วันนี้ (14 ก.ค.2567) สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน โดน

วันที่ 7 ก.ค.2565 โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา ออกประกาศเรื่อง เปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีแนวโน้มสูงขึ้น ดังนั้นเพื่อ
วันนี้ (7 ธ.ค.2566) ฐิติวัฒน์ กลีบมาลัย ชาวนาใน อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา และเป็นอดีตเลขาธิการสมาคมชาวนา จ.พระนครศรีอยุธยา สำรวจแปลงนาหลังการไถ เพื่อเตรียมปลูกข้าวนาปรัง รอบที่ 2 ของปี ท่ามกลางความกัง
วันนี้ (7 ธ.ค.2565) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม พร้อมนายธนวัชร นิติกาญจนา ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต.วรณันท์ ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายชวภณ สินพูนภักดิ์ หัวหน้าคณะพนักงานสืบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ปราบปรามจับกุมกลุ่มผู้ที่ทำการลักลอบใช้กระแสไฟฟ้าเพื่อนำมาใช้ในการขุดเหรียญดิจิทัล โดยเฉพาะบิทคอยน์ ในพื้นที่ จ.นนทบุรี 39 แห่งและกรุงเทพมหานคร 2 แห่ง รวม 41 จุด หลังจากที่มีผู้ร้องเรียนและทำการสืบสวนสอบสวนมาเกือบ 1 ปี โดยสามารถจับกุมผู้กระทำผิดเพศชาย 1 คน อายุ 30 ปี และยึดเครื่องขุดเงินดิจิทัลรุ่นเอส 9 ได้ประมาณ 3,500 เครื่อง จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า กลุ่มผู้กระทำผิดได้ลักลอบติดตั้งตั้งเครื่องขุดเงินดิจิทัลแห่งละประมาณ 100 เครื่อง โดยทำมาแล้วประมาณ 2 ปี ส่งผลให้รัฐเสียหายค่าไฟฟ้าเดือนละ 20-30 ล้านบาท รวม 2 ปีกว่า 500 ล้านบาท และจากการตรวจสอบพบว่าที่ผ่านมามีการลักลอบใช้ไฟฟ้าในอาคารพาณิชย์ปริมาณสูงมากส่งผลให้มีอุณหภูมิสูงตามไปด้วย ซึ่งการใช้ไฟฟ้าลักษณะนี้ทำให้มีอาคารพาณิชย์ถูกไฟไหม้ไปแล้วประมาณ 3 แห่ง จึงถือว่าอันตรายมาก นายสมศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากนbaccarat pravidlaี้ พบว่าผู้กระทำความผิดมีรายได้จากการขุดเงินดิจิทัล 35 บาทต่อเครื่องต่อวันทั้งหมด 3,500 เครื่อง ทำให้มีรายได้ถึง 4.2 ล้านบาทต่อเดือน รวม 2 ปีมีรายได้กว่า 100 ล้านบาท โดยไม่เสียค่าไฟฟ้าแต่รัฐกลับสูญเสียรายได้หลายร้อยล้านบาท ขณะเดียวกัน จากการสอบปากคำผู้ต้องหา พบว่า มีการลักลอบขุดบิทคอยน์มากว่า 2 ปี มีลูกน้องอีกประมาณ 20 คน เป็นกลุ่มคนไทยทั้งหมด โดยอุปกรณ์และข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบได้มีเพียง 1% เท่านั้น ดังนั้นหากคำนวนแล้วถ้ามีการกระทำผิด 100% รัฐจะเสียหายค่าไฟฟ้ากว่า 5 หมื่นล้านบาท จากปฏิบัติการที่เกิดขึ้นตนเองตั้งข้อสังเกตว่า การลักลอบใช้ไฟฟ้าในช่วง 2 ปีนี้ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวงทราบเรื่องหรือสงสัยหรือไม่ และเป็นไปได้หรือไม่ที่เรื่องดังกล่าวอาจจะเกี่ยวข้องกับการขึ้นค่าไฟฟ้าของประชาชนจนส่งผลให้ประชาชนเดือดร้อนและประเทศเสียหาย ทั้งนี้ ฝากไปยังการไฟฟ้านครหลวงและผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบโดยเร็วที่สุด เพราะเชื่อว่าเป็นเรื่องที่ตรวจสอบได้ และขอให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา หากพบเหตุต้องสงสัยให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ข่าวที่เกี่ยวข้อง DSI ปูพรม 41 จุดลอบใช้ไฟหลวงขุดบิตคอยน์รัฐสูญ 500 ล้าน
เป็นระยะเวลากว่า 3 ปี สำหรับคดี การเสียชีวิตของดาราสาว “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” ตกเรือเสียชีวิตกลาง
จากกรณีมือปืนยิง นายลิม กิมยา อายุ 74 ปี อดีต สส.พรรคกู้ชาติกัมพูชา (Cambodia National Rescue Party
วันนี้ (7 ธ.ค.2565) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม พร้อมนายธนวัชร นิติกาญจนา ที่ปรึกษา รมว.ยุติธร
วันนี้ (7 ธ.ค.2565) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม พร้อมนายธนวัชร นิติกาญจนา ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต.วรณันท์ ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายชวภณ สินพูนภักดิ์ หัวหน้าคณะพนักงานสืบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ปราบปรามจับกุมกลุ่มผู้ที่ทำการลักลอบใช้กระแสไฟฟ้าเพื่อนำมาใช้ในการขุดเหรียญดิจิทัล โดยเฉพาะบิทคอยน์ ในพื้นที่ จ.นนทบุรี 39 แห่งและกรุงเทพมหานคร 2 แห่ง รวม 41 จุด หลังจากที่มีผู้ร้องเรียนและทำการสืบสวนสอบสวนมาเกือบ 1 ปี โดยสามารถจับกุมผู้กระทำผิดเพศชาย 1 คน อายุ 30 ปี และยึดเครื่องขุดเงินดิจิทัลรุ่นเอส 9 ได้ประมาณ 3,500 เครื่อง จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า กลุ่มผู้กระทำผิดได้ลักลอบติดตั้งตั้งเครื่องขุดเงินดิจิทัลแห่งละประมาณ 100 เครื่อง โดยทำมาแล้วประมาณ 2 ปี ส่งผลให้รัฐเสียหายค่าไฟฟ้าเดือนละ 20-30 ล้านบาท รวม 2 ปีกว่า 500 ล้านบาท และจากการตรวจสอบพบว่าที่ผ่านมามีการลักลอบใช้ไฟฟ้าในอาคารพาณิชย์ปริมาณสูงมากส่งผลให้มีอุณหภูมิสูงตามไปด้วย ซึ่งการใช้ไฟฟ้าลักษณะนี้ทำให้มีอาคารพาณิชย์ถูกไฟไหม้ไปแล้วประมาณ 3 แห่ง จึงถือว่าอันตรายมาก นายสมศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากนbaccarat pravidlaี้ พบว่าผู้กระทำความผิดมีรายได้จากการขุดเงินดิจิทัล 35 บาทต่อเครื่องต่อวันทั้งหมด 3,500 เครื่อง ทำให้มีรายได้ถึง 4.2 ล้านบาทต่อเดือน รวม 2 ปีมีรายได้กว่า 100 ล้านบาท โดยไม่เสียค่าไฟฟ้าแต่รัฐกลับสูญเสียรายได้หลายร้อยล้านบาท ขณะเดียวกัน จากการสอบปากคำผู้ต้องหา พบว่า มีการลักลอบขุดบิทคอยน์มากว่า 2 ปี มีลูกน้องอีกประมาณ 20 คน เป็นกลุ่มคนไทยทั้งหมด โดยอุปกรณ์และข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบได้มีเพียง 1% เท่านั้น ดังนั้นหากคำนวนแล้วถ้ามีการกระทำผิด 100% รัฐจะเสียหายค่าไฟฟ้ากว่า 5 หมื่นล้านบาท จากปฏิบัติการที่เกิดขึ้นตนเองตั้งข้อสังเกตว่า การลักลอบใช้ไฟฟ้าในช่วง 2 ปีนี้ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวงทราบเรื่องหรือสงสัยหรือไม่ และเป็นไปได้หรือไม่ที่เรื่องดังกล่าวอาจจะเกี่ยวข้องกับการขึ้นค่าไฟฟ้าของประชาชนจนส่งผลให้ประชาชนเดือดร้อนและประเทศเสียหาย ทั้งนี้ ฝากไปยังการไฟฟ้านครหลวงและผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบโดยเร็วที่สุด เพราะเชื่อว่าเป็นเรื่องที่ตรวจสอบได้ และขอให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา หากพบเหตุต้องสงสัยให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ข่าวที่เกี่ยวข้อง DSI ปูพรม 41 จุดลอบใช้ไฟหลวงขุดบิตคอยน์รัฐสูญ 500 ล้าน
วันนี้ (28 ม.ค.2564) น.ส.พัชรศรี เบญจมาศ หรือ กาละแมร์ เจ้าผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้