วันนี้ (14 เม.ย.2564) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า ตำรวจตรวจคน

วันนี้ (23 ม.ค.2566) สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของระบบเวียร์ (VIIRS) ไทยพบจุดความร้อนเมื่อวานนี้ (22 ม.ค.) จำนวน 681 จุด ในขณะ

วันนี้ (22 ธ.ค.2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก "อีลอน มัสก์" ก้าวขึ้นมากุมบังเหียนทวิตเตอร์ ไม่เพียงแต่ทำให้คนนับไม่ถ้วนหนีจากสื่อสังคมออนไลน์เจ้านี้แล้ว ยังทำให้หุ้นของเทสลา ซึ่งเปรียบเสมือนกระเป๋าเงินหลักของมหาเศรษฐีคนนี้ดิ่งลงมากกว่า 65% นับตั้งแต่ต้นปี 2565 จนนักลงทุนต้องขอให้มัสก์กลับมาทุ่มเทให้กับการบริหารบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของโลกเหมือนเดิม อีลอน มัสค์ ตัดสินใจเปิดรับความคิดเห็นของผู้ใช้งานทวิตเตอร์ โดยให้โหวตว่ามัสก์ควรจะลงจากเก้าอี้ผู้นำทวิตเตอร์หรือไม่ ซึ่ง 57.5% จากคะแนนโหวตทั้งหมดมากกว่า 17.5 ล้านเสียงสนับสนุนแนวคิดนี้ และเป็นที่มาของการคาดเดากันว่าใครจะมารับไม้ต่อ คนแรก "จาเรด คุชเนอร์" สามีของลูกสาวโดนัล ทรัมป์ และอดีตที่ปรึกษาผู้นำสหรัฐฯ สมัยทรัมป์เป็นประธานาธิบดี คุชเนอร์ถูกมองว่าอาจกลายมาเป็นตัวเลือกม้ามืดของอีลอน มัสค์ ขณะที่มีภาพถ่ายตอนพวกเขาเจอกันที่กาตาร์ ระหว่างกำลังชมการแข่งขันฟุตบอลโลกนัดชิงชนะเลิศ ซึ่งหลังเจอกันไม่นาน มัสก์ก็เปิดโหวตลงจากเก้าอี้ทันที นอกจากจะมีอำนาจในฐานะคนตระกูลทรัมป์แล้ว คุชเนอร์ยังมีสายสัมพันธ์กับราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย โดยเฉพาะกับเจ้าชายอัลวาลีด บิน ทาลาล ผู้ถือหุ้นทวิตเตอร์รายใหญ่อันดับ 2 ด้วย ส่วน 2 คนนี้โอกาสที่จะได้รับเลือกมีน้อยมาก ทั้ง "เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน" อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ที่เปิดโปงข้อมูลลับสุดยอดของรัฐบาลอเมริกันเมื่อปี 2013 หากได้เป็นผู้บริหารทวิตเตอร์ก็อาจเผชิญกับความยากลำบาก เพราะขณะนี้สโนว์เดนอยู่ในกรุงมอสโกและได้สัญชาติรัสเซียแล้ว ซึ่งเขาบอกไว้แล้วว่าหากทำงานจะขอรับเงินเดือนเป็นบิทคอย ขณะที่ "Snoop Dogg" แร็ปเปอร์ชื่อดังชาวอเมริกันก็ติดโผด้วย เขาเปิดโหวตแบบเดียวกับมัสก์ โดยตั้งคำถามว่าเขาควรจะบริหารทวิตเตอร์หรือไม่ ผลปรากฏว่าได้คะแนนสนับสนุนไปมากถึง 81% ชนะแบบขาดลอย แม้การเสนอตัวแบบขำๆ ในครั้งนี้เป็นเพียงแค่เรื่องสนุกและสร้างสีสันเท่านั้น แต่ก็เรียกเสียงตอบรับจากแฟนๆ ได้ไม่น้อย ตัวเลือกที่มาพร้อมประสบการณ์ที่หลายคนมองว่ามีคุณสมบัติเหมาะสม คือ "แจ็ค ดอร์ซีย์" ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีต CEO ของทวิตเตอร์ ซึ่งลาออกเมื่อเดือน พ.ย.2021 ซึ่งดอร์ซีย์เคยสนับสนุนให้มัสก์เข้าซื้อกิจการทวิตเตอร์ด้วย แต่โอกาสที่ดอร์ซีย์กลับมากุมบังเหียนทวิตเตอร์เป็นรอบที่ 3 อาจเป็นไปได้ยากพอสมควร เพราะขณะนี้เขากำลังเดินหน้าสนับสนุนสื่อสังคมออนไลน์น้องใหม่อย่าง Bluesky Social ที่เขาปั้นขึ้นเองกับเปลี่ยนหน้าไพ่ บา ค่า ร่ามืออีกหนึ่งแพลตฟอร์ม ตัวเลือกที่เป็นไปได้มากที่สุดตัวเลือกหนึ่ง คือ "ศรีราม คริชนาน" หนึ่งในคนใกล้ชิดเพียงไม่กี่คนที่มัสก์เชื่อใจมากที่สุด มีประสบการณ์การทำงานทั้งในเมตา ไมโครซอฟต์ และที่สำคัญเคยทำงานกับทวิตเตอร์มาก่อน ปัจจุบันคริชนานกำลังลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพด้านคริปโต ซึ่งหากมัสก์เลือกเขามานั่งเก้าอี้ผู้บริหาร น่าจะช่วยผลักดันไอเดียสร้างระบบจ่ายเงินสำหรับทวิตเตอร์ที่มัสก์วาดฝันเอาไว้ได้ ขณะที่ "เชอริล แซนเบิร์ก" กลายเป็นตัวเลือกผู้บริหารหญิงเพียงไม่กี่คนที่คาดว่าจะเข้าตาเจ้าของทวิตเตอร์ โดยเป็นอดีตมือขวาของ "มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก" และเคยเป็นประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของบริษัทเมตา แต่ลาออกไปตั้งแต่เมื่อเดือน มิ.ย. ดังนั้นจึงพร้อมทำงานทันทีหากได้รับเลือก ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของรายชื่อที่นักวิเคราะห์คาดการณ์กันไว้เท่านั้น แต่ไม่ว่าใครจะขึ้นมาแทนอีลอน มัสค์ ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายมากมายที่รออยู่ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อใจพนักงานที่หมดกำลังใจทำงานจากการบริหารงานของเจ้าของคนใหม่ และการเรียกความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้ใช้งานให้กลับมาอยู่กับทวิตเตอร์อีกครั้ง หลังจากหลายคนผิดหวังกับนโยบายของสื่อสังคมออนไลน์เจ้านี้ อย่างไรก็ตาม มัสก์เคยบอกไว้ว่าแม้จะมีผู้บริหารคนใหม่ แต่เขาจะย้ายไปทำงานในทีมซอฟต์แวร์และเซอร์เวอร์ แทน ดังนั้นคนที่ได้นั่งเก้าอี้ CEO อาจหนีไม่พ้นแรงกดดันจากเจ้าของตัวจริง ข่าวที่เกี่ยวข้อง "อีลอน มัสก์" ทำโพลล์ ควรลงจากตำแหน่ง "ผู้บริหารทวิตเตอร์" หรือไม่ "อีลอน มัสก์" พร้อมลาเก้าอี้ CEO ทวิตเตอร์ หลังโพลล์โหวตเห็นด้วย 57%

วันนี้ (22 ธ.ค.2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก "อีลอน มัสก์" ก้าวขึ้นมากุมบังเหียนทวิตเตอร์ ไม่เพียงแต่ทำให้คนนับไม่ถ้วนหนีจากสื่อสังคมออนไลน์เจ้านี้แล้ว ยังทำให้หุ้นของเทสลา ซึ่งเปรียบเสมือนกระเป๋