คาดพายุขึ้นฝั่งในไทย 25 ก.ย.นี้ เตรียมรับมือน้ำท่วมซ้ำ ในระยะนี้ยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องประกอบกับ
ปนเปื้อน เดอะซีรีส์ EP.2 หลุมฝังกลบ "ชุมชนหนองพะวา" ยุติธรรมไม่มีจริง ปนเปื้อน เดอะซีรีส์ EP.3 "ขยะอันตราย" ผู้ก่อมลพิษ ต้องรับผิดชอบ ความสูญเสียราคาแพง จากโรงงาน "แว็กซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล" ... ชนะคดีแต
การออกจดหมายเปิดใจฉบับที่ 2 ของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ผ่านสื่อออนไลน์ ประกาศชัดเจนทั้งเรื่องตัวตน และเจตนารมณ์ทางการเมือง เน้นความประนีประนอม ลดขัดแย้งทางการเมือง ไม่ต้องเก่งเรื่องพูด แต่คิดให้เป็น หาคนเก่งมาช่วยทำงานได้ ส่งผลให้ “บิ๊กป้อม” ดูดี มีเสน่ห์ได้อย่างน่าทึ่ง ขณะเดียวกัน ยังสะท้อนให้เห็นว่า ไม่ได้หยุดนิ่งอยู่กับที่ โดยเฉพาะการเปิดดีลกับพรรคสร้างอนาคตไทย ที่นำโดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และกลุ่ม 4 กุมาร ซึ่งเป็นกลุ่มแรกเริ่มก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ เท่ากับยืนยันข้อความใจจดหมาย เปิดใจฉบับที่ 2 ตอนหนึ่งที่ระบุว่า คนทำงานการเมืองไม่จำเป็นต้องพูดเก่ง แต่ต้องสามารถหาคนเก่งมาช่วยทำงานได้ ทั้งยังสอดคล้องกับเจตนารมณ์ที่ระบุชัดด้วยว่า ต้องแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศด้วย เพราะนายสมคิด คืออดีตรองนายกฯ สมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ตั้งแต่ปี 44 ครั้งนั้น นโยบายด้านเศรษฐกิจที่เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มฐานรากและเป็นแนวทางนโยบายประชานิยมในเวลาต่อมา ล้วนมาจากนายสมคิดเป็นสำคัญ ขณะเดียวกัน ก็จะทำให้เป้าหมายการเดินหน้าบนเวทีการเมืองต่อไปของนายสมคิดและส่วนหนึ่งของ “กลุ่ม 4 กุมาร” ไม่เสียศูนย์ หลังจากที่ผ่านมา ต้องล้มลุกคลุกคลานจากการย้ายไปตั้งพรรคใหม่ คือสร้างอนาคตไทย แต่ไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คาดหวัง เพราะต้องเจอกับกติกาใหม่ที่ไม่เอื้อประโยชน์ต่อพรรคเล็ก และปัจจัยด้านเงินทุน ซึ่งเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ สาระในจดหมายฉบับที่ 2 ของ “บิ๊กป้อม” ที่ระบุว่าชัดว่า จะทาง เข้า เกม superslotสื่อสารกับประชาชนผ่านโลกโซเชียลเป็นสำคัญนับจากนี้ไป ยังถูกนำไปเปรียบเทียบกับการสื่อสาร โดยใช้สื่อโซเชียลมีเดียของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และว่าที่แคนดิเดทนายกฯ ในบัญชีพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ยังไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่ควรจะเป็น แม้จะผ่านพ้นเวลาใกล้ครบ 8 ปีแล้วก็ตาม รศ.ธนพร ศรียากูล นายกสมาคมรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่เคยคลุกคลีอยู่กับการเมืองไทยระยะหนึ่ง ก่อนผันตัวไปเป็นนักวิชาการในปัจจุบัน ระบุว่า ความแตกต่างที่ชัดเจนทั้งในด้านบุคลิกภาพและวิธีการสื่อสาร กับผู้คน คือ “บิ๊กป้อม” ใช้ความอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นตัวนำ จึงประสานได้ทุกกลุ่มทุกพรรค แต่ทีมงาน”บิ๊กตู่”ยังใช้ Paradigm (วิธีคิด) แบบเดิม ๆ คือเป็นผู้รู้มากกว่าใคร ๆ ทำให้การเข้าหากลุ่มการเมืองอื่น ๆ กลายเป็นเรื่องยาก ยังไม่นับรวมความฮึกเหิมคึกคัก เสียงเชียร์และเสียงตอบรับจากประชาชน ซึ่งส่งผลให้เกิด “ใจบันดาลแรง” กระฉับกระเฉง ลงพื้นที่ได้อย่างต่อเนื่องชนิดที่ทีมงานเองยังต้องแปลกใจ วิเคราะห์โดย : ประจักษ์ มะวงศ์สา
การออกจดหมายเปิดใจฉบับที่ 2 ของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ผ่านสื่อออนไลน์ ประกาศชัดเจนทั้งเรื่องตัวตน และเจตนารมณ์ทางการเมือง เน้นความประนีประนอม ลดขัดแย้ง