UID: 17346

วันนี้ (29 เม.ย.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าวของสมาพันธ์สภาวิชาชีพรวมใจกู้ภัย COVID-19 โด

เมื่อวันที่ 28 ก.พ.2565 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธาร

วันนี้ (29 เม.ย.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าวของสมาพันธ์สภาวิชาชีพรวมใจกู้ภัย COVID-19 โดยผนึกกำลัง 11 สภาวิชาชีพ ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข เป็นประธาน น.ส.ทัศนา บุญทอง นายกสภาการพยาบาล ในประธานสมาพันธ์สภาวิชาชีพ กล่าวว่า จากสถานการณ์ COVID-19 พบว่าบุคลากรทั้งแพทย์ พยาบาลต่างทำงานอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงมีทั้งแพทย์พยาบาลติดเชื้อ และถูกกักตัว ในแต่ละโรงพยาบาล มีพยาบาลติดเชื้อกักตัวเฉลี่ย 20-30 คน น.ส.ทัศนา กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นพบในโรงเรียนแพทย์พื้นที่กทม.ทำให้สูญเสียบุคลากรในการทำงาน ทำให้งานหนักล้นมือ บางโรงพยาบาล1 คน ดูแลผู้ป่วยมากถึง 100 เตียงจากเดิมพยาบาล 1 คนดูแล 20 เตียงเท่านั้น จึงถือว่าเป็นภาวะวิกฤต จึงอยากเชิญชวนทุกวิชาชีพร่วมกันเป็นอาสาสมัครในการช่วยแก้ไขวิกฤต ขณะที่นายอนุทิน กล่าวว่า หากได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายวิชสล็อต joker ฟรีslotxo 9าชีพต่างๆ ที่มีสมาชิกมากกว่า​ 500,000 คน ช่วยเหลือสนับสนุน ​เชื่อว่าการฉีดวัคซีน COVID-19 ให้กับคนไทยจำนวนมาก จะเป็นไปตามเป้าหมายในเดือนมิ.ย.นี้ อ่านข่าวเพิ่ม เช็กกฎหมาย ! รพ.ปฏิเสธคนไข้-ผู้ติดเชื้อปกปิดข้อมูล ภาพ :ศูนย์นเรนทรนครศรีธรรมราช - ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ1669 ภาพ :ศูนย์นเรนทรนครศรีธรรมราช - ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ1669 ก่อนหน้านี้มีการรายงานพบว่าโรงพยาบาลในต่างจังหวัดหลายแห่งก็ประสบปัญหาต้องกักตัวบุคลากรแพทย์และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เช่น ล่าสุดกรณีโรงพยาบาลสามพราน จ.นครปฐม ที่ต้องปิดห้องผ่าตัด 14 วัน เริ่ม 27 เม.ย.- 10 พ.ค. พร้อมกักตัวบุคลากรแพทย์อีก 40 คน เจอคนป่วย COVID-19 ปกปิดข้อมูล ส่วนที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่พยาบาลงานเวชศาสตร์ฉุกเฉิน จำนวน 10 คนต้องถูกกักตัวติดตามอาการ  หลังผู้ป่วยรายหนึ่งตรวจพบเชื้อ COVID-19 แต่ปกปิดข้อมูลและประวัติการเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงสูงซึ่งเหตุการณ์นี้พยาบาลบางคนถึงกับร้องไห้ เช่นเดียวกับที่โรงพยาบาลขอนแก่นเมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา ต้องประกาศกักตัวบุคลากรทางการแพทย์ 105 คน จำนวน 14 วัน หลังพบมีความเสี่ยงสูงติดเชื้อ โดยศูนย์นเรนทรนครศรีธรรมราช ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ1669 โพสต์ภาพสะเทือนใจระบุว่า 25 ผลของการที่ปกปิดข้อมูล ทำให้เจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉิน ต้องโดนกักตัวหลายท่าน หน่วยงานขาดบุคลากร ซึ่งปกติก็ขาดอยู่แล้ว หลายคนมีลูกรออยู่ที่บ้าน บางคนทำงานตั้งแต่สงกรานต์ยังไม่ได้กลับไปเยี่ยมพ่อแม่ที่บ้าน ทุกคนมีครอบครัวรออยู่ที่บ้าน แต่เมื่อวานพวกเขาไม่ได้กลับบ้าน ต้องเดินน้ำตาตกเข้าไปกัก ตัวในโรงพยาบาล เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมจากสิ่งที่เกิดขึ้นเนื่องจากที่เข้าช่วยเหลือผู้ป่วย ขณะที่นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ โพสต์เฟซบุํก Arak Wongworachat ชี้ให้เห็นถึงเบื้องหลังการทำงานของพยาบาลในหอผู้ป่วย COVID-19 โดยนพ.อารักษ์ ระบุว่า ยอดผู้ป่วยโดยรวมเวลานี้ 85 คนและมีแนวโน้มเติมมาเรื่อยๆ ทำให้ต้องมีทีมหมอ ส่งข้อมูลให้ทีมพยาบาลทุก 4-6 ชั่วโมง หากมีผู้ป่วยรายใดที่มีระดับออกซิเจนในเลือดลดลง ก็จะรายงานแพทย์เพื่อเอาเครื่องให้ออกซิเจนแรงดันสูงมาใช้งานทันที การให้ยาต้านไวรัส หรือแบคทีเรีย อื่นๆ เป็นไปตามมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยแต่ละระดับความรุนแรงของผู้ป่วยแต่ละราย ภาพ : นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผอ.รพ.สิชล ภาพ : นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผอ.รพ.สิชล แม้สามารถติดตามได้ทางกล้อง แต่ก็ต้องเข้าไปตรวจด้วยตนเองเพราะบางรายอาการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก จึงมักเห็นภาพการงีบหลับบนโต๊ะทำงานหรือเปลี่ยนอิริยาบถ นั่งพื้นก้มหน้าฟุบหลับบนเก้าอี้ก็มี แม้จะมีฟูกให้นอน แต่ก็ไม่เคยปริปากบ่นท้อถอย ยังคงทำหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบอย่างแข็งขัน แพทย์เวรจะคอยสั่งการรักษา ปรึกษาจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด เมื่อครบ 14 วัน ผลัดชุดใหม่เข้ามาแทนรับไม้ต่อ ชุดเดิมกักตัวต่อ อีก 14 วัน และตรวจหาเชื้อตามเวลาที่กำหนด เป็นอีกมุมหนึ่งของทีมแพทย์ พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล ในหอผู้ป่วย COVID-19 ช่วงนี้จึงขอให้อยู่บ้าน ห่างกันไว้ จะช่วยลดความอ่อนล้าของบุคลากรทางการแพทย์ได้มาก และเอาชนะได้ในไม่ช้า #เบื้องหลังการทำงานของพยาบาลในหอผู้ป่วยโควิด ยอดผู้ป่วยโดยรวมเวลานี้กว่า85 ราย และมีแนวโน้มเติมมาเรื่อยๆ... อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ศบค.ขอประชาชน " WFH 100 % - 12 จว.งดออกนอกเคหสถาน" วุ่น! คนไข้ปกปิดป่วยโควิด รพ.สามพรานปิดห้องผ่าตัด 14 วัน พยาบาลร่ำไห้ ต้องกักตัว 14 วัน หลังผู้ป่วยโควิดปกปิดข้อมูล รพ.ขอนแก่นกักตัวบุคลากรเสี่ยงสูง 105 คน งดรับคนป่วยส่งต่อ

ภาพถุงยางอนามัย จากผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ"ชีวิตกับการเดินทางไกล" ถูกส่งต่อและวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวา