จากกรณีเรือดำน้ำ KRI Nanggala-402 พร้อมลูกเรือ 53 นายของกองทัพเรืออินโดนีเซียขาดการติดต่อ ในระหว่างการซ้อมยิงตอร์ปิโด กลายเป็นภารกิจกู้ภัยเรือดำน้ำที่ซับซ้อนอย่างมาก โดยมีการคาดว่าเรือดำน้ำลำดังกล่าวอ
จากกรณีเรือดำน้ำ KRI Nanggala-402 พร้อมลูกเรือ 53 นายของกองทัพเรืออินโดนีเซียขาดการติดต่อ ในระหว่างการซ้อมยิงตอร์ปิโด กลายเป็นภารกิจกู้ภัยเรือดำน้ำที่ซับซ้อนอย่างมาก โดยมีการคาดว่าเรือดำน้ำลำดังกล่าวอาจจมไปอยู่ที่ความลึกกว่า 700 เมตร ยิ่งกลายเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ภารกิจนี้ต้องการอุปกรณ์กู้ภัยที่มีศักยภาพมาก หากย้อนไปยังจุดที่เรือดำน้ำลำนี้ขาดการติดต่อไป ตั้งแต่เวลา 04.30 น. เมื่อวานนี้ ตามเวลาท้องถิ่น อยู่ห่างจากเกาะบาหลีขึ้นไปทางเหนือราว ๆ 100 กิโลเมตร ตามข่าวคาดว่า ออกซิเจนจะมีเพียงพอไปจนถึงเช้ามืดของวันเสาร์นี้ ซึ่งเท่ากับว่าจะเหลือเวลาอีกไม่ถึง 48 ชั่วโมง หากช่วยเหลือไม่ทันเวลา เหตุการณ์ครั้งนี้อาจซ้ำรอยโศกนาฏกรรม ที่เคยเกิดขึ้นกับเรือดำน้ำหลายต่อหลายครั้งในอดีต หนึ่งในนั้นหนีไม่พ้นเหตุที่เกิดขึ้นกับเรือดำน้ำคูร์สก์ของรัสเซีย ที่เกิดระเบิดขึ้นและจมลงสู่ก้นทะเลแบเรนต์สเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2543หลังจากเกิดไฟไหม้บนเรือและเกิดระเบิดใต้น้ำ พร้อมลูกเรือ 118 นาย ซึ่งลูกเรือมากกว่า 20 นาย มีชีสล็อต 888 ฟรีเครดิต ได้เงินจริงวิตรอดอยู่นานหลายวัน ก่อนที่จะเสียชีวิตลงในที่สุด เนื่องจากภารกิจกู้ภัยดำเนินไปอย่างล่าช้า ระบบการกู้ภัยเรือดำน้ำที่จมลึกลงไปเกินกว่าระดับที่ลูกเรือจะสามารถว่ายน้ำขึ้นมายังผิวน้ำเองได้ เนื่องจากด้านบนคือเรือกู้ภัยเรือดำน้ำ ซึ่งมีห้องปรับแรงดันเอาไว้สำหรับรองรับลูกเรือที่ช่วยขึ้นมา ขณะที่ยานกู้ภัยเรือดำน้ำที่มีหลายชนิด ทนแรงดันน้ำได้ในความลึกหลายระดับ แตกต่างกันไปตามศักยภาพของแต่ละประเทศ จะถูกส่งลงไปทยอยรับลูกเรือขึ้นมายังผิวน้ำ เหตุการณ์หนึ่งที่มีความพยายามนำอุปกรณ์เหล่านี้ไปใช้งาน คือ การกู้ภัยเรือดำน้ำซาน ฮวน ของกองทัพเรืออาร์เจนตินา ที่ขาดการติดต่อไป เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2560 พร้อมลูกเรือ 44 คน แต่น่าเสียดายที่หาเรือดำน้ำไม่พบ กระทั่งผ่านไป 1 ปีเต็ม อย่างไรก็ตาม นอกจากอินโดนีเซียที่มีฝูงเรือดำน้ำประจำการแล้ว ชาติอื่น ๆ ในอาเซียนก็มีเรือดำน้ำและมีแผนจะจัดซื้อเรือดำน้ำอยู่หลายประเทศเช่นกัน ในจำนวนนี้มีแค่สิงคโปร์ มาเลเซียและเวียดนามเท่านั้น ที่มีเรือกู้ภัยเรือดำน้ำพร้อมสำหรับรับมือเหตุไม่คาดฝันเหล่านี้ โดยเฉพาะเวียดนามที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย สามารถต่อเรือกู้ภัยเรือดำน้ำได้เองภายในประเทศ ส่วนอินโดนีเซียซึ่งมีเรือดำน้ำมากเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาค กลับไม่มีเรือกู้ภัยเรือดำน้ำ ดังนั้น สิ่งที่ไทยซึ่งกำลังจะมีเรือดำน้ำเป็นของตัวเองในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ จะต้องย้อนมาคิด ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องการเตรียมการรับมือกับเหตุสุดวิสัยที่อาจเกิดขึ้นได้ กรณีนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงทางทหาร ระบุว่า ไทยเตรียมความพร้อมในด้านนี้เอาไว้แล้ว โดยจะใช้เรือสนับสนุนการยกพลขึ้นบก เป็นทั้งเรือพี่เลี้ยงและเรือกู้ภัยเรือดำน้ำ โดยบนเรือเอนกประสงค์จะมีอุปกรณ์สำคัญ คือ ถังปรับความดันบรรยากาศซึ่งกองทัพเรือของเรามีอยู่แล้ว มีปั้นจั่นสำหรับยกเรือ และยานกู้ภัยน้ำลึกสำหรับช่วยเหลือลูกเรือในเรือดำน้ำ ทั้งนี้ ภารกิจดังกล่าวอาจเป็นสิ่งที่ไทยจะต้องขบคิดกันต่อว่า ถึงวันที่มีเรือดำน้ำขึ้นมาจริง ๆ แล้ว จะทำแผนการกู้ภัยออกมาอย่างไรให้รอบคอบ รัดกุม เพราะขนาดอินโดนีเซียที่มีเรือดำน้ำมาก่อนไทยนานหลายสิบปี ยังเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมาได้ อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง อินโดนีเซียเร่งค้นหาเรือดำน้ำพร้อม 53 ลูกเรือ ขาดการติดต่อนอกชายฝั่งบาหลี
วันนี้ (21 ก.ย.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์พื้นที่ลุ่มต่ำ ที่จ.นครพนม โดยเฉพาะ อ.บ้านบ้านแพง หมู่ 7 ที่อยู่ติดกับแม่น้ำโขง ล่าสุดน้ำในพื้นที่ลดลงไป 30 เซนติเมตร ทำให้บ้านเรือนที่เคยถูกน้ำท่วมห
วันนี้ (10 มี.ค.2565) พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผอ.สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโ
- สล็อต 888 ฟรีเครดิต ได้เงินจริง
- ecopayz bet365
- หา เว็บ แทง บอล
- ฟุตบอลออนไลน์sboคาสิโนออนไลน์จีคลับ
- ufa191 แจก เงิน
- jili slot เล่นผ่านเว็บ
นิยายชีวิต โดย : Nashih Nashrullah
เรื่องและภาพโดย : Nashih Nashrullah
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..