่านี้ เช่น ควรมีการให้ความรู้ประชาชาชนก่อนจัดเวทีและเมื่อรับฟังความคิดเห็นในเวทีแรก ในเวทีต่อมาควรแบ่งกลุ่มย่อยดำเนินการให้ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่ม ซึ่งขั้นตอนนี้ในเวทีที่เทพาจัดรวบรัดเกินไป เพราะใช้เวลาเพียง 9 เดือนก็จัดเวที ค.3 ทั้งๆที่ยังมีความขัดแย้งในพื้นที่อยู่ เครือข่ายพลเมืองสงขลา-ปัตตานีไม่เอาถ่านหิน จัดเวทีคู่ขนานคัดค้านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ครั้งที่ 3 หรือ ค.3 ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า การรับฟังความเห็นของ กฟผ.ทั้ง 3 ครั้งไม่ชอบธรรมเพราะประชาชนเจ้าของพื้นที่ไม่มีส่วนแสดงความคิดเห็น นอกจากนี้ยังเปิดเผยข้อมูลด้วยว่าเวทีที่ผ่านมามีเพียงการมาแจ้งให้ชาวบ้านเดินทางไปรับข้าวสารฟรี โดยไม่ได้แจ้งว่าเป็นการเข้าร่วมเวทีรับความคิดเห็น ส่วนเวทีรับฟังความเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียครั้งที่ 3 หรือ ค.3 นายพล คงเสือ ผู้ช่วยผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า 3 กฟผ. ระบุว่า การเปิดรับฟังความเห็นทั้ง 2 วันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุการณ์ความวุ่นวายเกิดขึ้น โดยข้อกังวลและข้อเสนอแนะจากชุมชนจะนำไปศึกษาหามาตรการป้องกัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นสิ่งที่ กฟผ.เตรียมการไว้อยู่แล้ว ด้านนายสมพร ช่วยอารีย์ อาจารย์คณะวิทยาศาตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เปิดเผยหลังการเข้าร่วมรับฟังและแสดงความคิดเห็นในเวที ค.3 ว่าการจัดเวทีตั้งแต่ ค.1 จนถึง ค.3 ควรมีความรอบคอบมากกว่านี้ เช่น ควรมีการให้ความรู้ประชาชาชนก่อนจัดเวทีและเมื่อรับฟังความคิดเห็นในเวทีแรก ในเวทีต่อมาควรแบ่งกลุ่มย่อยดำเนินการให้ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่ม ซึ่งขั้นตอนนี้ในเวทีที่เทพาจัดรวบรัดเกินไป เพราะใช้เวลาเพียง 9 เดือนก็จัดเวที ค.3 ทั้งๆที่ยังมีความขัดแย้งในพื้นที่อยู่

“กระแส” ยากที่จะฝ่าดง “กระสุน” หากวัดพลัง “บ้านใหญ่” ไร้สังกัด และตระกูลการเมืองภายใต้ร่มเงาของพรรคก