วันนี้ (23 ต.ค.2566) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี

ร้านแผงลอย กุ้งเต้นนนนนน ที่สตรีทฟู๊ด ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ของ ปรเมศ เดชพงษ์ ได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก ปรเมศขายกุ้งเต้น ถ้วยละ 50 บาท เป็นกุ้งเต้นที่สั่งซื้อจากฟาร์มเลี้ยงกุ้งฝอย ใน
การประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วาระแรก วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ในวันที่ 28-31 พ.ค.นี้ พรรคประชาชนจัดทีม สส. 40-50 คน เตรียมอภิ
การประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วาระแรก วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ในวันที่ 28-31 พ.ค.นี้ พรรคประชาชนจัดทีม สส. 40-50 คน เตรียมอภิปราย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ปัญหาในการจัดสรรงบประมาณ คือ ไม่ตอบโจทย์ประเทศในอนาคต ซึ่งบริบทของโลกและสถานการณ์ของประเทศเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งได้เตรียมกางข้อพิรุธในทุกกระทรวง โดยเฉพาะงบฯ ที่มีการเร่งตั้งโครงการ ซึ่งมองว่าในกรอบวงเงินงบฯ ปี 69 มีการซ่อนโครงการอะไรอยู่ เพื่อใช้เป็นแต้มต่อทางการเมืองสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือไม่ นอกจากนี้ ฝ่ายค้านยังจับตางบกระตุ้นเศรษฐกิจ 157,000 ล้านบาท ที่โยกมาจากโครงการแจกหมื่นดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งกำหนดให้หน่วยรับงบประมาณจัดทำข้อเสนอโครงการผ่านรองนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแล เพื่อเสนอคณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ พิจารณาพร้อมเสนอโครงการต่อสำนักงบประมาณภายในเดือน พ.ค.นี้ ก่อนเสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติภายในเดือน มิ.ย. และสำนักงบประมาณจะจัดสรรภายในเดือนก.ค. นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการจัดสรรเวลาในการอภิปรายร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้มีการแบ่งเวลากันเรียบร้อยแล้วพรรคพลังประชารัฐได้เวลา 3 ชั่วโมง พรรคไทยสร้างไทยและพรรคเป็นธรรม ได้คนละครึ่งชั่วโมง เวลาที่เหลือเป็นของพรรคประชาชน ซึ่งตอนนี้เตรียมผู้อภิปรายและมีการซ้อมใหญ่กันที่สำนักงานพรรคประชาชน รวมตอนนี้ผู้อภิปราย เกือบ 50 คน สำหรับเรื่องประเด็นการอภิปรายหากใครเสนอประเด็นซ้ำก็เลือกคนเดียวตั้งแต่ต้น ปีนี้ค่อนข้างจะละเอียดมากจะแตกต่างจากปีที่ผ่านมา จากภาพที่เคยเห็นตั้งแต่อนาคตใหม่และก้าวไกลที่มีผู้อภิปรายน้อยกว่านี้ ปีนี้ตัวเลขผู้อภิปรายค่อนข้างเยอะเพราะเราต้องการที่จะละเอียดจริงๆ "เราอยากจะทำงานให้ละเอียดขึ้นทั้งชั้นอภิปรายวาระ 1 และในชั้นกรรมาธิการ ตอนนี้ประเทศเรากำลังประสบกับวิกฤตเศรษฐกิจ ที่ทุกคนน่าจะทราบกันดี รู้สึกกันดี ว่าเศรษฐกิจตอนนี้มันแย่แล้ว ดังนั้นการใช้งบประมาณของรัฐบาล เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ที่จะกอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจของประเทศได้ จึงจับผู้อภิปรายจำนวนมาก เพื่อจะลงรายละเอียดให้ครบทุกกระทรวง ครบทุกประเด็นจริงๆ ว่ามีงบประมาณอะไรที่รัฐบาลตั้งมาแล้ว เรามองว่าไม่จำเป็นแบบสถานการณ์ปัจจุบัน รวมถึงการทำงาน ในกรรมาธิการและอนุกรรมาธิการในปีนี้ ได้มีการกำชับแล้วว่าคนที่เข้าไปทำงานจะต้องทำงานอย่างละเอียดมากๆ และต้องจดทุกไอเทมที่มองว่าไม่มีประโยชน์ และพยายามตัดให้ได้ เพื่อจะนำไปใช้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์มากกว่านี้" นายปกรณ์วุฒิกล่าว นายปกรณ์วุฒิ ยังกล่าวต่อว่า อยากให้ประชาชนจับตาดูนอกเหนือจากการพิจารณางบประมาณในวาระที่ 1 คือ ในชั้นกรรมาธิการที่จะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน ในช่วงท้ายๆ งบทั้งหมดที่เราตัดได้สุดท้ายจะถูกแปลโดยคณะกรรมการ แปลตามรายการที่หน่วยงานได้ขอไว้ กับสำนักงบประมาณไปแล้ว ดังนั้นต่อให้เราตัดได้มากแค่ไหนรายการที่ถูกแปลไปก็เป็นโครงการที่ไม่มีประโยชน์อยู่ดี เช่น งบดิจิทัลวอลเล็ตที่ถูกทบทวน แล้วบอกว่าจะนำไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจแทน แต่ปรากฏว่าเจอคำสั่งให้ อปท.เสนอโครงการ ภายใน 3 วันเล น dafabet ฟรสุดท้ายงบก้อนนี้ ก้อนมโหฬารขนาดนี้ ที่บอกว่าเอาไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจแต่ให้เวลา เสนอโครงการแค่ 3 วัน มองไม่ออกว่าจะได้โครงการลักษณะไหน แล้วจะกอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจของประเทศได้หรือไม่ โดยยืนยันว่าปีนี้พรรคฝ่ายค้านทำงานอย่างละเอียดมากเพื่อช่วยรัฐบาลหางบไปกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ช่วยหางบไม่พอรัฐบาลจะต้องทำหน้าที่ใช้งบอย่างมีประสิทธิภาพ ให้ตรงจุดด้วย พร้อมตั้งข้อสังเกตสำหรับ การให้เวลา อปท.เสนอโครงการ 3 วัน ว่าบางครั้งคนที่ได้ประโยชน์อาจเป็นคนที่รู้ก่อนหรือเปล่า ว่าจะเสนอโครงการอะไร และแต่ละโครงการมีเจ้าภาพอยู่แล้วหรือไม่ มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นช่องทางกอบโกยผลประโยชน์ หรือ เกิดเงินทองมหาศาลจากเงินก้อนนี้ นายปกรณ์วุฒิ ยังกล่าวถึงผู้อภิปรายที่เด่นๆ ว่า เรามีภาพรวมอยู่แล้วอย่างหัวหน้าพรรค รวมถึง น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล แต่ทำหลายเรื่องก็คงมีไฮไลต์ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา ด้านเกษตร ด้านการบริหารจัดการน้ำ คงไม่ได้มีไฮไลต์เป็นพิเศษ แต่ว้าวทุกคน แต่ส่วนที่เน้นคือการตัดงบ ที่จำเป็นเพื่อที่จะนำไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจให้ตรงโจทย์ของประเทศ สำหรับการอภิปรายครั้งนี้พรรคประชาชนเปิดให้ สส.หน้าใหม่อภิปรายจำนวนมาก นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ตอนนี้ไม่มี สส.หน้าเก่าหน้าใหม่แล้ว ทุกคนเป็น สส.กันมาแล้ว 2 ปี สั่งสมประสบการณ์มาเยอะพอสมควร หลายคนทำงานได้ละเอียดมาก เรียนรู้จากงบประมาณ 2 ครั้งที่ผ่านมา บางคนไม่เคยอภิปรายแต่ทำหน้าที่ในอนุกรรมาธิการงบประมาณมาแล้วก็คิดว่ามีองค์ความรู้และข้อมูลที่สั่งสมมานาน ส่วนความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยขณะนี้เป็นผลดีหรือผลเสียต่อการพิจารณางบประมาณ นาย ปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ไม่ได้มองว่าผลเสียหรือผลดีของการผ่านงบประมาณ เพื่อไปบริหาร แต่มองผลเสียผลดีของประเทศมากกว่า ว่าสุดท้ายแล้วแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทุกคน กำลังตัดสินใจอยู่บนผลประโยชน์ของประชาชน หรือกำลังตัดสินใจอยู่บนอำนาจต่อรอง ที่กำลังคานกันระหว่าง 2 พรรคใหญ่มากกว่า ทั้งนี้นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ไม่มีรัฐบาลไหนอยากยุบสภาก่อนหมดวาระถ้าไม่จำเป็น แต่พรรคประชาชนเองก็พร้อมสำหรับการเลือกตั้ง ถ้าความขัดแย้งรุนแรงถึงขั้นที่รัฐบาลไม่สามารถตัดสินใจบนผลประโยชน์สูงสุดของประชาชนได้อีกแล้ว ซึ่งพรรคประชาชนมีแคนดิเดตอยู่แล้ว ส่วนจะเป็นคนเดียวหรือไม่ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน นายปกรณ์วุฒิ ยังกล่าวถึงแคมเปญในการอภิปรายครั้งนี้ ว่า ช่วยรัฐบาลหางบ ไม่ใช่เวลาของความขัดแย้งแต่เป็นเวลาของวิกฤตเศรษฐกิจที่เราต้องช่วยเหลือประชาชน สิ่งที่เราคาดหวังถ้าเราช่วยรัฐบาลหางบได้จริงๆ จากการตัดงบคือรัฐบาลต้องใช้งบนั้น ให้เป็นประโยชน์กับการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย ไม่ใช่เอาไปใช้อะไรก็ไม่รู้ ทั้งนี้ประเมินสถานการณ์ทางการเมืองหลังคดีนายทักษิณ ชินวัตรหลังวันที่ 13 มิ.ย.นี้ว่าอาจมีอุบัติเหตุได้ตลอด ฉะนั้นต้องเตรียมพร้อม สำหรับการเลือกตั้งใหม่เสมอไม่ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ อ่านข่าว : นายกฯ พร้อมแจงศึกอภิปรายงบฯ ปี 69 - "อนุทิน" ยันภูมิใจไทยไม่มีโหวตขวาง กางแผนจัดสรรงบประมาณปี 69 ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ?
นับตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 11 เกาะอังกฤษถูกเปลี่ยนแปลงการปกครองเรื่อยมา กระทั่งราชวงศ์ของอังกฤษได้เริ
กรณีพบนักเรียนและครูจาก 2 โรงเรียนอ.แกลง จ.ระยอง ป่วยอุจจาระร่วงกว่า 1,436 คนในงาน ในสัปดาห์กีฬาสีตั
วันนี้ (1 พ.ค.2566) ธนาคารแห่งประเทศไทย รายงานว่า ขณะนี้สถาบันการเงิน และผู้ให้บริการทางการเงิน พัฒน
การประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วาระแรก วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ในวันที่ 28-31 พ.ค.นี้ พรรคประชาชนจัดทีม สส. 40-50 คน เตรียมอภิปราย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ปัญหาในการจัดสรรงบประมาณ คือ ไม่ตอบโจทย์ประเทศในอนาคต ซึ่งบริบทของโลกและสถานการณ์ของประเทศเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งได้เตรียมกางข้อพิรุธในทุกกระทรวง โดยเฉพาะงบฯ ที่มีการเร่งตั้งโครงการ ซึ่งมองว่าในกรอบวงเงินงบฯ ปี 69 มีการซ่อนโครงการอะไรอยู่ เพื่อใช้เป็นแต้มต่อทางการเมืองสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือไม่ นอกจากนี้ ฝ่ายค้านยังจับตางบกระตุ้นเศรษฐกิจ 157,000 ล้านบาท ที่โยกมาจากโครงการแจกหมื่นดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งกำหนดให้หน่วยรับงบประมาณจัดทำข้อเสนอโครงการผ่านรองนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแล เพื่อเสนอคณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ พิจารณาพร้อมเสนอโครงการต่อสำนักงบประมาณภายในเดือน พ.ค.นี้ ก่อนเสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติภายในเดือน มิ.ย. และสำนักงบประมาณจะจัดสรรภายในเดือนก.ค. นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการจัดสรรเวลาในการอภิปรายร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้มีการแบ่งเวลากันเรียบร้อยแล้วพรรคพลังประชารัฐได้เวลา 3 ชั่วโมง พรรคไทยสร้างไทยและพรรคเป็นธรรม ได้คนละครึ่งชั่วโมง เวลาที่เหลือเป็นของพรรคประชาชน ซึ่งตอนนี้เตรียมผู้อภิปรายและมีการซ้อมใหญ่กันที่สำนักงานพรรคประชาชน รวมตอนนี้ผู้อภิปราย เกือบ 50 คน สำหรับเรื่องประเด็นการอภิปรายหากใครเสนอประเด็นซ้ำก็เลือกคนเดียวตั้งแต่ต้น ปีนี้ค่อนข้างจะละเอียดมากจะแตกต่างจากปีที่ผ่านมา จากภาพที่เคยเห็นตั้งแต่อนาคตใหม่และก้าวไกลที่มีผู้อภิปรายน้อยกว่านี้ ปีนี้ตัวเลขผู้อภิปรายค่อนข้างเยอะเพราะเราต้องการที่จะละเอียดจริงๆ "เราอยากจะทำงานให้ละเอียดขึ้นทั้งชั้นอภิปรายวาระ 1 และในชั้นกรรมาธิการ ตอนนี้ประเทศเรากำลังประสบกับวิกฤตเศรษฐกิจ ที่ทุกคนน่าจะทราบกันดี รู้สึกกันดี ว่าเศรษฐกิจตอนนี้มันแย่แล้ว ดังนั้นการใช้งบประมาณของรัฐบาล เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ที่จะกอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจของประเทศได้ จึงจับผู้อภิปรายจำนวนมาก เพื่อจะลงรายละเอียดให้ครบทุกกระทรวง ครบทุกประเด็นจริงๆ ว่ามีงบประมาณอะไรที่รัฐบาลตั้งมาแล้ว เรามองว่าไม่จำเป็นแบบสถานการณ์ปัจจุบัน รวมถึงการทำงาน ในกรรมาธิการและอนุกรรมาธิการในปีนี้ ได้มีการกำชับแล้วว่าคนที่เข้าไปทำงานจะต้องทำงานอย่างละเอียดมากๆ และต้องจดทุกไอเทมที่มองว่าไม่มีประโยชน์ และพยายามตัดให้ได้ เพื่อจะนำไปใช้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์มากกว่านี้" นายปกรณ์วุฒิกล่าว นายปกรณ์วุฒิ ยังกล่าวต่อว่า อยากให้ประชาชนจับตาดูนอกเหนือจากการพิจารณางบประมาณในวาระที่ 1 คือ ในชั้นกรรมาธิการที่จะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน ในช่วงท้ายๆ งบทั้งหมดที่เราตัดได้สุดท้ายจะถูกแปลโดยคณะกรรมการ แปลตามรายการที่หน่วยงานได้ขอไว้ กับสำนักงบประมาณไปแล้ว ดังนั้นต่อให้เราตัดได้มากแค่ไหนรายการที่ถูกแปลไปก็เป็นโครงการที่ไม่มีประโยชน์อยู่ดี เช่น งบดิจิทัลวอลเล็ตที่ถูกทบทวน แล้วบอกว่าจะนำไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจแทน แต่ปรากฏว่าเจอคำสั่งให้ อปท.เสนอโครงการ ภายใน 3 วันเล น dafabet ฟรสุดท้ายงบก้อนนี้ ก้อนมโหฬารขนาดนี้ ที่บอกว่าเอาไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจแต่ให้เวลา เสนอโครงการแค่ 3 วัน มองไม่ออกว่าจะได้โครงการลักษณะไหน แล้วจะกอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจของประเทศได้หรือไม่ โดยยืนยันว่าปีนี้พรรคฝ่ายค้านทำงานอย่างละเอียดมากเพื่อช่วยรัฐบาลหางบไปกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ช่วยหางบไม่พอรัฐบาลจะต้องทำหน้าที่ใช้งบอย่างมีประสิทธิภาพ ให้ตรงจุดด้วย พร้อมตั้งข้อสังเกตสำหรับ การให้เวลา อปท.เสนอโครงการ 3 วัน ว่าบางครั้งคนที่ได้ประโยชน์อาจเป็นคนที่รู้ก่อนหรือเปล่า ว่าจะเสนอโครงการอะไร และแต่ละโครงการมีเจ้าภาพอยู่แล้วหรือไม่ มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นช่องทางกอบโกยผลประโยชน์ หรือ เกิดเงินทองมหาศาลจากเงินก้อนนี้ นายปกรณ์วุฒิ ยังกล่าวถึงผู้อภิปรายที่เด่นๆ ว่า เรามีภาพรวมอยู่แล้วอย่างหัวหน้าพรรค รวมถึง น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล แต่ทำหลายเรื่องก็คงมีไฮไลต์ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา ด้านเกษตร ด้านการบริหารจัดการน้ำ คงไม่ได้มีไฮไลต์เป็นพิเศษ แต่ว้าวทุกคน แต่ส่วนที่เน้นคือการตัดงบ ที่จำเป็นเพื่อที่จะนำไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจให้ตรงโจทย์ของประเทศ สำหรับการอภิปรายครั้งนี้พรรคประชาชนเปิดให้ สส.หน้าใหม่อภิปรายจำนวนมาก นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ตอนนี้ไม่มี สส.หน้าเก่าหน้าใหม่แล้ว ทุกคนเป็น สส.กันมาแล้ว 2 ปี สั่งสมประสบการณ์มาเยอะพอสมควร หลายคนทำงานได้ละเอียดมาก เรียนรู้จากงบประมาณ 2 ครั้งที่ผ่านมา บางคนไม่เคยอภิปรายแต่ทำหน้าที่ในอนุกรรมาธิการงบประมาณมาแล้วก็คิดว่ามีองค์ความรู้และข้อมูลที่สั่งสมมานาน ส่วนความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยขณะนี้เป็นผลดีหรือผลเสียต่อการพิจารณางบประมาณ นาย ปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ไม่ได้มองว่าผลเสียหรือผลดีของการผ่านงบประมาณ เพื่อไปบริหาร แต่มองผลเสียผลดีของประเทศมากกว่า ว่าสุดท้ายแล้วแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทุกคน กำลังตัดสินใจอยู่บนผลประโยชน์ของประชาชน หรือกำลังตัดสินใจอยู่บนอำนาจต่อรอง ที่กำลังคานกันระหว่าง 2 พรรคใหญ่มากกว่า ทั้งนี้นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ไม่มีรัฐบาลไหนอยากยุบสภาก่อนหมดวาระถ้าไม่จำเป็น แต่พรรคประชาชนเองก็พร้อมสำหรับการเลือกตั้ง ถ้าความขัดแย้งรุนแรงถึงขั้นที่รัฐบาลไม่สามารถตัดสินใจบนผลประโยชน์สูงสุดของประชาชนได้อีกแล้ว ซึ่งพรรคประชาชนมีแคนดิเดตอยู่แล้ว ส่วนจะเป็นคนเดียวหรือไม่ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน นายปกรณ์วุฒิ ยังกล่าวถึงแคมเปญในการอภิปรายครั้งนี้ ว่า ช่วยรัฐบาลหางบ ไม่ใช่เวลาของความขัดแย้งแต่เป็นเวลาของวิกฤตเศรษฐกิจที่เราต้องช่วยเหลือประชาชน สิ่งที่เราคาดหวังถ้าเราช่วยรัฐบาลหางบได้จริงๆ จากการตัดงบคือรัฐบาลต้องใช้งบนั้น ให้เป็นประโยชน์กับการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย ไม่ใช่เอาไปใช้อะไรก็ไม่รู้ ทั้งนี้ประเมินสถานการณ์ทางการเมืองหลังคดีนายทักษิณ ชินวัตรหลังวันที่ 13 มิ.ย.นี้ว่าอาจมีอุบัติเหตุได้ตลอด ฉะนั้นต้องเตรียมพร้อม สำหรับการเลือกตั้งใหม่เสมอไม่ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ อ่านข่าว : นายกฯ พร้อมแจงศึกอภิปรายงบฯ ปี 69 - "อนุทิน" ยันภูมิใจไทยไม่มีโหวตขวาง กางแผนจัดสรรงบประมาณปี 69 ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ?
หลังจากมีคลิปของคนไทยทำงานไอซ์แลนด์ โพสต์คลิป 2 เหตุการณ์ไล่เลี่ยกัน แพร่ทางโลกออนไลน์ คลิปแรกระหว่า