นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ช่วงหน้าฝนประชาชนควรจัดสภาพแวดล้อมทั้งในบ้าน

วันนี้ (18 ก.ย.2567) นพ.สกานต์ บุนนาค รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า มะเร็งต่อมน้ำเหลือง พบได้บ่อยลำดับที่ 5 ในคนไทย พบได้ในทุกช่วงอายุแล้วแต่ชนิดประมาณ 3,000 - 4,000 คนต่อปี เนื่องจากเป็นมะเร็งที่เกิด

วันนี้ (18 ก.ย.2567) นพ.สกานต์ บุนนาค รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า มะเร็งต่อมน้ำเหลือง พบได้บ่อยลำดับที่ 5 ในคนไทย พบได้ในทุกช่วงอายุแล้วแต่ชนิดประมาณ 3,000 - 4,000 คนต่อปี เนื่องจากเป็นมะเร็งที่เกิดกับต่อมน้ำเหลืองจึงเกิดได้ทุกบริเวณของร่างกาย ตั้งแต่รักแร้ คอ ขาหนีบ ตามข้อพับ ในช่องอก และในช่องท้อง นอกจากนี้เซลล์ต่อมน้ำเหลืองยังมีอยู่ทุกอวัยวะสามารถเกิดเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองได้ทั้งสิ้น เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลืองบริเวณลำไส้ มะเร็งต่อมน้ำเหลืองในสมอง เป็นต้น เรืออากาศเอกนายแพทย์สมชาย ธนะสิทธิชัย ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า "ต่อมน้ำเหลือง" มีรูปร่างคล้ายเม็ดถั่วขนาดเล็ก เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 0.5 - 1 เซนติเมตร พบได้ทั่วทั้งร่างกายปริมาณหลายร้อยต่อม ภายในมีเม็ดเลือดขาวปริมาณมาก ทำหน้าที่ในระบบภูมิคุ้มกัน คอยต่อสู้และปกป้องร่างกายจากสิ่งแปลกปลอม ปัจจัยเสี่ยงและสาเหตุของ "มะเร็งต่อมน้ำเหลือง" เกิดจากการกลายพันธุ์ของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดลิมฟอยด์ (lymphoid) โดยมีปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ได้แก่ สัญญาณเตือน อาการของมะเร็งต่อมน้ำเหลือง แบ่งเป็น คลำได้ต่อมน้ำเหลืองโตหรือเป็นก้อนบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น คอ ใต้รักแร้ ขาหนีบ ดังนั้นการป้องกันของมะเร็งต่อมน้ำเหลือง จึงทำได้โดยการหมั่นสังเกตตัวเอง ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี หากเจ็บป่วยให้รีบไปรักษา หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมีโดยตรง และรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง พญ.ศศินิภา ตรีทิเพนทร์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญอายุรศาสตร์โรคเลือด สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า มะเร็งต่อมน้ำเหลือง แบ่งออกเป็น มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กิน (Hodgkin lymphoma) ผู้ป่วยมักมีต่อมน้ำเหลืองโตบริเวณคอและช่องอก รักษาโดยการใช้ยาเคมีบำบัดร่วมกับการฉายแสง โอกาสหายขาดสูง มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ชนิดนอนฮอดจ์กิน (Non-Hodgkin lymphoma) พบมากและแบ่งย่อยออกได้อีกประมาณ 30 ชนิด แต่แบ่งตามลักษณะการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้เป็น 2 แบบ คือ มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดรุนแรง (Aggressive lymphoma) การแบ่งตัวและแพร่กระจายเกิดอย่างรวดเร็ว มีอาการรุนแรง ดังนั้นจึงตอบสนองกับยาเคมีบำบัดซึ่งออกฤทธิ์กับเซลล์มะเร็งที่แบ่งตัวอยู่ค่อนข้างดี กลุ่มนี้ต้องรักษาทันทีหากไม่รักษาผู้ป่วยอาจเสียชีวิตใน 6 เดือน ถึง 2 ปี แต่หากได้รับการรักษาทันท่วงที มีโอกาสหายขาดจากโรคได้มากแม้จะอยู่ในระยะไหนก็ตาม มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดค่อยเป็นค่อยไป (Indolent lymphoma) การแบ่งตัวและแพร่กระจายค่อนข้างช้า อาการเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปไม่รุนแรงแต่เรื้อรัง กลุ่มนี้มักไม่ค่อยหายขาดด้วยเคมีบำบัดที่มีอยู่ในปัจจุบัน จึงรักษาเมื่อมีข้อบ่งชี้และติดตามอาการเป็นระยะ วิธีการตรวจวินิจฉัย จำเป็นที่จะต้องตัดชิ้นเนื้อต่อมน้ำเหลือง เพื่อไปตรวจทางพยาธิวิทยาและย้อมสีชิ้นเนื้อเพิ่มเติม โดยการดูเซลล์ที่ผิดปกติภายใต้กล้องจุลทรรศน์ นอกจากนี้แล้ว แพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมโดยการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan) ทั้งช่องอกและช่องท้อง รวมถึงการเจาะไขกระดูกตรวจ เพื่อบ่งบอกระยะของโรค (ระยะ 1 - 4) การรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลือง ปัจจุบัน ให้การรักษาด้วยยาเคมีบำบัด ร่วมกับยามุ่งเป้าที่เริ่มมีการศึกษาวิจัยและนำมาใช้มากขึ้นในปัจจุบัน ฉายแสงในบางกรณี และการปลูกถ่ายไขกระดูกในกรณีที่กลับเป็นซ้ำ นอกจากนี้ยังมีวิธีการรักษาใหม่สำหรับโรคที่กลับเป็นซ้ำด้วยการใช้เซลล์บำบัด (CAR-T cell) ซึ่งยังอยู่ในช่วงการศึกษาวิจัยในประเทศไทย สำหรับผู้ป่วยที่ได้รับการรักษา สิ่งสำคัญสำหรับผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัด คือการป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ง่าย และรุนแรงกว่าโดยทั่วไป เนื่องจากภูมิคุ้มกันที่ต่ำลง แนะนำให้รับประทานอาหารทำใหม่ สุกสะอาดให้ครบห้าหมู่ เลือกรับประทานผลไม้เปลือกหนา เช่น เงาะ มังคุด แก้วมังกร และส้ม เป็นต้น หลเกม สล็อต สมัคร ฟรีแคน ดี้ ทดลอง เล่นีกเลี่ยงสถานที่ชุมชนที่แออัด เสี่ยงต่อการรับเชื้อ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายตามเหมาะสม แต่หลีกเลี่ยงการกระทบกระแทก เพราะในช่วงที่ได้ยา อาจมีเกล็ดเลือดต่ำ ทำให้เลือดออกง่ายได้ หากมีไข้ให้รีบไปโรงพยาบาล ความเกี่ยวข้องมะเร็งต่อมน้ำเหลืองกับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองและมะเร็งทางโลหิตวิทยาควรรับการฉีดวัคซีนโควิด -19 เนื่องจากผู้ป่วยกลุ่มนี้มีภูมิต้านทานต่ำหากติดเชื้อไวรัส จะทำให้มีโอกาสเกิดอาการรุนแรงโดยสามารถรับวัคซีนได้ตั้งแต่แรกวินิจฉัยระหว่างรับการรักษาหรือ เมื่อรักษาครบแล้ว โดยแนะนำให้ปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้ ทั้งนี้ควรหมั่นสังเกตความผิดปกติของร่างกาย และรีบปรึกษาทันที เมื่อพบความผิดปกติ เนื่องจากการรับการรักษาตั้งแต่มะเร็งอยู่ในระยะต้น ๆ จะส่งผลให้การรักษาเกิดประสิทธิภาพมากกว่าการรักษาเมื่อมะเร็งเริ่มลุกลาม อ่านข่าว : ใครเกิดทันบ้าง? ย้อนอดีตรู้จัก "เพจเจอร์" เครื่องมือสื่อสารยุค 90 ไขรหัสลับในกระแสเลือด จำเป็นไหมที่ต้องรู้จักกรุ๊ปเลือดตัวเอง ? "พินัยกรรม" สำคัญอย่างไร เลือกทำแบบไหนดี

เหตุการณ์ชุลมุนท้ายเกมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลชายซีเกมส์ ที่ทีมชาติไทย แพ้ อินโดนีเซีย 2-5 ในช่วงต่อเวลาพิเศษส่งผลให้นักเตะและทีมงานทั้ง 2 ทีมถูกใบแดงมากถึง 8 ใบ เมื่อวานนี้ (18 พ.ค.66) สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่ง