วันนี้ (18 พ.ค.2567) เมื่อเวลา 16.30 น. นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนาย ความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจเตือนเอกชนระวังเศรษฐกิจโลกปีหน้าแย่กระทบการส่งออกไทย ระบุขอใผล บอล สํา รอง สดห้เร่งปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตรองรับนโยบายปรับค่าแรง 300 บาท ในระหว่างการสัมมนาหัวข้อ วิกฤตการณ์เศรษฐ
รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจเตือนเอกชนระวังเศรษฐกิจโลกปีหน้าแย่กระทบการส่งออกไทย ระบุขอใผล บอล สํา รอง สดห้เร่งปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตรองรับนโยบายปรับค่าแรง 300 บาท ในระหว่างการสัมมนาหัวข้อ วิกฤตการณ์เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ผลกระทบและการปรับตัวของผู้ส่งออกไทย โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2555 มีแนวโน้มเติบโตลดลง ส่งผลต่อการส่งออก โดยไทยจะขายสินค้าได้ยากขึ้น ผนวกภาวะต้นทุนที่จะเพิ่มสูงขึ้นจากนโยบายปรับค่าแรง 300 บาทของรัฐ จึงจำเป็นที่ภาคเอกชนต้องเร่งปรับตัว นายกิตติรัตน์ หวังว่าภาคเอกชนจะให้ความร่วมมือในการปรับค่าแรง และขอให้ผู้ประกอบการเห็นใจแรงงานผู้มีรายได้น้อยว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องได้รับค่าตอบแทนที่สูงขึ้น ในส่วนของภาคเอกชนไม่ห่วงว่าวิกฤติสหรัฐอเมริกาจะกระทบการส่งออกมากนัก ด้านสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยระบุว่า ปัจจุบันไทยลดการพึ่งพาตลาดสหรัฐและอียู และหันส่งออกในกลุ่มอาเซียน จีน และญี่ปุ่นมากขึ้น พร้อมเชื่อมั่นว่าการส่งออกตลอดทั้งปีจะขยายตัวได้ถึงร้อยละ 19-20.5 หรือมีมูลค่าเกือบ 234,00 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่สภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทยเห็นว่าสิ่งที่รัฐฯควรให้ความช่วยเหลือภาคการส่งออก คือกำหนดนโยบายด้านการค้าและการลงทุนที่ชัดเจน และที่สำคัญคือดูแลค่าเงินบาทไม่ให้แข็งค่าเกินไป ในระหว่างการสัมมนาหัวข้อ วิกฤตการณ์เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ผลกระทบและการปรับตัวของผู้ส่งออกไทย โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2555 มีแนวโน้มเติบโตลดลง ส่งผลต่อการส่งออก โดยไทยจะขายสินค้าได้ยากขึ้น ผนวกภาวะต้นทุนที่จะเพิ่มสูงขึ้นจากนโยบายปรับค่าแรง 300 บาทของรัฐ จึงจำเป็นที่ภาคเอกชนต้องเร่งปรับตัว นายกิตติรัตน์ หวังว่าภาคเอกชนจะให้ความร่วมมือในการปรับค่าแรง และขอให้ผู้ประกอบการเห็นใจแรงงานผู้มีรายได้น้อยว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องได้รับค่าตอบแทนที่สูงขึ้น ในส่วนของภาคเอกชนไม่ห่วงว่าวิกฤติสหรัฐอเมริกาจะกระทบการส่งออกมากนัก ด้านสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยระบุว่า ปัจจุบันไทยลดการพึ่งพาตลาดสหรัฐและอียู และหันส่งออกในกลุ่มอาเซียน จีน และญี่ปุ่นมากขึ้น พร้อมเชื่อมั่นว่าการส่งออกตลอดทั้งปีจะขยายตัวได้ถึงร้อยละ 19-20.5 หรือมีมูลค่าเกือบ 234,00 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่สภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทยเห็นว่าสิ่งที่รัฐฯควรให้ความช่วยเหลือภาคการส่งออก คือกำหนดนโยบายด้านการค้าและการลงทุนที่ชัดเจน และที่สำคัญคือดูแลค่าเงินบาทไม่ให้แข็งค่าเกินไป
วันนี้ (3 ก.ค.2567) วิศวกร จากสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย และเจ้าหน้าที่จากกรุงเทพมหานคร เข้าตรวจสอบภายในไซต์งานก่อสร้างโรงงานกำจัดมูลฝอยด้วยวิธีการเผาไหม้เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้า ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ
